พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๒. ปฐมกามเหสสูตร ว่าด้วยกายสักขีบุคคล

 
บ้านธัมมะ
วันที่  3 พ.ย. 2564
หมายเลข  39712
อ่าน  495

[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้า 890

ปัณณาสก์

ปัญจาลวรรคที่ ๕

๒. ปฐมกามเหสสูตร

ว่าด้วยกายสักขีบุคคล


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 37]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 29 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้า 890

๒. ปฐมกามเหสสูตร

ว่าด้วยกายสักขีบุคคล

[๒๔๗] อุ. ดูก่อนอาวุโส พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า กายสักขีๆ ดังนี้ โดยปริยายเพียงเท่าไรหนอๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสกายสักขี?

อา. ดูก่อนอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน และอายตนะนั้นมีอยู่ด้วยอาการใดๆ เธอย่อม ถูกต้องอายตนะนั้นด้วยกายด้วยอาการนั้นๆ ก่อนอาวุโส โดย ปริยายแม้เพียงเท่านี้แล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกายสักขี.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุ... บรรลุทุติยฌาน... ตติยฌาน จตุตถฌาน... และอายตนะนั้นมีอยู่ด้วยอาการใดๆ เธอย่อมถูกต้อง อายตนะนั้นด้วยกายด้วยอาการนั้นๆ ดูก่อนอาวุโส โดยปริยาย แม้เพียงเท่านี้แล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกายสักขี.

อีกประการหนึ่ง ภิกษุ... บรรลุอากาสานัญจายตนะ... และอายตนะนั้นมีอยู่ด้วยอาการใดๆ เธอย่อมถูกต้องอาตนะนั้น ด้วยกายด้วยอาการนั้นๆ ดูก่อนอาวุโส โดยปริยายแม้เพียงเท่านี้ แล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกายสักขี ฯลฯ

อีกประการหนึ่ง ภิกษุ... เพราะล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนฌานโดยประการทั้งปวง บรรลุสัญญาเวทยิตนิโรธ และอาสวะ ทั้งหลายของเธอย่อมสิ้นไป เพราะเห็นด้วยปัญญา และอายตนะนั้น

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 29 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้า 891

มีอยู่ด้วยอาการใดๆ เธอย่อมถูกต้องอายตนะนั้นด้วยกายด้วย ด้วยอาการนั้นๆ ดูก่อนอาวุโส โดยนิปปริยายแม้เพียงเท่านี้แล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกายสักขี.

จบ ปฐมกามเหสสูตรที่ ๒

อรรถกถาปฐมกามเหสสูตรที่ ๒

ปฐมกามเหสสูตรที่ ๒ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.

บทว่า ยถา ยถา จ ตทายตนํ ความว่า อายตนะ คือ ปฐมฌาน นั้น ย่อมมีด้วยเหตุใดๆ คือ ด้วยอาการใดๆ. บทว่า ตถา ตถา นํ กาเลน ผสิตฺวา วิหรติ ความว่า ภิกษุถูกต้องสมาบัตินั้น ด้วย สหชาตนามกายอยู่ด้วยเหตุนั้นๆ คือด้วยอาการนั้นๆ อรรถว่า เข้าถึง. บทว่า กายสกฺขิวุตฺโต ภควตา ปริยาเยน ความว่า เพราะ ท่านทำปฐมฌานให้แจ้งด้วยนามกายนั้น ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสกายสักขีโดยปริยายนี้. บทว่า นิปฺปริยาเยน ได้แก่ ควรทำ ให้เป็นสักขีด้วยกายเท่าใด นี้ชื่อว่า กายสักขีโดยนิปปริยาย (โดยตรง) เพราะทำได้หมดแล้ว.

จบ อรรถกถาปฐมกามเหสสูตรที่ ๒