มีพระธรรมเป็นที่พึ่ง
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๕๗๐]
มีพระธรรมเป็นที่พึ่ง
ไม่มีใครที่จะไม่มีทุกข์ เวลาที่ใครประสบทุกข์คนนั้นเป็นทุกข์ยิ่งกว่าคนที่ไม่ได้ประสบ ถ้าเราได้ยินเรื่องราวของญาติพี่น้องเพื่อนฝูง เขากำลังได้รับความทุกข์จากภัยพิบัติต่างๆ ความรู้สึกของเราเทียบไม่ได้เลยกับผู้ที่กำลังเป็นทุกข์จริงๆ ในขณะนั้น อย่างไรๆ ก็ไม่มีทางเลย จะเห็นใจ จะเข้าใจสักเท่าไหร่ก็ยังไม่เท่ากับโทมนัสเวทนาของบุคคลที่กำลังเป็นผู้ได้รับภัยพิบัตินั้นซึ่งไม่มีใครช่วยได้นอกจากตัวเอง ที่จะให้จิตใจของใครมีความมั่นคงในพระธรรมที่มีความเข้าใจถูกต้องว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร และถ้าไม่มีเหตุปัจจัย สิ่งนั้นก็เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อสิ่งใดเกิดขึ้น ผู้มีปัญญาก็รู้ว่าเกิดแล้ว เมื่อเกิดแล้วจะทุกข์หรือจะสุข ถ้ามีสติจึงสามารถที่จะระลึกได้ แต่ก็ ก่อนอื่นก็มีความทุกข์เสียแล้ว
เพราะฉะนั้นความทุกข์ของแต่ละคนจะมากหรือจะนานสักเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับปัญญาว่ามีปัญญาพอที่จะเกิดขึ้นและก็สามารถที่จะเข้าใจในความจริงของสภาพธรรมนั้นระดับไหน ถ้าเพียงแต่เข้าใจเรื่องราวก็ยังคงมีคงมีความทุกข์อยู่ แต่ก็น้อยกว่าที่ไม่มีความเข้าใจเสียเลย เพราะว่าบางคนพูดไปๆ เรื่อยๆ ในเรื่องความทุกข์ แม้ว่าจะเตือนจะกล่าวธรรมสักเท่าไหร่ก็ไม่ได้มีการรับฟังเลย ยังคงพูดถึงความทุกข์นั้นโดยที่ไม่ฟังอย่างอื่นเลย นี่ก็แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าจะได้ยิน ได้ฟังธรรม แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้นมีปัจจัยของอะไรจะเกิดขึ้น มีปัจจัยของกุศลจิตจะเกิดหรือว่ามีปัจจัยของอกุศลจิตจะเกิด แต่ถึงอย่างไรการฟังพระธรรมที่สะสมไปเรื่อยๆ ไม่สูญหาย ยังเป็นปัจจัยให้เกิดคิดในทางที่ถูกต้องในทางที่เป็นกุศลได้ ซึ่งคนอื่นคิดไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้สะสมมาที่จะมีความเข้าใจในเหตุผล (ผู้ที่ได้สะสมการฟังพระธรรม) แม้ว่าจะหลงลืมสติเป็นทุกข์ไปมากและนาน แต่ก็ยังมีโอกาสที่สติสัมปชัญญะจะเกิดได้ หรือว่าจะระลึกรู้ข้อความในธรรมที่ได้ยินได้ฟังทั้งหมด
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย