การลืมตาตื่นทุกๆ วันเป็นจิตที่มีฉันทะเป็นปัจจัยด้วยหรือไม่

 
lokiya
วันที่  22 พ.ย. 2564
หมายเลข  40781
อ่าน  439

ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 23 พ.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แม้ธรรมขณะนี้เกิดก็ยังไม่รู้เลยว่าธรรมอะไรเกิด จะกล่าวไปใยถึง มีฉันทะ ไม่มีฉันทะในขณะที่ลืมตา พระธรรมละเอียดลึกซึ้ง ปัญญาระดับละเอีดยลึกซึ้ง จึงจะรู้ได้ สำคัญที่กลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ความเข้าใจในขั้นการฟังว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา นี่คือประโยชน์สูงสุดของชีวิตที่เกิดมา คือ เกิดมาเพื่อเข้าใจ เข้าใจอะไร เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เพื่ออะไร เพื่อละกิเลส ละกิเลสอะไรก่อน ละความยึดถือว่าเป็นเราเป็นสัตว์บุคคลก่อนนั่นเองครับ ดังนั้นสำคัญที่การตั้งจิตของการศึกษาธรรมที่ถูกต้อง จิตที่ตั้งไว้ถูก คือ การศึกษาเพื่อคลายกิเลสด้วยปัญญาที่เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 23 พ.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก ละเอียด ลึกซึ้งอย่างยิ่ง ที่สำคัญ ต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการอบรมเจริญปัญญา ไม่ใช่เพียงแค่ชาติสองชาติเท่านั้น แต่นานทีเดียว จะต้องมีความอดทน มีความจริงใจ มีความเพียรที่จะฟังที่จะศึกษา ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย มั่นคงในความจริงว่า สิ่งที่ควรจะศึกษาให้เข้าใจ คือ สิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ความจริงเป็นอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ครับ

ไม่ว่าลืมตาหรือหลับตา ก็เพราะความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ทุกขณะ เป็นธรรม เข้าใจแค่ไหนก็แค่นั้น ตามกำลังของปัญญาเท่าที่จะเข้าใจได้ ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 23 พ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
lokiya
วันที่ 23 พ.ย. 2564

ผมทราบในขั้นการฟังว่าทุกอย่างเป็นธรรมะไม่ใช่เรา แต่ผมอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ไม่มีวิทยากรท่านใดตอบตรงคำถามเลยว่าการลืมตาเป็นจิตที่ประกอบด้วยฉันทะหรือไม่ ถ้าเป็นผู้ตรงต่อธรรมก็ควรจะแสดงคำตอบให้ผู้ฟังเข้าใจ ถ้าไม่ทราบก็ไม่ตอบ หรือไม่พูดให้เข้าใจไปเรื่องอื่นจะดีกว่าครับ ด้วยความเคารพ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
lokiya
วันที่ 23 พ.ย. 2564

ปัญญาขั้นฟังก็ควรทราบมิใช่หรือว่าจิตขณะใดมีเจตสิกประเภทใดประกอบไม่ประกอบ และเป็นธรรมะไม่ใช่เรา การรู้ธรรมะโดยละเอียดยิ่งขึ้นก็เป็นเรื่องที่ควรทราบมิใช่หรือ ทำไมจึงไม่แสดงคำตอบให้ผู้ฟังเข้าใจครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 23 พ.ย. 2564

คำถามบางคำถาม ควรตอบให้ตรง คำถามบางคำถามควรจำแนก คำถามบางคำถามควรยกเลิก นี่คือ การพิจารณาคำถามว่าควรตอบอย่างไร ให้กลับมาที่ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะได้ตอบไปแล้วว่าสิ่งที่ควรรู้คืออะไร อะไรที่ไม่ควรรู้และรู้ได้ไหม เป็นประโยชน์หรือไม่ในการละกิเลส และเกิดปัญญา ครับ ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