อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา.
เวลาอยู่คนเดียวควรเปิดธรรมะฟัง เพราะการฟังจะทำให้เข้าใจพระธรรมมากยิ่งขึ้น เวลาอยู่กับมิตร ก่อนจะพูดควรคิดก่อนว่ามีประโยชน์หรือไม่ ไม่ควรพูดมากจนเกินไป ควรพูดแต่พอประมาณ ควรพูดแต่สิ่งที่มีสาระ
ถ้าเป็นภิกษุ เวลาเข้าที่ประชุมไม่นั่งนิ่ง ก็สนทนาธรรมค่ะ มิตรแหนงหน่ายเพราะวาจา ถ้าพูดไม่ดีก็ทำให้แตกจากมิตรได้
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เป็นเรื่องยากจริงๆ เพราะปัญญาเราน้อย อกุศลก็เยอะตามที่ปัญญาน้อย ดังนั้น การระวังใจของตนเป็นกิจหน้าที่ของธรรมที่จะเป็นตัวระวังไม่ให้อกุศลเกิด คือ สติและปัญญาถ้ามีน้อยก็ระวังไม่อยู่ ซึ่งปัญญาจะเจริญขึ้นได้ก็ได้วยการฟังพระธรรม แต่ค่อยๆ เจริญขึ้นทีละเล็กละน้อย ส่วนเมื่อเราอยู่กับคนรอบข้างแล้ว ก็เป็นเรื่องยากอีกเช่นกัน ที่จะไม่เผลอพูดในสิ่งที่ไม่ดี หรือที่สำคัญเจตนาไม่ได้พูดแหย่ว่าอะไรเลย หวังดีแต่ก็เข้าใจผิดกันได้ ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน แต่การพลาดไปแล้วคิดได้ภายหลังแล้วขอโทษหรือเห็นโทษในการกระทำ ก็จะทำให้ครั้งต่อไประวังมากขึ้น เพราะมีบทเรียนและเห็นโทษของวาจาของเรา ที่สำคัญทุกคนพลาดกันได้แต่อภัยกันได้ครับ คิดว่าควรจะพูดให้น้อยลงจะดี เพราะอาจมีเรื่องได้แม้เป็นความปรารถนาดี อย่างไรก็ตาม ขออภัยมา ณ ที่นี้ ถ้าทำให้บุคคลใดเกิดอกุศลจากวาจาของกระผมครับ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
จากการฟังธรรม ท่านสอนว่า เมื่อโทสะเกิด ควรพิจารนาโดยแยบคาย
พิจารณาเจตนา ถ้าเกื้อกูลให้เกิดความเห็นถูก ควรน้อมนำมาพิจารณาด้วยความเคารพ การให้อภัย คือ อภัยทาน เป็นบารมีที่ควรเจริญ
การเคารพธรรม โดยการสำรวมกาย วาจา ใจ (ของตนเอง) เป็นเหตุปัจจัยให้กุศลธรรมเจริญ อกุศลวิบากเกิด เมื่อมีเหตุปัจจัย ควรพิจารณาโดยแยบคาย
ขออนุโมทนาค่ะ