พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๔. อันธกวินทสูตร ว่าด้วยธรรมของภิกษุใหม่ ๕ ประการ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  27 ต.ค. 2564
หมายเลข  39184
อ่าน  487

[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 253

ตติยปัณณาสก์

อันธกวินทวรรคที่ ๒

๔. อันธกวินทสูตร

ว่าด้วยธรรมของภิกษุใหม่ ๕ ประการ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 36]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 28 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 253

๔. อันธกวินทสูตร

ว่าด้วยธรรมของภิกษุใหม่ ๕ ประการ

[๑๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่อันธกวินทวิหาร ในแคว้นมคธ ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระ-

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 28 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 254

ภาคเจ้าได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า ดูก่อนอานนท์ พวกภิกษุใหม่ บวชไม่นาน มาสู่ธรรมวินัยนี้ใหม่ๆ เธอทั้งหลายพึงให้สมาทาน ให้ตั้งมั่น ให้ประดิษฐานอยู่ในธรรม ๕ ประการ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ

ภิกษุใหม่เหล่านั้น อันเธอทั้งหลาย พึงให้สมาทาน ให้ตั้งมั่น ให้ประดิษฐานอยู่ในปาติโมกขสังวร ดังนี้ว่า อาวุโส ท่านทั้งหลายจงมา จงเป็นผู้มีศีล จงเป็นผู้สำรวมในปาติโมกขสังวร จงเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยอาจาระ และโคจร มีปกติเห็นภัยในโทษมีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ๑.

ภิกษุใหม่เหล่านั้น อันเธอทั้งหลายพึงให้สมาทาน ให้ตั้งมั่น ให้ประดิษฐานอยู่ในอินทรียสังวร ดังนี้ว่า อาวุโส ท่านทั้งหลายจงมา จงเป็นผู้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย จงเป็นผู้มีสติเครื่องรักษาทวาร รักษาตน มีใจที่รักษาดีแล้ว ประกอบด้วยจิตมีสติเป็นเครื่องรักษา ๑.

ภิกษุใหม่เหล่านั้น อันเธอทั้งหลายพึงให้สมาทาน ให้ตั้งมั่น ให้ประดิษฐานอยู่ในการทำที่สุดแห่งคำพูด ดังนี้ว่า อาวุโส ท่านทั้งหลายจงมา จงเป็นผู้มีคำพูดน้อย จงเป็นผู้ทำที่สุดแห่งคำพูด [อย่าพูดมาก] ๑. ภิกษุใหม่เหล่านั้น อันเธอทั้งหลายพึงให้สมาทาน ให้ตั้งมั่น ให้ประดิษฐานอยู่ในการทำความสงบแห่งกาย ดังนี้ว่า อาวุโส ท่านทั้งหลายจงมา จงเป็นผู้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร จงเสพอาศัยเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า และป่าเปลี่ยว ๑.

ภิกษุใหม่เหล่านั้น อันเธอทั้งหลายพึงให้สมาทาน ให้ตั้งมั่น ให้ประดิษฐานอยู่ในความเห็นชอบ ดังนี้ว่า อาวุโส ท่านทั้งหลายจงมา จงเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ ประกอบด้วยสัมมาทัสสนะ ๑.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 28 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 255

ดูก่อนอานนท์ พวกภิกษุใหม่ บวชไม่นาน มาสู่ธรรมวินัยนี้ใหม่ๆ เธอทั้งหลายพึงให้สมาทาน ให้ตั้งมั่น ให้ประดิษฐานอยู่ในธรรม ๕ ประการ นี้แล.

จบอันธกวินทสูตรที่ ๔

อรรถกถาอันธกวินทสูตร

พึงทราบวินิจฉัย ในอันธกวินทสูตรที่ ๔ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า สีลวา โหถ ความว่า จงเป็นผู้มีศีล. บทว่า อารกฺขสติโน ความว่า เป็นผู้ประกอบด้วยสติ เป็นเครื่องรักษา. บทว่า นิปกสติโน ความว่า มีสติประกอบด้วยญาณ เป็นเครื่องรักษา นั่นแหละ. บทว่า สตารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคตา ความว่า ประกอบด้วยจิต ที่มีเครื่องรักษา คือ สติ. บทว่า อปฺปภสฺสา แปลว่า พูดแต่น้อย. บทว่า สมฺมาทิฏฺิกา ความว่า ประกอบด้วยสัมมาทิฏฐิ ๕ อย่าง คือ กัมมัสสกตา ๑ ฌาน ๑ วิปัสสนา ๑ มรรค ๑ ผล ๑. อีกอย่างหนึ่ง แม้ปัจจเวกขณญาณ ก็พึงทราบว่า เป็นสัมมาทิฏฐิเหมือนกัน.

จบอรรถกถา อันธกวินทสูตรที่ ๔