สิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ คืออะไร?

 
บ้านธัมมะ
วันที่  25 พ.ย. 2564
หมายเลข  40951
อ่าน  981

這一刻正在出現的是什麼?

สิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ คืออะไร?


問: 如果一切法都是因緣和合,那我可以作什麼呢?還是什麼都不作嗎? 要怎麼樣才能如理作意 (正確思惟法) ?

ผู้ถาม: ถ้าหากว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นไปตามเหตุปัจจัย แล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง? หรือไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งสิ้น? อย่างไรถึงจะเป็นโยนิโสมนสิการ (พิจารณาธรรมได้ถูกต้อง) ?

Ajhan Sujin: 現在這一刻的究竟真相是什麼?現在它們的本質有被呈現出來嗎?通常一天之中都不會想到在那裡的是什麼? 不會去想到現在這一刻的真相究竟是什麼? 就只是一刻接著一刻什麼都不知道,就讓它過了。要瞭解真相,我們一定要對現在這一刻在那裡的是什麼? 要很誠實。 現在有沒有在看呢? 有一個我在看嗎? 如果不是那個去看的,去聽的可以成為被瞭解的對象,還有什麼可以被瞭解呢? 現在我們會認為是我在看,我在聽,我在想,但那個”我”在哪裡呢? 事實上現在在那裡的都只是法,它們都是生起一剎那就馬上滅了。很重要的是去思惟真的有”我”嗎? 謹慎思惟法才有可能慢慢消除我是存在的錯誤見解。真相是不容易瞭解的。 誰能夠讓上一刻回來嗎?能夠決定下一刻是什麼嗎? 那個”我”在哪裡呢? 佛陀傳法45年教導的是現在在那裡的是什麼。瞭解法的特徵,功能和因緣條件才能夠更瞭解真相。

อ.สุจินต์: ขณะนี้เดี๋ยวนี้ความจริงของธรรมะคืออะไร? เดี๋ยวนี้รู้สภาพธรรมะที่ปรากฎ ตรงตามความเป็นจริงแล้วหรือยัง? ปกติในวันหนึ่งๆ เคยที่จะนึกถึงบ้างไหมว่า สิ่งที่กำลังปรากฏคืออะไร? สภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้คืออะไร? มีเพียงธรรมะแต่ละขณะที่เกิดดับสืบต่อ แต่ก็ไม่รู้ แล้วก็ผ่านไป การที่จะเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง ต้องตรงต่อสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่าคืออะไร ขณะนี้กำลังเห็นไหม? เป็นเราเห็นหรือเปล่า? หากว่าสิ่งนั้นที่กำลังปรากฏ ไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจได้ แล้วจะมีสิ่งไหนที่เข้าใจได้อีก?

ขณะนี้เราอาจสำคัญผิดว่ามีเราที่กำลังเห็น ที่กำลังได้ยิน ที่กำลังคิด แล้วตัวเราอยู่ตรงไหน? จริงๆ ทุกอย่างที่กำลังปรากฏ คือธรรมะ เกิดขึ้นแล้วดับไปทันที สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พิจารณาว่ามีเราจริงๆ หรือไม่? การคิดพิจารณาไตร่ตรองอย่างละเอียด รอบคอบ ถี่ถ้วนจึงจะสามารถค่อยๆ ละคลายความเห็นผิดว่าเป็นเราได้ สิ่งที่มีจริงไม่ใช่จะรู้ได้โดยง่าย มีใครที่สามารถจะทำให้ขณะที่ผ่านไปแล้วย้อนกลับมาใหม่ได้อีกไหม? รวมทั้งจะรู้ถึงขณะต่อไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้ไหม? เราอยู่ตรงไหน? พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมตลอด 45 พรรษา ทรงแสดงสิ่งที่มีจริงให้เข้าใจธรรมะขณะนี้เดี๋ยวนี้ว่าคืออะไร ทรงแสดงหนทางและเหตุปัจจัยที่จะสามารถเข้าใจสิ่งที่มีจริงได้

Sarah: 剛剛問到應該如何如理作意? 首先我們要瞭解的是什麼是作意? 作意心所 (注意心所) 會和每一刻的心一起生起。比如在眼識去看的那一刻,作意心所會和眼識一起生起去注意那個色塵或那個可以被看到的。眼識是果報心,因此和眼識一起生起的作意心所是果報心所,它們都是過去業的結果。所以在看的那一刻不會是善或不善,因為那一刻就只是果報心所。同樣的在去聽,聞,嚐,碰觸和有分心的那一刻時,作意心所去注意那個對象時是果報,所以那一刻不會有善的注意 (如理作意) 或是不善的注意 (不如理作意) 。

