กรรม ..ชีวิตเรานี้ถูกกำหนดแล้วหรือไม่ แก้ไขได้หรือไม่
ควรทราบว่า ชีวิตของเรามี ๒ ส่วน ส่วนหนึ่งรับผลของกรรมที่เคยกระทำไว้ อีกส่วนหนึ่งเป็นการกระทำกรรมใหม่ ผลของกรรมอันเป็นส่วนวิบาก เราแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่กรรมใหม่ที่เป็นเหตุให้ผลในอนาคต ผู้ที่รู้คุณของกุศล เห็นโทษของอกุศล ย่อมเจริญกุศลอันจะนำมาซึ่งความสุขความเจริญ และละอกุศลเป็นเหตุของความทุกข์และอกุศลวิบาก ฉะนั้น พระพุทธองค์ทรงแนะนำสาวกทั้งหลายให้ละอกุศล เจริญกุศล โดยเฉพาะการอบรมเจริญปัญญา ด้วยการศึกษาพระธรรมคำสอนและประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อการไม่เกิดอีกต่อไป
สภาวธรรมของกรรมเก่าทางใจ ได้แก่ ภวังคจิต ซึ่งอรรถกถาแก้ไว้ว่าหมายถึง กรรมคือ มโนกรรมในอดีตเป็นกรรมเก่า
ข้อความบางตอนจาก
อรรถกถา กรรมสูตร มีว่า
บทว่า นวปุราณานิ แปลว่า ใหม่ และ เก่า.
บทว่า จกฺขุํภิกฺขเว ปุราณกมฺมํ
ความว่า จักษุ ไม่เป็นของเก่า กรรมต่างหากเป็นของเก่า แต่ท่านกล่าวอย่างนั้น ตามชื่อแห่งปัจจัยเพราะเกิดแต่กรรม
เมื่อสภาวธรรมของกรรมเก่าทางใจ ได้แก่ ภวังคจิต ถ้ากุศลวิบากหรืออกุศลวิบาก สลับกันส่งผล จะแตกต่างกันอย่างไร
ตอบความคิดเห็นที่ 6
ต่างกันที่ภวังคจิต เป็นวิถีวิมุตติ เป็นวิบากจิตที่ไม่ต้องอาศัยทวาร และมีอารมณ์เดียวกับชวนจิตก่อนจุติของชาติที่แล้ว (มรณาสันนวิถี) จึงเป็น สภาวธรรมของกรรมเก่าที่เกิดทางใจ จิตใดก็ตามที่ไม่ใช่ ปฏิสนธิ ภวังค์ จุติ จิตนั้นทั้งหมดเป็นวิถีจิต
ชีวิตเราถูกกรรมกำหนดมา ส่วนหนึ่งใช้กรรมเก่า ส่วนหนึ่งทำกรรมใหม่ ถ้าเราอยากได้รับวิบากที่ดีเกิดในสุคติภูมิ เราก็ต้องทำเหตุที่ดี คือเป็นคนดี มีศีล ฯลฯ แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ในวัฏฏะ ที่สำคัญเราได้เกิดมาเป็นมนุษย์และได้พบพุทธศาสนา เราก็ควรศึกษาธรรมเพื่อความเห็นถูกเข้าใจถูก ซึ่งเป็นปัญญา เป็นหนทางที่จะดับทุกข์ได้ในวันหนึ่งค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร
ขอเชิญศึกษาพระธรรม ...
รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์
การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม ทำให้มีความเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วก็หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ จิตทุกขณะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป หมดไป ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ควรสั่งสมไปทุกภพทุกชาติ นั่นก็คือ กุศล (รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ในชีวิตประจำวันด้วย)