พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๓. มณิถูณวิมาน ว่าด้วยมณิถูณวิมาน

 
บ้านธัมมะ
วันที่  16 พ.ย. 2564
หมายเลข  40328
อ่าน  371

[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 584

๒. ปุริสวิมานวัตถุ

สุนิกขิตตวรรคที่ ๗

๓. มณิถูณวิมาน

ว่าด้วยมณิถูณวิมาน


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 48]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 584

๓. มณิถูณวิมาน

ว่าด้วยมณิถูณวิมาน

พระมหาโมคคัลลานเถระ ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า

[๗๗] วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง ๒ โยชน์ โดยรอบ มีห้องรโหฐาน ๗๐๐ ล้วนเสาแก้วไพฑูรย์ ปูลาดด้วยเครื่องปูลาดที่งดงามโอฬาร ท่านนั่งและดื่มกินในวิมานนั้น และพิณทิพย์ก็บรรเลงไพเราะ มีกามคุณห้ามีรสเป็นทิพย์ และอัปสรเทพนารีที่แต่งองค์ด้วยทองฟ้อนรำอยู่ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน.

ดูก่อนเทพบุตรผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว ครั้นแล้วก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในมนุษยโลก ข้าพเจ้าได้สร้างที่จงกรมไว้ในทางที่ไม่มีต้นไม้ และปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่น อนึ่ง สมณะผู้มีศีลได้เป็นที่รัก

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 585

ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส เมื่อบริจาคข้าวและน้ำ ได้ถวายทานอย่างไพบูลย์ โดยเคารพ. เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะเช่นนี้

เพราะบุญนั้น ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ข้าพเจ้า. ฯลฯ เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมี ของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบมณิถูณวิมาน

อรรถกถามณิถูณวิมาน

มณิถูณวิมาน มีคาถาว่า อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ เป็นต้น. มณิถูณวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร?

พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน กรุงสาวัตถี สมัยนั้น ภิกษุผู้เถระเป็นจำนวนมากอยู่ในที่อยู่ในป่า ในทางที่พระเถระเหล่านั้นไปบิณฑบาตยังหมู่บ้านตำบลใกล้ๆ อุบาสกคนหนึ่งปรับพื้นที่ไม่เรียบให้เรียบ เอาหนามออกไป ถางกอไม้พุ่มไม้ออก ผูกสะพานที่เหมืองทั้งหลายในฤดูน้ำ ปลูกต้นไม้มีเงาร่มรื่นในที่ไม่มีต้นไม้ ลอกลำห้วย และทำให้กว้างและลึก จัดทำท่าน้ำไว้พร้อม และให้ทานตามกำลังทรัพย์ รักษาศีล ต่อมาเขาทำกาลกิริยาตายไปบังเกิดในวิมานทอง ๑๒ โยชน์ ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 586

ท่านพระมหาโมคคัลลานเถระ เข้าไปหาสอบถามเทพบุตรนั้นด้วยคาถาหลายคาถาว่า

วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง ๑๒ โยชน์ โดยรอบ มีห้องรโหฐาน ๗๐๐ ล้วนเสาแก้วไพฑูรย์ ปูลาดด้วยเครื่องปูลาดที่งดงามโอฬาร ท่านนั่งและดื่มกินในวิมานนั้น และพิณทิพย์ก็บรรเลงไพเราะ มีกามคุณ ๕ มีรสเป็นทิพย์ และอัปสรเทพนารีที่แต่งองค์ด้วยทองฟ้อนรำอยู่ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน.

ดูก่อนเทพบุตร ผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นได้พยากรณ์แก่พระมหาโมคคัลลานเถระ ด้วยคาถาหลายคาถาว่า

เทพบุตรนั้น ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้วดีใจ ครั้นถูกถามแล้วก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 587

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าได้สร้างที่จงกรมไว้ ในทางที่ไม่มีต้นไม้และปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่น อนึ่ง สมณะผู้มีศีลได้เป็นที่รักของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส เมื่อบริจาคข้าวและน้ำ ได้ถวายทานอย่างไพบูลย์โดยเคารพ.

เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ข้าพเจ้า. ฯลฯ เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า วิวเน ได้แก่ ในป่า. บทว่า อารามรุกฺขานิ ความว่า ข้าพเจ้าได้ปลูกต้นไม้ทั้งหลายในที่นั้น ทำต้นไม้ทั้งหลายให้เป็นที่ร่มรื่น หรือทำต้นไม้ทั้งหลายในอารามให้ร่มรื่น คำที่เหลือทั้งหมดมีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.

จบอรรถกถามณิถูณวิมาน