ปฐมวลาหกสูตร - ทุติยวลาหกสูตร - ๐๙ มิ.ย. ๒๕๕๐

 
บ้านธัมมะ
วันที่  8 มิ.ย. 2550
หมายเลข  3944
อ่าน  2,434

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

••• ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย •••

สนทนาธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ ๙ มิ.ย. ๒๕๕๐

เวลา ๐๙:๐๐ - ๑๒:๐๐ น.

ปฐมวลาหกสูตร

ว่าด้วยบุคคลเปรียบด้วยวลาหก ๔

[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 280

ทุติยวลาหกสูตร

ว่าด้วยบุคคล ๔ จำพวก

[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 282

นำการสนทนาโดย ..

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 8 มิ.ย. 2550

[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 280

วลาหกวรรคที่ ๑

๑๐. ปฐมวลาหกสูตร

ว่าด้วยบุคคลเปรียบด้วยวลาหก ๔

[๑๐๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้น ทูลรับดำรัสพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์ นี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหก (คือเมฆฝน) ๔ ประเภทนี้ วลาหก ๔ ประเภทคืออะไร คือ

คชฺชิตา โน วสฺสิตา วลาหกคำราม แต่ไม่ตก

วสฺสิตา โน คชฺชิตา วลาหกตก แต่ไม่คำราม

เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตา วลาหกไม่คำราม ไม่ตก

คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ วลาหกทั้งคำราม ทั้งตก

นี้แล วลาหก ๔ ประเภท ฉันเดียวกันนั่นแล ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเปรียบด้วยวลาหก ๔ จำพวก นี้มีปรากฏอยู่ในโลก บุคคลเปรียบด้วยวลาหก ๔ จำพวก คืออะไร คือ บุคคลดุจวลาหกคำราม แต่ไม่ตก ๑ บุคคลดุจวลาหกตก แต่ไม่คำราม ๑ บุคคลดุจวลาหกไม่คำราม ไม่ตก ๑ บุคคลดุจวลาหกทั้งคำรามทั้งตก ๑ ก็บุคคลดุจวลาหกคำราม แต่ไม่ตกเป็นอย่างไร? บุคคลบางคนใน โลกนี้เป็นคนพูด แต่ไม่ทำ, อย่างนี้แล บุคคลดุจวลาหกคำราม แต่ไม่ตก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหกคำราม แต่ไม่ตกนั้นฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้ว่ามี อุปมาฉันนั้น

บุคคลดุจวลาหก ตก แต่ไม่คำราม เป็นอย่างไร บุคคลบางคนใน โลกนี้เป็นคนทำ ไม่พูด, อย่างนี้แล บุคคลดุจวลาหก แต่ไม่คำราม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหกตก แต่ไม่คำราม นั้นฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้ว่ามี อุปนาฉันนั้น

บุคคลดุจวลาหก ไม่คำราม ไม่ตก เป็นอย่างไร บุคคลบางตนใน โลกนี้เป็นคนไม่พูด ไม่ทำเสียเลย, อย่างนี้แล บุคคลดุจวลาหกไม่คำราม ไม่ตก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหกไม่คำราม ไม่ตก นั้นฉันใด เรากล่าวบุคคล นี้ว่า มีอุปมาฉันนั้น

บุคคลดุจวลาหกทั้งคำรามทั้งตก เป็นอย่างไร บุคคลบางคนใน โลกนี้เป็นคนพูดด้วย ทำด้วย อย่างนี้แล บุคคลดุจวลาหกทั้งคำราม ทั้งตก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหกคำรามด้วย ตกด้วยนั้นฉันใด เรากล่าว บุคคลนี้ว่ามีอุปมาฉันนั้น

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล บุคคลเปรียบด้วยวลาหก ๔ จำพวก มี ปรากฏอยู่ในโลก

จบปฐมวลาหกสูตรที่ ๑

อรรถกถาปฐมวลาหกสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในปฐมวลาหกสูตรที่ ๑ แห่งตติยปัณณาสก์ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า วลาหกา คือ เมฆ