法的生起都是有它們的因緣條件,在看之後如果有貪愛生起,那是由於過去所累積的習性,所以不善有條件生起,不如理作意也是有它因緣和合的條件生起。當認為我不應該有不如理作意,應該有的是如理作意,這是在更執取於有個我該或者不該作什麼,在那一刻只是在累積更多對我的執取。現在透過聞慧思慧的累積就會是善的注意生起的條件。從現在開始去思惟現在在那裡的是什麼,比如貪愛,瞋恨它們都只是生起就滅去的法,這樣子慢慢的就是在培養如理作意的條件。所以如理作意的因緣條件是仔細的思惟法,而不是我在思惟。倘若真的瞭解這一點,就會是如理作意生起的因緣條件。

ซาร่า: เมื่อสักครู่ที่ถามว่าควรจะโยนิโสมนสิการอย่างไร? ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่าอะไรคือ มนสิการ มนสิการ หรือ มนสิการเจตสิก เกิดกับจิตทุกขณะ เช่นจิตเห็น มนสิการเจตสิกก็เกิดร่วมด้วยกับจิตเห็น ใส่ใจสนใจในอารมณ์นั้นคือสีหรือสิ่งที่ปรากฏทางตา จิตเห็นเป็นวิบากจิต ดังนั้นมนสิการเจตสิกที่เกิดขึ้นกับจิตเห็นเป็นวิบากเจตสิก เป็นผลของกรรมอดีต ขณะที่กำลังเห็นนั้นไม่ใช่กุศลจิตหรืออกุศลจิต เจตสิกขณะนั้นก็เป็นวิบากเจตสิก เช่นเดียวกันกับได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และ ขณะที่เป็นภวังคจิต มนสิการเจตสิกที่ใส่ใจสนใจในอารมณ์นั้นเป็นวิบาก ดังนั้นมนสิการขณะนั้นไม่ได้เป็นไปในกุศลจิตหรืออกุศลจิต ธรรมะทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ถ้าหลังจากเห็นแล้วมีโลภะ นั่นเป็นเพราะอุปนิสัยที่ได้สะสมมา จึงเป็นปัจจัยให้อกุศลจิตเกิดขึ้น มนสิการขณะนั้นจึงเป็นอโยนิโสมนสิการตามเหตุปัจจัย

ในขณะที่เราคิดว่าไม่ควรที่จะเป็นอโยนิโสมนสิการ ควรที่จะโยนิโสมนสิการ ก็ยิ่งเป็นการยึดถือว่าเราควรหรือไม่ควรที่จะเป็นอะไร ในขณะนั้นการยึดถือด้วยความเป็นเรา ก็ยิ่งจะสะสมความเป็นเรามากขึ้น เดี๋ยวนี้สะสมการฟังธรรมะ พิจารณาธรรมะก็จะเป็นปัจจัยให้โยนิโสมนสิการเกิด เริ่มตั้งแต่เดี๋ยวนี้ที่จะพิจารณาว่าสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้คืออะไร เช่นโลภะ โทสะ เกิดแล้วดับแล้ว การที่ค่อยๆ คิดพิจารณาแบบนี้เป็นการที่กำลังเจริญโยนิโสมนสิการ ดังนั้นโยนิโสมนสิการ คือการคิดพิจารณาธรรมะโดยละเอียด ไม่ใช่มีเราไปคิด หากเข้าใจอย่างนี้จริงๆ ก็จะเป็นปัจจัยให้โยนิโสมนสิการเกิดได้

問: 在遭遇不幸的事件之後也許反而會去激勵向善,所以不善的果報會不會反而是善行生起的因緣條件呢?

ผู้ถาม: เมื่อประสบกับเรื่องทุกข์ยากกลับเป็นแรงบันดาลใจให้เป็นไปในกุศล ดังนั้นอกุศลวิบากก็เป็นเหตุปัจจัยในการเจริญกุศลใช่ไหม?

Sarah: 首先我們要先瞭解的是什麼叫作果報? 比如現在在看的這一刻的眼識如果經驗的是可喜的對象,那就是善報,但之後可能很快就會去貪愛剛剛那個可喜的對象。因為過去的善行帶來善的果報,所以現在可以去經驗到那個可喜的對象,但可能很快就會成為下一刻心貪愛執取的對象。除了第三果聖人和阿羅漢不再對感官對象有執取,至于我們現在幾乎在雙五識滅去緊接著三個心之後,就去貪愛執取剛剛所經驗的對象。

ซาร่า: ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าอะไรคือวิบาก? ตัวอย่างเช่นขณะนี้กำลังเห็น ถ้าสิ่งที่เห็นเป็นอิฏฐารมณ์ นั่นคือกุศลวิบาก แต่หลังจากเห็นแล้ว โลภะก็สามารถเกิดขึ้นติดข้องทันทีได้ มีเพียงพระอนาคามีและพระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่ติดข้องในกามคุณ 5 ส่วนพวกเราหลังจากทวิปัญจวิญญาณดับไป หลังจากนั้นอีก 3 ขณะจิต ความติดข้องก็สามารถเกิดขึ้นได้

對於某個特定可喜的對象的貪愛也是會累積的,比如喜歡咖啡的味道,對這個味道的喜歡會一直累積。當經驗到不可喜的對象比如不喜歡的味道時,通常很快瞋恨生起,但這也有可能是智慧生起去瞭解的機會。所以我們可以看到法生起的因緣條件是很錯縱複雜和深奧的。

