พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๐. อุตตรวิมาน ว่าด้วยอุตตรวิมาน

 
บ้านธัมมะ
วันที่  16 พ.ย. 2564
หมายเลข  40325
อ่าน  351

[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 572

๒. ปุริสวิมานวัตถุ

ปายาสิกวรรคที่ ๖

๑๐. อุตตรวิมาน

ว่าด้วยอุตตรวิมาน


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 48]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 572

๑๐. อุตตรวิมาน

ว่าด้วยอุตตรวิมาน

พระมหาโมคคัลลานเถระ ได้ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า

[๗๔] สภาใดของท้าวสักกเทวราช ชื่อ สุธรรมา หมู่เทพนั่งกันอย่างพร้อมเพรียงในสภาใด วิมานของท่านนี้ก็อุปมาด้วยสภานั้น ส่องแสงสว่างอยู่ในอากาศ ท่านบรรลุเทวฤทธิ์ มีอานุภาพมาก ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว ดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าเป็นมาณพรับใช้ของพระยาปายาสิ ได้ทรัพย์มาแล้ว ได้กระทำการแจกจ่าย อนึ่ง ท่านผู้มีศีลทั้งหลายเป็นที่รักของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส เมื่อบริจาคข้าวและน้ำได้ถวายทานอันไพบูลย์ โดยเคารพ เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯลฯ และ วรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบอุตตรวิมาน

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 573

อรรถกถาอุตตวิมาน

อุตตรวิมาน มีคาถาว่า ยา เทวราชสฺส สภา สุธมฺมา เป็นต้น. อุตตรวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร?

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพาน แจกพระธาตุกันแล้ว พระสถูปทั้งหลายถูกสถาปนาไว้ในนครนั้นๆ ครั้นพระมหาเถระมีพระมหากัสสปะเป็นประมุข คัดเลือกพระเถระอรหันต์เพื่อสังคายนาพระธรรมวินัยแล้ว และเมื่อพระเถระอื่นๆ กับบริษัทของตนๆ อยู่ในที่นั้นๆ จนเข้าพรรษา ท่านพระกุมารกัสสปะพร้อมกับภิกษุ ๕๐๐ รูป ถึงเสตัพยนคร อยู่ ณ สีสปาวัน ครั้งนั้น พระยาปายาสิ [เจ้าเมืองเสตัพยะ] ฟังว่า พระเถระอยู่ในที่นั้น มีหมู่ชนเป็นอันมากแวดล้อมแล้ว เข้าไปหาพระเถระ ทำปฏิสันถารกันแล้วก็นั่งลง ประกาศทิฏฐิของตน พระเถระเมื่อประกาศว่า ปรโลก [โลกอื่น] มีด้วยอุทาหรณ์มีพระจันทร์และพระอาทิตย์ เป็นต้น ก็แสดงปายาสิสูตร อันวิจิตรด้วยนัยต่างๆ ประดับด้วยเหตุและอุปมามากอย่าง เปลื้องปมทิฏฐิ ทำพระยาปายาสินั้นให้ดำรงอยู่ในทิฏฐิสัมปทา ถึงพร้อมด้วยความเห็นชอบ.

พระยาปายาสินั้นมีทิฏฐิความเห็นหมดจดแล้ว เมื่อให้ทานแก่สมณพราหมณ์คนยากไร้คนเดินทางไกลเป็นต้น ก็ให้แต่ของปอนๆ คือ ข้าวปลายเกรียนกับน้ำส้มพะอูม พอแก้หิว และผ้าเนื้อหยาบ เพราะตนมีอัธยาศัยไม่โอฬาร [คือใจแคบ] ดังนั้น จึงให้ทานโดยไม่เคารพ ครั้นแตกกายทำลายขันธ์ก็เข้าถึงหมู่เทพชั้นต่ำ คือเป็นสหายของเหล่าเทพชั้นจาตุมหาราช [ต่ำสุดในสวรรค์ ๖ ชั้น]. ส่วนมาณพชื่ออุตตระ ผู้

