พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๕. อโนปมาเถรีคาถา

 
บ้านธัมมะ
วันที่  21 พ.ย. 2564
หมายเลข  40737
อ่าน  467

[เล่มที่ 54] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้า 234

เถรีคาถา ฉักกนิบาต

๕. อโนปมาเถรีคาถา


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 54]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 28 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้า 234

๕. อโนปมาเถรีคาถา

[๔๕๕] พระอโนปมาเถรี กล่าวคาถาเป็นอุทานว่า

    ข้าพเจ้าเกิดในตระกูลสูง ที่มีสิ่งของเครื่องปลื้มใจมาก มีทรัพย์มาก สมบูรณ์ด้วยผิวพรรณสัณฐานและรูป เป็นธิดาของเมฆีเศรษฐี เป็นผู้อันพระราชบุตรปรารถนา อันพวกบุตรเศรษฐีหมายปองกัน อิสรชนมีพระราชกุมารเป็นต้น พากันส่งทูตไปขอต่อบิดาของข้าพเจ้าว่า จงให้อโนปมาแก่เรา อโนปมาธิดาของท่านนั้นมีค่าตัวเท่าใด เราจักให้เงินและทอง เป็น ๘ เท่าของค่าตัวนั้น.

    ข้าพเจ้าได้พบพระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐสุดในโลก ไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า ได้ถวายบังคมพระยุคลบาทของพระองค์ เข้าไปเฝ้า นั่ง ณ ที่สมควรส่วนหนึ่ง.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 28 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้า 235

    พระโคดมพระองค์นั้น ทรงแสดงธรรมโปรดข้าพเจ้า ด้วยพระกรุณาอนุเคราะห์ ข้าพเจ้านั่งอยู่ ณอาสนะนั้น ก็บรรลุผลที่ ๓ [อนาคามิผล] ครั้นแล้วก็โกนผมบวชไม่มีเรือน นับตั้งแต่ตัณหาอันข้าพเจ้าทำให้เหือดแห้งแล้ว ถึงวันนี้ ก็นับเป็นราตรีที่ครบ ๗.

    จบอโนปมาเถรีคาถา

๕. อรรถกถาอโนปมาเถรีคาถา

    คาถาว่า อุจฺเจ กุเล ดังนี้เป็นต้น เป็นคาถาของพระอโนปมาเถรี.

    พระเถรีแม้รูปนี้ ก็ได้บำเพ็ญบารมีมาในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ สร้างสมกุศลซึ่งเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน มาในภพเหล่านั้นๆ เพิ่มพูนธรรมทั้งหลายอันเป็นเครื่องอบรมบ่มวิมุตติ มาโดยลำดับในพุทธุปบาทกาลนี้บังเกิดเป็นธิดาของเศรษฐีชื่อเมฆีในนครสาเกต นางมีนามว่า อโนปมา ก็เพราะรูปสมบัติ ในเวลานางเติบโตเป็นสาวแล้ว บุตรเศรษฐี มหาอำมาตย์ของพระราชา และพระราชาเป็นอันมาก ได้พากันส่งทูตไปขอต่อบิดาว่า ขอท่านจงให้ธิดาชื่ออโนปมาแก่ตนเถิด ข้าพเจ้าทั้งหลายจักให้สิ่งนี้ๆ แก่ท่าน นางได้ฟังทูตนั้นแล้วคิดว่า เราไม่ต้องการเป็นฆราวาส เพราะถึงพร้อมด้วยอุปนิสัยจึงไปเฝ้าพระศาสดาฟังธรรม เริ่มวิปัสสนาไปตามกระแสพระธรรมเทศนาเพราะญาณแก่กล้าแล้ว เมื่อขวนขวายวิปัสสนานั้น ได้ตั้งอยู่แล้วในผลที่สาม [อนาคามิผล] ตามลำดับแห่งมรรค. นางทูลขอบรรพชากะพระศาสดาแล้ว เข้า

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 28 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้า 236

ไปสำนักของนางภิกษุณี โดยพระบัญชาของพระศาสดา บวชในสำนักของภิกษุณีทั้งหลายได้ทำให้แจ้งอรหัตในวันที่ ๗ ได้พิจารณาการปฏิบัติของตนแล้วได้กล่าวคาถาเหล่านั้นเป็นอุทานว่า

