๑. ปฐมอคาริยวิมาน ว่าด้วยอคาริยวิมานที่ ๑
[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 545
๒. ปุริสวิมานวัตถุ
ปายาสิกวรรคที่ ๖
๑. ปฐมอคาริยวิมาน
ว่าด้วยอคาริยวิมานที่ ๑
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 48]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 545
ปายาสิกวรรคที่ ๖
๑. ปฐมอคาริยวิมาน
ว่าด้วยอคาริยวิมานที่ ๑
พระมหาโมคคัลลานเถระ ได้ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[๖๕] สวนจิตรลดาวันเป็นวนะประเสริฐสูงสุดของทวยเทพชั้นไตรทศ ส่องแสงสว่างไสว ฉันใด วิมานของท่านนี้ก็มีอุปมาฉันนั้น ส่องแสงสว่างไสวอยู่ในอากาศ ท่านบรรลุเทวฤทธิ์มีอานุภาพมาก ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และส่องแสงสว่างไสวไปทุกทิศ.
เทพบุตรนั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้วฃ ดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมมีผลอย่างนี้ว่า
ในมนุษยโลก ข้าพเจ้าและภรรยาอยู่ครองเรือน เป็นดุจอู่ข้าวอู่น้ำ มีจิตเลื่อมใส ได้บริจาคข้าวและน้ำอย่างไพบูลย์โดยเคารพ เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯลฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
จบปฐมอคาริยวิมาน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 546
ปายาสิกวรรคที่ ๖
อรรถกถาปฐมอคาริยวิมาน
ปฐมอคาริยวิมาน มีคาถาว่า ยถา วนํ จิตฺตลตํ ปภาสติ เป็นต้น. ปฐมอคาริยวิมานนั้น เกิดขึ้นอย่างไร?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์ สมัยนั้น ตระกูล [ครอบครัว] หนึ่งในกรุงราชคฤห์ เป็นผู้เลื่อมใสทั้งสองฝ่าย พรั่งพร้อมด้วยศีลและจรรยา เป็นดุจบ่อน้ำของภิกษุและภิกษุณีทั้งหลาย ทั้งสองภริยาสามีนั้นอุทิศพระรัตนตรัย ทำบุญจนตลอดชีวิต จุติจากภพนั้น แล้วไปบังเกิดในเหล่าภพชั้นดาวดึงส์ เทพทั้งสองนั้นเสวยทิพยสมบัติในดาวดึงส์นั้น. คำว่า ครั้งนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะ เป็นต้น พึงทราบตามนัยที่กล่าวมาแล้วในหนหลัง.
พระเถระถามว่า
จิตรลดาวัน อุทยานอันประเสริฐสูงสุดของเหล่าเทพชั้นไตรทศ ย่อมส่องรัศมี ฉันใด วิมานของท่านนี้ก็อุปมาฉันนั้นส่องรัศมีอยู่ในอากาศ.
ท่านบรรลุเทวฤทธิ์ มีอานุภาพมาก ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไร เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 547
เทวบุตรได้พยากรณ์สมบัติของตนว่า
เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถาม แล้วก็พยากรณ์ [ตอบ] ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ในมนุษยโลก ข้าพเจ้ากับภริยาอยู่ครองเรือน เป็นดุจบ่อน้ำ มีจิตเลื่อมใสแล้ว เมื่อบริจาคข้าวน้ำ ได้ถวายทานอย่างไพบูลย์ โดยเคารพ.
เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลนี้จึงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า และโภคะทุกอย่างที่น่ารัก จึงเกิดแก่ข้าพเจ้า.
ข้าแต่ท่านภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ข้าพเจ้าขอบอกท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าได้ทำบุญใด เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.
แม้ในคาถาทั้งหลาย คำที่ไม่เคยกล่าวไว้ไม่มี คือกล่าวมาแล้วทั้งนั้น.
จบอรรถกถาปฐมอคาริยวิมาน