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 574

จัดการในกิจใหญ่กิจน้อยของพระยาปายาสินั้น ได้เป็นผู้ขวนขวายในทาน เขาให้ทานโดยเคารพ ก็เข้าถึงหมู่เทพชั้นดาวดึงส์. วิมาน ๑๒ โยชน์ ก็บังเกิดแก่เขา อุตตรเทพบุตรเมื่อจะประกาศความกตัญญู. จึงเข้าไปหาท่านพระกุมารกัสสปะพร้อมทั้งวิมาน ลงจากวิมานแล้ว ไหว้ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ยืนประคองอัญชลีอยู่. พระเถระจึงสอบถามอุตตรเทพบุตรนั้นด้วยคาถาหลายคาถาว่า

วิมานนี้ของท่าน ตั้งอยู่ในอากาศ ส่องรัศมีเปรียบด้วยสภาของท้าวสักกเทวราช ชื่อสุธรรมา มีหมู่เทพนั่งอยู่กันพร้อมเพรียง.

ท่านบรรลุเทวฤทธิ์แล้วมีอานุภาพมาก ฯลฯ และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกท่านพระโมคคัลลานะถามแล้ว ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าได้เป็นมาณพรับใช้ของพระยาปายาสิ ได้ทรัพย์มาแล้ว ก็เอามาจัดแจกเป็นทาน ภิกษุทั้งหลายที่มีศีลเป็นที่รักของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใสแล้ว เมื่อบริจาคข้าวน้ำก็ได้ถวายทานอย่างไพบูลย์ โดยเคารพ.

เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลนี้จึงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า และโภคะ

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 575

ทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ข้าพเจ้า ฯลฯ เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรแม้นั้นได้พยากรณ์ด้วยคาถาเหล่านี้แล.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เทวราชสฺส ได้แก่ ท้าวสักกะ. บทว่า สภา สุธมฺมา ได้แก่ สัณฐาคาร ห้องประชุมมีชื่ออย่างนี้. บทว่า ยตฺถ แปลว่า ในสภาใด. บทว่า อจฺฉติ แปลว่า นั่ง. บทว่า เทวสงฺโฆ ได้แก่ หมู่เทพชั้นดาวดึงส์. บทว่า สมคฺโค ได้แก่ ไปด้วยกัน คือ ชุมนุมกัน.

บทว่า ปายาสิสฺส อโหสึ มาณโว ได้แก่ ชื่อว่ามาณพ เพราะเป็นคนหนุ่ม เป็นผู้กระทำกิจการใหญ่น้อยของพระยาปายาสิ แต่โดยชื่อ เขาชื่อว่า อุตตระ. บทว่า สํวิภาคํ อกาสึ ได้แก่ ข้าพเจ้าไม่ใช้ทรัพย์ตามที่ได้ [เป็นส่วนตัว] หากได้ทำการจำแนกแจกจ่ายโดยสละในทานเป็นสำคัญ. พึงประกอบคำที่เหลือ [ซึ่งควรเพิ่ม] ว่า เมื่อสละข้าวและน้ำ อีกอย่างหนึ่ง ได้ถวายเป็นทานอย่างไพบูลย์ ได้ถวายทานอย่างไพบูลย์อย่างไร ถวายทานเช่นไร โดยเคารพ พึงประกอบว่า เมื่อบริจาคข้าวและน้ำ.

จบอรรถกถาอุตตรวิมาน

จบอรรถกถาปายาสิวรรคที่ ๖ ประดับด้วยเรื่อง ๑๐ เรื่อง ในวิมานวัตถุ แห่งปรมัตถทีปนี อรรถกถาขุททกนิกาย ด้วยประการฉะนี้.

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 576

รวมวิมานที่มีในวรรคนี้ คือ

๑. ปฐมอคาริยวิมาน ๒. ทุติยอคาริยวิมาน ๓. ผลทายกวิมาน ๔. ปฐมอุปัสสยทายกวิมาน ๕. ทุติยอุปัสสยทายกวิมาน ๖. ภิกขาทายกวิมาน ๗. ยวปาลกวิมาน ๘. ปฐมกุณฑลีวิมาน ๙. ทุติยกุณฑลีวิมาน ๑๐. อุตตรวิมาน และอรรถกถา.

จบวรรคที่ ๖