ไม่มีตัวตน

 
สุทัศน์
วันที่  10 มิ.ย. 2550
หมายเลข  3963
อ่าน  3,417

การที่เราคิดว่าไม่มีตัวตน ไม่มีบุคคล ไม่มีสัตว์ อาจทำให้คนประมาท นั่งๆ นอนๆ ไม่ทำอะไรหรือเปล่า ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ รอวันตายหรือเปล่า


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 11 มิ.ย. 2550

ควรทราบว่าผู้ที่รู้ตามความเป็นจริงว่า ธรรมทั้งปวง ไม่มีตัวตน ไม่มีสัตว์บุคคล ผู้นั้นคือผู้มีปัญญา ผู้มีปัญญาย่อมเป็นผู้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต การมีชีวิตอยู่ของผู้มีปัญญา ชื่อว่ามีชีวิตอยู่อย่างประเสริฐ ฉะนั้นผู้ที่เข้าใจและรู้ตามเป็นจริงว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ย่อมเห็นโทษของอกุศล เห็นคุณของกุศลและย่อมเจริญกุศลทุกประการ ชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท แต่ถ้าเป็นเพียงความคิดโดยไม่แยบคายว่าไม่มีตัวตนด้วยอกุศล แต่ไม่เห็นโทษของอกุศล ไม่เห็นคุณของกุศล ชื่อว่าเป็นผู้ประมาทแน่นอน

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔

เมื่อใด บัณฑิตย่อมเห็นด้วยปัญญาว่า ธรรม ทั้งปวงเป็นอนัตตา เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์ ความหน่ายในทุกข์ นั่นเป็นทางแห่งความหมดจด

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แวะเข้ามา
วันที่ 11 มิ.ย. 2550

ไม่มีตัวตน ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอะไรเลย ตามความเป็นจริงแล้วมีสภาพธรรมคือ รูปนามหรือขันธ์ ๕ ที่เรายึดว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ด้วยความเห็นผิด ไม่มีตัวตน

แต่มีธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 11 มิ.ย. 2550

ไม่มีตัวตน ทางธรรมะหมายถึงไม่มีสัตว์ บุคคล แต่มีปรมัตถธรรม คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน จิตมี ๔ ชาติ คือชาติกุศล อกุศล วิบาก กิริยา นั่งๆ นอนๆ ไม่ทำอะไรเลย ก็ยังมีตัวตนที่จะเกียจคร้านไม่ทำกุศลชื่อว่าเป็นผู้ประมาท

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 11 มิ.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

การที่เราคิดว่าไม่มีตัวตน ไม่มีบุคคล ไม่มีสัตว์ อาจทำให้คนประมาท นั่งๆ นอนๆ ไม่ทำอะไรหรือเปล่า ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ รอวันตายหรือเปล่า

เมื่อเราคิดว่า ไม่มีสัตว์ บุคคล เป็นความเข้าใจถูกต้องจริงๆ แล้ว ก็รู้ว่ามีแต่ธรรม เช่น จิต เจตสิก เป็นต้น เมื่อไม่รู้ความจริงก็ยึดว่า เป็นเราที่กำลังทำงาน ทำหน้าที่ต่างๆ ขณะนี้เรากำลังคิดหรือจิตคิด? ขณะนี้ใครกำลังเห็น เราเห็น หรือ จิตเห็น? เมื่อเข้าใจความจริงว่ามีแต่ธรรมที่ทำหน้าที่ ถามว่าเราบังคับให้ธรรมเป็นไปตามที่เราต้องการได้ไหม ถ้าจะเห็นไม่ให้เห็นได้ไหมครับ ถ้าจะคิดไม่ให้คิดได้ไหมครับ ไม่ได้ เพราะเป็นธรรม จึงเป็นอนัตตา ดังนั้นแม้มีความเข้าใจถูกแล้ว ก็ย่อมคิดนึกอยู่ดี ย่อมเห็นอยู่ดี ย่อมทำสิ่งต่างๆ อยู่ดี เพราะเป็นธรรมที่ทำหน้าที่เพียงแต่มีความเห็นถูกมากขึ้น เห็นตามความเป็นจริง พระพุทธเจ้าดับกิเลสแล้ว ไม่มีความเห็นผิดว่า มีสัตว์บุคคลตัวตน ท่านก็ยังทำกิจต่างๆ เช่น บิณฑบาต แสดงธรรม แต่มีปัญญาต่างหากที่เพิ่มเข้ามาครับ ดังนั้นการประมาท คือ ขณะที่เป็นอกุศล มิใช่นั่งเฉยๆ ทำการงาน แต่จิตเป็นอกุศลก็ชื่อว่าประมาทครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
อิสระ
วันที่ 12 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 12 ก.พ. 2567

ยินดีในกุศลขิจค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