โกรธเขาแล้ว จักทำอะไรได้ [สติปัฏฐานสูตร]

 
webdh
วันที่  8 มิ.ย. 2550
หมายเลข  3942
อ่าน  949

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 746

ข้อความบางตอนจาก

อรรถกถาสติปัฏฐานสูตร

เมื่อพระโยคาวจร พิจารณาเห็นว่าคนและคนอื่นมีกรรมเป็นของตน อย่างนี้ว่า เจ้าโกรธเขาแล้ว จักทำอะไรได้ เจ้าจักสามารถทำคุณธรรม มีศีลเป็นต้น ของเขาให้พินาศได้หรือ เจ้ามาตามกรรมของตนแล้ว ก็จักไป ตามกรรมของตนนั่นเอง มิใช่หรือ? ชื่อว่า การโกรธคนอื่นเป็นเหมือน กับการที่บุคคลประสงค์จะคว้าเอาเถ้าที่ปราศจากเปลว หลาวเหล็กที่ร้อน และคูถ เป็นต้น ขว้างปาบุคคลอื่น ถึงเขาโกรธเจ้าแล้วก็จักทำอะไรให้ได้ เขาจักสามารถให้คุณธรรมมีศีลเป็นต้น ของเจ้าพินาศได้หรือ? เขามา ตามกรรมของตน ก็จักไปตามกรรมของตนเหมือนกัน ความโกรธนั้น ก็จักตกรดหัวเขานั่นแหละ เหมือนของที่ส่งไป ไม่มีใครรับ (ก็จะกลับ มาหาผู้ส่ง) และเหมือนกำฝุ่นที่ซัดไป ทวนลม (ก็จะปลิวกลับมาถูกผู้ ขว้าง) ฉะนั้นบ้าง พิจารณาเห็นว่า ทั้งตน ทั้งคนอื่น มีกรรมเป็นของตน


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 8 มิ.ย. 2550

[เล่มที่ 11] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 160

ในบทเหล่านั้น บทว่า ปเรส ความว่า ก็คนมักโกรธ ย่อมไม่รู้ ทั่วถึงเนื้อความของคำที่เป็นสุภาษิต และคำที่เป็นทุพภาษิต ของคน พวกใดพวกหนึ่ง คือ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยสาวก หรือมารดาบิดา หรือคนที่เป็นข้าศึกได้เลย. อย่างที่ตรัสไว้ว่า คนโกรธย่อมไม่รู้อรรถ คนโกรธย่อมไม่เห็นธรรม เมื่อนรชนถูกความโกรธครอบงำ ย่อมมืดตื้อทันที ความโกรธก่อให้เกิดความพินาศ ความโกรธทำให้ จิตกำเริบ ชนไม่รู้จักความโกรธซึ่งเป็นภัยเกิดในจิต ดังนี้.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
orawan.c
วันที่ 8 มิ.ย. 2550
ต้องมั่นคงเรื่องกรรมและผลของกรรม
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 8 มิ.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 286

ข้อความบางตอนจาก

อรรถกถา จูฬโพธิจริยา

เรื่อง โทษของความโกรธ

ลำดับนั้น พระมหาบุรุษเมื่อจะประกาศโทษของความโกรธ โดยประการต่างๆ แด่พระราชานั้น จึงแสดงธรรมด้วยคาถาเหล่านี้ว่า :- เมื่อความโกรธใดเกิดขึ้น ย่อมไม่เห็น ประโยชน์ เมื่อความโกรธไม่เกิดย่อมเห็น เป็นอย่างดี. ความโกรธนั้นเป็นโคจรของตน ไร้ปัญญา เกิดขึ้นแก่อาตมา อาตมาใช่ปล่อย ออก. เหล่าอมิตรผู้แสวงหาทุกข์ ย่อมยินดี ด้วยความโกรธใดที่เกิดแล้ว ความโกรธนั้น เป็นโคจรของคนไร้ปัญญา เกิดขึ้นแล้วแก่ อาตมา อาตมาไม่ปล่อยออก. อนึ่ง เมื่อ ความโกรธใดเกิดขึ้นบุคคลย่อมไม่รู้สึกถึง ประโยชน์ตน ความโกรธนั้นเป็นโคจรของ คนไร้ปัญญา เกิดขึ้นแก่อาตมา อาตมาไม่ ปล่อยออก

บุคคลถูกความโกรธใดครอบงำ ย่อม ละกุสลธรรมกำจัดประโยชน์แม้ในมูลออกไป เสีย. มหาบพิตรความโกรธนั้น เป็นเสนาของ ความน่ากลัว มีกำลังย่ำยีสัตว์ อาตมาไม่ ปล่อยออกไป

เมื่อไม้ถูกสี ไฟย่อมเกิด. ไฟย่อมเผา ไม้นั้น. เพราะไฟเกิดแต่ไม้. เมื่อคนปัญญา อ่อน โง่ เซ่อ ความโกรธย่อมเกิดเพราะความ ฉุนเฉียว คนพาลแม้นั้นก็ย่อมถูกความโกรธ นั้นเผาผลาญ ความโกรธย่อมเจริญแก่ผู้ใด เหมือนไฟที่หญ้าและไม้ ยศของผู้นั้นย่อม เสื่อมเหมือนดวงจันทร์ในวันข้างแรม ฉะนั้น. ความโกรธของผู้ใดสงบ เหมือนไฟไม่ มีเชื้อ ยศของผู้นั้นย่อมเต็มเปี่ยมเหมือน ดวงจันทร์ในวันข้างขึ้น

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
narong.p
วันที่ 10 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 16 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