๑๐. พลสูตร ว่าด้วยกําลังของพระขีณาสพ ๑๐ ประการ
[เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้า 287
๑๐. พลสูตร
ว่าด้วยกําลังของพระขีณาสพ ๑๐ ประการ
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 38]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้า 287
๑๐. พลสูตร
ว่าด้วยกำลังของพระขีณาสพ ๑๐ ประการ
[๙๐] ครั้งนั้นแล ท่านพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามท่านพระสารีบุตรว่า ดูก่อนสารีบุตร กำลังของภิกษุขีณาสพมีเท่าไรหนอ ที่ภิกษุขีณาสพประกอบแล้ว ย่อมปฏิญาณความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายว่า อาสวะของเราสิ้นแล้ว.
ท่านพระสารีบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กำลังของภิกษุขีณาสพ ๑๐ ประการ ที่ภิกษุขีณาสพประกอบแล้ว ปฏิญาณความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายว่า อาสวะของเราสิ้นแล้ว กำลัง ๑๐ ประการเป็นไฉน ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุขีณาสพในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้พิจารณาเห็นสังขารทั้งปวงโดยความเป็นของไม่เที่ยง ด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็นจริง ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อที่ภิกษุขีณาสพเป็นผู้พิจารณาเห็น
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้า 288
สังขารทั้งปวงโดยความเป็นของไม่เที่ยง ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง นี้ก็เป็นกำลังของภิกษุขีณาสพ ที่ภิกษุขีณาสพได้อาศัยปฏิญาณความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายว่า อาสวะของเราสิ้นแล้ว.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุขีณาสพเป็นผู้พิจารณาเห็นกามทั้งหลายเปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง ด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็นจริง ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อที่ภิกษุขีณาสพเป็นผู้พิจารณาเห็นกามทั้งหลายเปรียบด้วยหลุมถ่านเพลิง ด้วยปัญญาอันชอบ ตามความเป็นจริง นี้ก็เป็นกำลังของภิกษุขีณาสพ ฯลฯ.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุขีณาสพเป็นผู้มีจิตโน้มไป น้อมไป โอนไปในวิเวก ยินดียิ่งในเนกขัมมะ เป็นจิตสิ้นไปจากธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งอาสวะโดยประการทั้งปวง ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อที่ภิกษุขีณาสพ เป็นผู้มีจิตโน้มไป น้อมไป โอนไปในวิเวก ยินดีในเนกขัมมะ เป็นจิตสิ้นไปจากธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งอาสวะโดยประการทั้งปวง นี้ก็เป็นกำลังของภิกษุขีณาสพ ฯลฯ.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุขีณาสพเป็นผู้เจริญสติปัฏฐาน ๔ เจริญดีแล้ว ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อที่ภิกษุขีณาสพเจริญสติปัฏฐาน ๔ เจริญดีแล้ว นี้ก็เป็นกำลังของภิกษุขีณาสพ ฯลฯ.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุขีณาสพเป็นผู้เจริญสัมมัปปธาน ๔ เจริญดีแล้ว ฯลฯ.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุขีณาสพเป็นผู้เจริญอิทธิบาท ๔ เจริญดีแล้ว ฯลฯ.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุขีณาสพเป็นผู้เจริญอินทรีย์ ๕ เจริญดีแล้ว ฯลฯ.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุขีณาสพเป็นผู้เจริญพละ ๕ เจริญดีแล้ว ฯลฯ.
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ - หน้า 289
อีกประการหนึ่ง ภิกษุขีณาสพเป็นผู้เจริญโพชฌงค์ ๗ เจริญดีแล้ว ฯลฯ.
อีกประการหนึ่ง ภิกษุขีณาสพเป็นผู้เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เจริญดีแล้ว ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อที่ภิกษุขีณาสพเป็นผู้เจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เจริญดีแล้ว นี้ก็เป็นกำลังของภิกษุขีณาสพ ที่ภิกษุขีณาสพอาศัยปฏิญาณความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายว่า อาสวะของเราสิ้นแล้ว ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กำลังของภิกษุขีณาสพมี ๑๐ ประการนี้แล ที่ภิกษุขีณาสพประกอบแล้ว ปฏิญาณความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายว่า อาสวะของเราสิ้นแล้ว.
จบพลสูตรที่ ๑๐
จบเถรวรรคที่ ๔
อรรถกถาพลสูตรที่ ๑๐
พลสูตรที่ ๑๐ พึงทราบโดยนัยที่กล่าวไว้ในหนหลังนั้นแล. คำที่เหลือในบททุกบท ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาพลสูตรที่ ๑๐
จบเถรวรรคที่ ๔
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. วาหุนสูตร ๒. อานันทสูตร ๓. ปุณณิยสูตร ๔. พยากรณสูตร ๕. กัตถีสูตร ๖. อัญญสูตร ๗. อธิกรณสูตร ๘. พยสนสูตร ๙. โกกาลิกสูตร ๑๐. พลสูตร.