ทำทุกอย่างเหมือนคฤหัสถ์ ไม่ใช่พระภิกษุในธรรมวินัย
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๕๘๓]
ทำทุกอย่างเหมือนคฤหัสถ์ ไม่ใช่พระภิกษุในธรรมวินัย
ได้ยินคำว่าภิกษุ ไม่มีใครไม่รู้จักใช่ไหม? แต่ว่าเข้าใจความเป็นภิกษุในธรรมวินัยหรือเปล่า? เพราะเหตุว่าการที่เพียงแต่แต่งตัวไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดา คนธรรมดา ครองจีวร แล้วก็มีบาตร แล้วก็ไปที่ต่างๆ หรือว่าอาจจะไปแสดงธรรม โดยไม่ต้องมีบาตรไปก็ได้ เพราะไม่ใช่เวลาที่จะบิณฑบาต เท่านั้นหรือคือภิกษุ? ไม่รู้อะไรมากกว่านั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นจะเข้าใจความหมายของภิกษุในธรรมวินัย ซึ่งเป็นบุตรที่เกิดจากพระอุระ (พระปัญญา) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างไร?
เวลาเราเห็นใครก็ตามเรายกมือไหว้หรือเปล่า? ไม่ว่าจะไปตลาดหรือว่าไปที่ศูนย์การค้าใดๆ แต่ถ้าเห็นภิกษุต่างกันแล้วใช่ไหม? คนส่วนใหญ่ก็ยกมือประนมขึ้นไหว้เพราะอะไร? เพียงแต่จีวรเท่านั้นก็ไหว้ เพราะเขารู้ว่าคนอื่นที่จะสวมใส่จีวรไม่ได้ นอกจากภิกษุในธรรมวินัย
เพราะฉะนั้นเขาเคารพในความเป็นภิกษุ ซึ่งละอาคารบ้านเรือน คนที่ไปศูนย์การค้า ไปตลาด หรือไปที่ไหนๆ ก็เป็นผู้ที่ครองเรือน ไม่มีเพศที่แสดงออกว่าเป็นผู้ที่ "ละอาคารบ้านเรือน" ไม่ใช่เท่านั้น "ละทุกอย่างที่เป็นกิจของคฤหัสถ์" สู่เพศของการสละ ละทั่วเพื่ออะไร? ทำไมจึงทำอย่างนั้น? เพื่อที่จะศึกษาพระธรรมให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง แล้วก็อบรมเจริญปัญญา ที่จะถึงความรู้ที่ได้เข้าใจถูกต้องแล้ว
นี่แสดงให้เห็นว่าถ้าไม่ศึกษา มีใครรู้จักภิกษุไหม? ว่าภิกษุเป็นผู้ที่ศึกษาพระธรรม และต้องประพฤติปฏิบัติตามพระวินัย ซึ่งผู้ที่ทรงบัญญัติ มีพระองค์เดียว คนอื่นบัญญัติพระวินัยไม่ได้เลย นอกจากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ด้วยเหตุใด? เพราะเหตุว่าพระองค์ทรงตรัสรู้ทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริง แม้แต่สิ่งที่คนไม่เห็นว่าการที่จะสละจริงๆ ถึงการดับกิเลสหมด เป็นพระอรหันต์ ต้องเป็นเพศบรรพชิต เพราะเหตุว่าคฤหัสถ์ สามารถที่จะศึกษาธรรมะอบรมเจริญปัญญารู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ ท่านวิสาขามิคารมารดา ท่านอนาถบิณฑิกะ ท่านจิตตคฤหบดี หมอชีวกโกมารภัจจ์ ทั้งหมด เป็นสาวกที่เป็นพระอริยเจ้า เป็นสังฆรัตนะ ในอดีตในสมัยพุทธกาล ไม่ได้บวชเพราะเหตุว่าผู้ที่จะบวชก็คือผู้ที่ได้บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่บวชไม่ได้ จะมีชีวิตอย่างคฤหัสถ์ต่อไปไม่ได้เลย เพราะไม่มีกิเลสแม้เพียงเล็กน้อย
เพราะฉะนั้นเพศบรรพชิต เป็นเพศที่สูงมาก เป็นเพศของพระอรหันต์ ใครก็ตามที่สวมใส่จีวรที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตว่าให้อุปสมบท ต้องประพฤติตามที่พระองค์ได้ทรงบัญญัติว่า อะไรเป็นการประพฤติปฏิบัติที่ขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่ากิเลสมีมาก ถ้า "กิเลสอย่างหยาบ" ยังมีอยู่แล้วไม่รู้ แล้วจะขัดเกลาให้ถึงดับกิเลสหมดไม่เหลือเลยได้อย่างไร?
ด้วยเหตุนี้ต้องรู้จักว่า ความเป็นเพศบรรพชิต เป็นเพศที่สูงมาก เป็นเพศที่ยากมาก เพราะเหตุว่าละเพศคฤหัสถ์โดยสิ้นเชิง โดยประการทั้งปวง จากคฤหัสถ์สู่เพศบรรพชิตยากไหม? แม้พระภิกษุในพระธรรมวินัยในครั้งพุทธกาล ก็ได้แสดงความจริงว่าเพศภิกษุ ผู้รักษาพรหมจรรย์ (ความประพฤติที่ประเสริฐ) เป็นเพศที่ยากอย่างยิ่ง ในการที่จะประพฤติด้วยความเห็นโทษของกิเลส จึงละกิเลสทุกอย่าง แต่ถ้าไม่เห็นโทษ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นกิเลสก็ละไม่ได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่จะไม่ละกิเลส (แต่) ทำทุกอย่างอย่างคฤหัสถ์ ไม่ใช่พระภิกษุในธรรมวินัย
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย