๙. ทุติยสูจิวิมาน ว่าด้วยทุติยสูจิวิมาน
[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 481
๒. ปุริสวิมานวัตถุ
มหารถวรรคที่ ๕
๙. ทุติยสูจิวิมาน
ว่าด้วยทุติยสูจิวิมาน
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 48]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 481
๙. ทุติยสูจิวิมาน
ว่าด้วยทุติยสูจิวิมาน
พระมหาโมคคัลลานเถระเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[๕๙] วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง ๑๒ โยชน์ โดยรอบ มีห้องรโหฐาน ๗๐๐ ห้อง โอฬาร ฯลฯ และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ.
เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า ในชาติก่อน ข้าพเจ้าเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในหมู่มนุษย์ใน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 482
มนุษยโลก ข้าพเจ้าได้เห็นภิกษุปราศจากกิเลสมลทิน ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว ก็เลื่อมใส ได้ถวายเข็มแด่ภิกษุนั้นด้วยมือของตน เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ ฯลฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไปทุกทิศ.
จบทุติยสูจิวิมาน
อรรถกถาทุติยสูจิวิมาน
ทุติยสูจิวิมาน มีคาถาว่า อุจฺจมิทํ มณิถูณํ เป็นต้น. ทุติยสูจิวิมานเกิดขึ้นอย่างไร?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่พระวิหารเวฬุวัน กรุงราชคฤห์ สมัยนั้น ช่างเย็บชาวราชคฤห์คนหนึ่งมุ่งไปวิหาร ก็ไปถึงพระวิหารเวฬุวัน ในพระเวฬุวันนั้น เขาเห็นภิกษุรูปหนึ่งกำลังเย็บจีวรด้วยเข็มที่ทำกันเองในพระเวฬุวัน จึงได้ถวายเข็มหลายเล่มพร้อมกล่องเข็ม. คำที่เหลือทั้งหมดมีนัยดังกล่าวมาแล้วนั่นแล.
ท่านพระมหาโมคคัลลานะถามด้วยคาถาเหล่านี้ว่า
วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง ๑๒ โยชน์ โดยรอบ มีห้องรโหฐาน ๗๐๐ ห้อง โอฬาร มีเสาแก้วไพฑูรย์ ลาดด้วยเครื่องลาดที่ชอบใจ สวยงาม ท่านนั่งดื่มกินในวิมานนั้น มีพิณทิพย์บรรเลงไพเราะ มีเบญจ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 483
กามคุณ มีรสเป็นทิพย์ และเทพนารีแต่งองค์ด้วยอาภรณ์ทองฟ้อนรำอยู่ เพราะบุญอะไร วรรณะของท่านจึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผลอันจึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน.
ดูก่อนเทวะผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ. เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว จึงพยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า ในชาติก่อน ข้าพเจ้าเกิดเป็นมนุษย์ อยู่ในหมู่มนุษย์ในมนุษยโลก ข้าพเจ้าได้เห็นภิกษุปราศจากกิเลสมลทิน ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว ก็เลื่อมใส ได้ถวายเข็มแด่ภิกษุนั้นด้วยมือของตน เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ข้าพเจ้าและโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ข้าพเจ้า.
ข้าแต่ภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ข้าพเจ้าขอบอกแก่ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าได้ทำบุญใดไว้ เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ. คำทั้งหมดมีนัยดังกล่าวแล้วในหนหลังนั่นแล.
จบอรรถกถาทุติยสูจิวิมาน