    ข้าพเจ้าเกิดในตระกูลสูง ที่มีสิ่งของเครื่องปลื้มใจมาก มีทรัพย์มาก สมบูรณ์ด้วยผิวพรรณสัณฐานและรูป เป็นธิดาของเมฆีเศรษฐี เป็นผู้อันพระราชบุตรปรารถนา พวกบุตรเศรษฐีพากันหมายปอง อิสรชนมีพระราชบุตรเป็นต้น พากันส่งทูตไปขอต่อบิดาของข้าพเจ้าว่า ขอจงให้อโนปมาแก่เรา อโนปมาธิดาของท่านนั้น มีค่าตัวเท่าใด เราจักให้เงินและทองเป็น ๘ เท่าของค่าตัวนั้น ข้าพเจ้านั้นได้พบพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า ได้ถวายบังคมพระยุคลบาทของพระองค์ เข้าไปเฝ้า นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระโคดมพระองค์นั้นได้ทรงแสดงธรรมโปรดข้าพเจ้า ด้วยพระกรุณาอนุเคราะห์ ข้าพเจ้านั่งอยู่ที่อาสนะนั้น ก็บรรลุผลที่สาม ครั้นแล้ว ได้โกนผมออกบวชไม่มีเรือน นับตั้งแต่ตัณหาอันข้าพเจ้าทำให้เหือดแห้งแล้ว ถึงวันนี้ ก็นับเป็นราตรีที่ครบ ๗.

    บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อุจฺเจ กุเล ได้แก่ ในตระกูลแพศย์ซึ่งสูงสุด. บทว่า พหุวิตฺเต ได้แก่ อุปกรณ์แก่ทรัพย์เครื่องปลื้มใจเป็นอันมากมีเครื่องประดับเป็นต้น. บทว่า มหทฺธเน ประกอบความว่า เราเกิดแล้วในตระกูลมีทรัพย์มาก เพราะมีทรัพย์อยู่มากประมาณ ๔๐ โกฏิซึ่งเก็บไว้

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 28 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้า 237

เป็นต้น. บทว่า วณฺณรูเปน สมฺปนฺนา ความว่า สมบูรณ์ด้วยผิวพรรณสัณฐานและสมบูรณ์ด้วยรูป คือมีผิวพรรณน่ารัก ประกอบด้วยสมบัติคือฉวีวรรณที่สะอาดเปล่งปลั่ง และสมบัติของส่วนร่างกายมีพัตราภรณ์เป็นต้น.บทว่า ธีตา เมฆิสฺส อตฺรชา ความว่าเป็นธิดาตัวเองของเศรษฐีชื่อเมฆี.

บทว่า ปตฺถิตา ราชปุตฺเตหิ ความว่า พระราชกุมารทั้งหลายปรารถนาว่า พวกเราจะพึงได้ธิดานั้นอย่างไรหนอ. บทว่า เสฏฺิปุตฺเตหิคิชฺฌิตา ได้แก่ แม้เศรษฐีกุมารทั้งหลาย ก็ต้องการคือมุ่งหวังอย่างนั้น.บทว่า เทถ มยฺหํ อโนปมํ ความว่า พระราชบุตรเป็นต้น ได้ส่งทูตมาขอในสำนักบิดาว่า ขอท่านทั้งหลาย จงให้อโนปมาธิดาแก่เราๆ เถิด. บทว่ายตฺต ํ ตุลิตา เอสา ประกอบความว่า อิสรชนมีกุมารเป็นต้นส่งทูตมาหาบิดาของข้าพเจ้าแจ้งว่า อโนปมาธิดาของท่าน ท่านตีราคา คือผู้รู้ลักษณะกำหนดคำว่า มีคุณค่าเป็นทรัพย์เท่าใด เราจักเพิ่มเป็น ๘ เท่าจากทรัพย์นั้น.คำที่เหลือ มีนัยอันกล่าวมาแล้วในหนหลังแล้วทั้งนั้น.

จบอรรถกถาอโนปมาเถรีคาถา