พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๖. โสณทินนาวิมาน ว่าด้วยโสณทินนาวิมาน

 
บ้านธัมมะ
วันที่  15 พ.ย. 2564
หมายเลข  40271
อ่าน  388

[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 195

๑. อิตถิวิมานวัตถุ

จิตตลดาวรรคที่ ๒

๖. โสณทินนาวิมาน

ว่าด้วยโสณทินนาวิมาน


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 48]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 195

๖. โสณทินนาวิมาน

ว่าด้วยโสณทินนาวิมาน

[๒๓] พระมหาโมคคัลลานเถระ ได้สอบถามนางเทพธิดาด้วยคาถาว่า

ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม ส่องสว่างไสวไปทุกทิศ เหมือนดาวประกายพรึก เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีผิวพรรณเช่นนี้ เพราะบุญอะไร อิฐผลนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคสมบัติทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดขึ้นแก่ท่าน.

ดูก่อนเทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ท่านได้กระทำบุญอะไรไว้ และเพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 196

เทพธิดานั้นถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้วดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาแห่งกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ชนชาวนาลันทานครรู้จักดิฉันว่า โสณทินนา ดีฉันเป็นอุบาสิกาอยู่ในเมืองนาลันทา เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและศีล ยินดีแล้วในทานบริจาคเสมอ มีจิตผ่องใส ได้ถวายผ้านุ่งห่ม อาหาร เสนาสนะ และเครื่องประทีป เครื่องอุปกรณ์ ในพระอริยะผู้ปฏิบัติตรง ดีฉันได้เข้ารักษาอุโบสถศีลอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และวัน ๘ ค่ำแห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ เป็นผู้สำรวมด้วยดีในศีลทุกเมื่อ คือเป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต เว้นห่างไกลจากอทินนาทาน จากการประพฤติผิดในกาม สำรวมจากมุสาวาท และจากการดื่มน้ำเมา ดีฉันเป็นผู้ยินดีในสิกขาบททั้ง ๕ มีปัญญาเฉลียวฉลาดในอริยสัจ เป็นอุบาสิกาของพระโคดมผู้มีพระจักษุและพระเกียรติยศ เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีรัศมีเช่นนี้ ฯลฯ และรัศมีของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบโสณทินนาวิมาน

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 197

อรรถกถาโสณทินนาวิมาน

โสณทินนาวิมานมีคาถาว่า อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน ดังนี้เป็นต้น. โสณทินนาวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร?

พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน กรุงสาวัตถี. ก็สมัยนั้น อุบาสิกาคนหนึ่งชื่อโสณทินนาในเมืองนาลันทามีศรัทธาเลื่อมใสบำรุงภิกษุทั้งหลายด้วยปัจจัย ๔ โดยเคารพ มีนิจศีลอันบริสุทธิ์ดี เข้ารักษาแม้อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ. นางโสณทินนานั้นได้ความสบายในการฟังธรรม เมื่อเพิ่มพูนกัมมัฏฐานในสัจจะ ก็ได้เป็นโสดาบัน เพราะถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย ต่อมานางเป็นโรคชนิดหนึ่งแล้วก็ตายไปเกิดในชั้นดาวดึงส์. ท่านพระมหาโมคคัลลานเถระได้สอบถามเทพธิดานั้นด้วยคาถาสามคาถาเหล่านั้นว่า

ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม มีรัศมีส่องสว่างไสวไปทุกทิศ เหมือนดาวประกายพรึก เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร อิฐผลนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคสมบัติทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดขึ้นแก่ท่าน.

ดูก่อนเทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ และเพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 198

เทพธิดานั้นถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้วดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ชนชาวเมืองนาลันทา รู้จักดิฉันว่าโสณทินนา ดีฉันเป็นอุบาสิกาอยู่ในเมืองนาลันทา เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและศีลยินดีแล้ว ในทานบริจาคเสมอ มีจิต ผ่องใส ได้ถวายผ้านุ่งห่ม อาหาร เสนาสนะและ เครื่องประทีปเครื่องอุปกรณ์ ในพระอริยะผู้ปฏิบัติตรง ดีฉันได้เข้ารักษาอุโบสถศีล อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ตลอดวัน ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และวัน ๘ ค่ำแห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ เป็นผู้สำรวมด้วยดีในศีลทุกเมื่อ. เป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต เว้นห่างไกลจากอทินนาทาน จากการประพฤติผิดในกาม สำรวมจากมุสาวาท และจากการดื่มน้ำเมา ดีฉันเป็นผู้ยินดีในสิกขาบททั้ง ๕ มีปัญญาเฉลียวฉลาดในอริยสัจ เป็นอุบาสิกาของพระโคดมผู้มีพระจักษุและพระเกียรติยศ เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้ อิฐผลนี้จึงสำเร็จแก่ดีฉัน และโภคสมบัติทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดขึ้นแก่ดีฉัน.

ข้าแต่ท่านภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดีฉันขอบอกแก่ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ดีฉันได้กระทำบุญใดไว้

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 199

เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

คำนั้นทั้งหมด เหมือนนัยที่กล่าวมาในหนหลัง.

จบอรรถกถาโสณทินนาวิมาน