บทว่า ภาสิตา โหติ โน กตฺตา ความว่า บุคุคลบางคนพูดอย่างเดียวว่า เราจักทำสิ่งนี้ๆ แต่ไม่ทำ

บทว่า กตฺตา โหติ โน ภาสิตา ความว่า บุคคลบางคนไม่พูด แต่ทำด้วยคิดว่า ควรที่เราจะทำสิ่งนี้ๆ ดังนี้ พึงทราบเนื้อความในบททั้งปวงอย่างนี้

จบ อรรถกถาปฐมวลาหกสูตรที่ ๑

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
study
วันที่ 8 มิ.ย. 2550

[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 282

๒. ทุติยวลาหกสูตร

ว่าด้วยบุคคล ๔ จำพวก

[๑๐๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหก ๔ ประเภทนี้ ฯลฯ คือ คชฺชิตา โน วสฺสิตา วลาหกคำราม แต่ไม่ตก วสฺสิตา โน คชฺชิตา วลาหกตก แต่ไม่คำราม เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตา วลาหกไม่คำราม ไม่ตก คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ วลาหกทั้งคำราม ทั้งไม่ตก นี้แล วลาหก ๔ ประเภท ฉันเดียวกันนั่นแล บุคคลเปรียบด้วยวลาหก ๔ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ ฯลฯ คือบุคคลดุจวลาหกคำราม แต่ไม่ตก ๑ บุคคลดุจวลาหกตก แต่ไม่คำราม ๑ บุคคลดุจวลาหกไม่คำราม ไม่ตก ๑ บุคคลดุจวลาหกทั้งคำราม ทั้งตก ๑

บุคคลดุจวลาหก คำราม แต่ไม่ตก เป็นอย่างไร บุคคลบางคนใน โลกนี้เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ แต่เขาไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา อย่างนี้แล บุคคลดุจวลาหกคำราม แต่ไม่ตก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหกคำราม แต่ไม่ตกนั้นฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้ว่านีอุปมาฉันนั้น

บุคคลดุจวลาหกตก แต่ไม่คำราม เป็นอย่างไร บุคคลบางคนใน โลกนี้หาได้เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ ฯลฯ เวทัลละ ไม่เลย แต่เขารู้ตาม ความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา อย่างนี้แล บุคคล ดุจวลาหกตก แต่ไม่คำราม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหกตกแต่ไม่คำรามนั้น ฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้ว่ามีอุปมาฉันนั้น

บุคคลดุจวลาหก ไม่คำราม ไม่ตก เป็นอย่างไร บุคคลบางคนใน โลกนี้ ไม่ได้เรียนธรรม คือ สุตตะ ฯลฯ เวทัลละ ทั้งไม่รู้ตามความเป็นจริง ว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา อย่างนี้แล บุคคลดุจวลาหก ไม่คำราม ไม่ตก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหกไม่คำราม ไม่ตกนั้นฉันใด เรากล่าวบุคคลนี้ว่ามีอุปมาฉันนั้น

บุคคลดุจวลาหก ทั้งคำราม ทั้งตก เป็นอย่างไร บุคคลบางคนใน โลกนี้ ได้เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ ฯลฯ เวทัลละ ทั้งรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา อย่างนี้แล บุคคลดุจวลาหกทั้งคำราม ทั้งตก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วลาหกคำรามด้วยตกด้วยนั้นฉันใด เรากล่าว บุคคลนี้ว่ามีอุปมาฉันนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แลบุคคลเปรียบด้วยวลาหก ๔ จำพวก มีปรากฏอยู่ในโลก

จบ ทุติยวลาหกสูตรที่ ๒

ทุติยวลาหกสูตรที่ ๒ มีความง่ายทั้งนั้น.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แวะเข้ามา
วันที่ 10 มิ.ย. 2550

รู้จริง คือ รู้สิ่งที่ปรากฏ

รู้ชัด คือ หมดความสงสัย

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
janpreeya
วันที่ 18 มิ.ย. 2550

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
olive
วันที่ 18 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