๓. ปฐมหัตถกสูตร
[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้า 432
ปัณณาสก์
คหปติวรรคที่ ๓
๓. ปฐมหัตถกสูตร
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 37]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้า 432
๓. ปฐมหัตถกสูตร
[๑๑๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อัคคาฬวเจดีย์ ใกล้เมืองอาฬวี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียก ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงทรงจำหัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี ว่าเป็นผู้ประกอบ ด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ๗ ประการ ๗ ประการ เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี เป็น ผู้มีศรัทธา ๑ มีศีล ๑ มีหิริ ๑ มีโอตตัปปะ ๑ เป็นพหูสูต ๑ มีจาคะ ๑ มีปัญญา ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงทรงจำ หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่า อัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ๗ ประการนี้แล พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคต ครั้นได้ตรัสพระดำรัสนี้แล้ว เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร
ครั้งนั้น เวลาเช้า ภิกษุรูปหนึ่ง นุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปยังนิเวศน์ของหัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี ชั้นแล้ว จึงนั่ง บนอาสนะที่ปูไว้ ลำดับนั้น หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี เข้าไป หาภิกษุนั้น ไหว้แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ภิกษุ นั้นได้กล่าวกะหัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวีว่า ดูก่อนอาวุโส พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ท่าน ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรม ที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ๗ ประการ ๗ ประการเป็นไฉน ก่อน ภิกษุทั้งหลาย หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี เป็นผู้มีศรัทธา ๑
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้า 433
มีศีล ๑ มีหิริ ๑ มีโอตตัปปะ ๑ เป็นพหูสูต ๑ มีจาคะ ๑ มีปัญญา ๑ ดูก่อนอาวุโส พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ท่าน ว่าเป็นผู้ ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ๗ ประการนี้แล หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวีถามว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คฤหัสถ์ไรๆ ผู้นุ่งผ้าขาว ไม่มีในตำแหน่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ นี้หรือ.
ภิ. ดูก่อนอาวุโส ไม่มี.
ห. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดีแล้ว ที่คฤหัสถ์ไรๆ ผู้นุ่งผ้าขาว ไม่มีในตำแหน่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์นี้.
ลำดับนั้น ภิกษุนั้นรับบิณฑบาตในนิเวศน์ของหัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวีแล้ว ลุกจากที่นั่งแล้ว หลีกไป ภายหลงภัต กลับจาก บิณฑบาตแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวาย บังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ในเวลาเช้า ข้าพระองค์นุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปยังนิเวศน์ ของหัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี นั่งบนอาสนะที่เขาปูไว้ ลำดับนั้น หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี เข้ามาหาข้าพระองค์ไหว้แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ข้าพระองค์ได้กล่าวกะหัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวีว่า ดูก่อนอาวุโส พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ ท่าน ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา ๗ ประการ ๗ ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวีเป็นผู้มีศรัทธา ๑ มีศีล ๑ มีหิริ ๑ มีโอตตัปปะ ๑
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้า 434
เป็นพหูสูต ๑ มีจาคะ ๑ มีปัญญา ๑ ดูก่อนอาวุโส พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพยากรณ์ท่าน ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อัน ไม่เคยมีมา ๗ ประการนี้ เมื่อข้าพระองค์กล่าวอย่างนี้แล้ว หัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวี ได้ถามข้าพระองค์ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คฤหัสถ์ไรๆ ผู้นุ่งผ้าขาวไม่มีในตำแหน่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพยากรณ์นั้นหรือ ข้าพระองค์ตอบว่า ดูก่อนอาวุโส ไม่มี เขาตอบว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดีแล้วที่คฤหัสถ์ไรๆ ผู้นุ่งผ้าขาว ไม่มีในตำแหน่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์นี้.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ถูกแล้วๆ กุลบุตร นั้นมีความปรารถนาน้อย ไม่ปรารถนาให้คนอื่นรู้กุศลธรรมที่ มีอยู่ในตน ดูก่อนภิกษุ ถ้าอย่างนั้น เธอจงทรงจำหัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวีไว้ ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อัน ไม่เคยมีมานี้ คือ ความเป็นไม่ปรารถนาให้คนอื่นรู้กุศลธรรม ที่มีอยู่ในตน.
จบ ปฐมหัตถกสูตรที่ ๓
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้า 435
อรรถกถาปฐมหัตถกสูตรที่ ๓
ปฐมหัตถกสูตรที่ ๓ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า หตฺถโก อาฬวโก ความว่า พระราชกุมารผู้ได้ พระนามว่า หัตถกะ เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับจากมือ ของอาฬวกยักษ์ด้วยพระหัตถ์. บทว่า สีลวา ได้แก่ ผู้มีศีล ด้วยศีล ๕ และศีล ๑๐. บทว่า จาควา แปลว่า ถึงพร้อมด้วยการ บริจาค. บทว่า กจฺจิตฺถ ภนฺเต ความว่า ในที่ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพยากรณ์นี้แล หรือขอรับ. บทว่า อปฺปิจฺโฉ ได้แก่ ผู้ชื่อว่า มักน้อย เพราะเป็นผู้มักน้อยในอธิคม.
จบ อรรถกถาหัตถกสูตรที่ ๓