๒. ทุติยปีฐวิมาน ว่าด้วยวิมานตั่งแก้วไพฑูรย์
[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 38
๑. อิตถิวิมานวัตถุ
ปีฐวรรคที่ ๑
๒. ทุติยปีฐวิมาน
ว่าด้วยวิมานตั่งแก้วไพฑูรย์
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 48]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 38
๒. ทุติยปีฐวิมาน
ว่าด้วยวิมานตั่งแก้วไพฑูรย์
[๒] พระโมคคัลลานะถามว่า
ดูก่อนเทพธิดาผู้มีกายอันประดับแล้ว ทรงมาลัย ทรงพัสตราภรณ์อันสวยงาม วิมานตั่งแก้วไพฑูรย์ของท่านโอฬาร เร็วดังใจ ไปได้ตามปรารถนา ท่านส่องแสงประกายดังสายฟ้าแลบลอดหลืบเมฆ ท่านมีวรรณะเช่นนี้เพราะบุญอะไร อนึ่ง เพราะบุญอะไร โภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน.
ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 39
อะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
เทวดานั้นถูกพระโมคคัลลานะตามแล้วดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในมนุษยโลก ดีฉันได้ถวายอาสนะแก่หมู่ภิกษุผู้มาสู่เรือน ได้อภิวาทกระทำอัญชลี และถวายทานตามกำลัง เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลนี้จึงสำเร็จแก่ดีฉัน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ดีฉัน.
ข้าแต่ท่านภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดิฉันขอบอกแก่ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ดีฉันได้ทำบุญใดไว้ เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
จบทุติยปีฐวิมาน
อรรถกถาทุติยปีฐวิมาน
ทุติยปีฐวิมาน มีคาถาว่า ปีนฺเต เวฬุริยมยํ เป็นต้น. เหตุเกิดเรื่อง [อัตถุปปัตติ] และการพรรณนาความของทุติยปีฐวิมานนั้นพึงทราบตามนัยที่กล่าวมาแล้วในปฐมปีฐวิมานนั่นแล ส่วนความต่างกันมีดังนี้
ดังได้สดับมา สตรีผู้หนึ่งเป็นชาวกรุงสาวัตถี เห็นพระเถระรูปหนึ่ง
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 40
เข้ามาบิณฑบาตยังเรือนของตน มีจิตเลื่อมใส เมื่อจะถวายอาสนะแก่พระเถระรูปนั้น ก็เอาผ้าสีเขียวลาดบนตั่งของตนถวาย. ด้วยปีฐทานนั้นวิมานบัลลังก์สำเร็จด้วยแก้วไพฑูรย์ก็บังเกิดแก่นาง ซึ่งบังเกิดในเทวโลก. ด้วยเหตุนั้น ท่านพระโมคคัลลานะจึงถามว่า
ดูก่อนเทพธิดาผู้ประดับองค์ ทรงพวงมาลัย ทรงพัสตราภรณ์อันสวยงาม วิมานตั่งแก้วไพฑูรย์ของท่านโอฬาร เร็วดังใจ ไปได้ตามปรารถนา ท่านส่องแสงประกายคล้ายสายฟ้าแลบลอดหลืบเมฆ เพราะบุญอะไร วรรณะของท่านจึงเป็นเช่นนั้น เพราะบุญอะไร ผลนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน.
ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ท่านทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่านจึงส่องสว่างไปทุกทิศ.
เทวดานั้นถูกท่านพระโมคคัลลานะถามแล้วดีใจ ก็พยากรณ์ตอบปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่มนุษย์ ดีฉันได้ถวายอาสนะแก่ภิกษุที่มาถึงเรือน ได้กราบไหว้ ได้กระทำอัญชลีประนมมือ และได้ถวายทานตามกำลัง. เพราะบุญนั้น วรรณะของดีฉันจึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญนั้น
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 41
ผลนี้จึงสำเร็จแก่ดีฉัน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ดีฉัน.
ข้าแต่ท่านภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดีฉันขอบอกแก่ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ดีฉันได้กระทำบุญอันใด เพราะบุญอันนั้น ดีฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เวฬุริยมยํ แปลว่า สำเร็จด้วยแก้วไพฑูรย์. แก้วมณีที่เกิดขึ้นไม่ไกลหมู่บ้านวิฬูรแห่งภูเขาวิฬูระ ชื่อว่า แก้วไพฑูรย์. เขาว่าแก้วไพฑูรย์นั้น มีบ่อเกิดอยู่ที่หมู่บ้านวิฬูระ. แต่เพราะเกิดไม่ไกลหมู่บ้านวิฬูระ จึงปรากฏชื่อว่า เวฬุริยะ แก้วไพฑูรย์. แม้ในเทวโลก แก้วไพฑูรย์นั้นก็มีชื่ออย่างนั้น เพราะมีประกายแห่งสีเช่นเดียวกับแก้วไพฑูรย์นั้น เหมือนอย่างชื่อของเหล่าเทพบุตรในเทวโลก ก็โดยได้ชื่อมาในมนุษยโลก. ก็แก้วไพฑูรย์นั้นมีสีคล้ายขนคอนกยูงก็มี มีสีคล้ายใบมะคำดีควายก็มี มีสีคล้ายใบไผ่อันสนิทก็มี. ส่วนในที่นี้ พึงทราบว่ามีสีคล้ายขนคอนกยูง. คำที่เหลือทั้งหมด ก็เช่นคำที่กล่าวมาแล้วในปฐมปีฐวิมานแล.
จบอรรถกถาทุติยปีฐวิมาน