อิฏฐารมณ์เป็นอารมณ์ที่สามารถทำให้โลภะเกิดขึ้น สะสมความติดข้อง เช่นชอบกลิ่นของกาแฟ การที่ชอบกลิ่นแบบนี้ก็จะสะสมต่อไป ในขณะที่ประสบกับอนิฏฐารมณ์ เช่น กลิ่นที่ไม่น่าพอใจ ไม่ชอบ โดยปกติโทสะก็เกิดทันที ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นโอกาสให้ปัญญาเกิดขึ้นรู้สภาพธรรมนั้นได้ จะเห็นได้ว่านี่คือการเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัยเป็นสิ่งที่สลับซับซ้อนและลึกซึ้งยิ่ง

Ajhan Sujin: 我們一整天中大都在想,我們應該去瞭解那個去想的是什麼? 去想的那一刻一定會有記憶心所才能去想,每一刻去想的都是有它的因緣條件。

อ.สุจินต์: ในวันหนึ่งวันหนึ่งทุกคนก็คิด เราควรจะเข้าใจสภาพคิด ว่าคืออะไร? ขณะที่คิดนั้นต้องมีสัญญาเจตสิกจึงจะคิดได้ ทุกขณะที่คิดต้องมีเหตุปัจจัย

問: 請問什麼是正確的思惟,什麼不是正確的思惟?

ผู้ถาม: ขอเรียนถามท่าน อ.ว่า อย่างไรคือคิดถูก อย่างไรคือคิดผิด?

Ajhan Sujin: 正確的思惟是去思惟真相。思惟在哪裡? 思維是什麼? 不正確的思惟是來自於累積的習性。究竟真相和我們傳統所認知的真相是完全不同的。那個去想,去思惟的是什麼呢?

อ.สุจินต์: การคิดพิจารณาที่ถูกต้อง คือคิดในสิ่งที่มีจริง คิดอยู่ตรงไหน? คืออะไร? การคิดผิดมาจากอุปนิสัยที่ได้สะสมมา สิ่งที่มีจริงๆ กับสิ่งที่ชาวโลกคิดว่ามีจริง เป็นเรื่องที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง สภาพที่คิด ที่พิจารณานั้น คืออะไร?

問: 那個去想的是尋心所。

ผู้ถาม: นั่นคือวิตกเจตสิก

Ajhan Sujin: 只有尋心所嗎? 記憶呢?

อ.สุจินต์: มีเพียงวิตกเจตสิกหรือ? มีสัญญาไหม?

問: 是的,還有記憶心所。

ผู้ถาม: ใช่จริงด้วย ยังมีสัญญาเจตสิก

Ajhan Sujin: 我們仔細小心去思惟法,慢慢瞭解真相是沒有人,沒有東西在那裡,就只是生滅的法。那個去想的不是我,是累積的不同習性而有這些法去這麼想那麼想。當智慧生起的那一刻,就可以真的瞭解那個在想的是什麼。有時候在生氣的時候,當智慧生起的那一刻瞭解那個瞋恨生起就滅了,就只是一個法,這樣是不是比較好呢? 還是去執取於那個故事情境呢?

อ.สุจินต์: ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดรอบคอบในการพิจารณาธรรม ค่อยๆ เข้าใจ สิ่งที่มีจริงๆ นั้นไม่มีคน ไม่มีอะไรทั้งสิ้นในขณะนั้น เป็นเพียงธรรมะที่เกิดขึ้นแล้วดับไป ที่คิดนั้นก็ไม่ใช่เรา เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง จะคิดอย่างโน้นคิดอย่างนี้ก็ตามการสะสม ขณะที่ปัญญาเกิด ขณะนั้นก็จะเข้าใจสิ่งที่กำลังคิดว่าคืออะไร บางครั้งกำลังโกรธ เมื่อปัญญาเกิดในขณะนั้น ขณะนั้นก็เข้าใจโทสะ ว่าเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เป็นเพียงสภาพธรรมหนึ่งเท่านั้น เข้าใจอย่างนี้จะดีกว่าไหม? หรือว่าจะยังคงยึดมั่นถือมั่นอยู่ในเรื่องราวต่อไป?

Ajhan Sujin: 無論是善的還是不善的都是因緣和合,在任何時刻有智慧生起的那一刻,無論是貪愛或瞋恨都可以被智慧瞭解 那個只是法。佛陀教導的話並不僅僅只是文字上去記誦而已,而應該去仔細思惟瞭解法的特徵及法的真實本質。累劫世以來累積的貪愛與邪見需要很漫長的時間慢慢減弱,但如果急著想要找一個方式去作什麼快點開悟是不可能的。

อ.สุจินต์: ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล ทั้งหมดคือธรรมะ ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุเป็นปัจจัย ขณะใดก็ตามที่ปัญญาเกิด ในขณะนั้น ไม่ว่าขณะนั้นจะเป็นโลภะหรือโทสะ ก็เป็นสิ่งที่ปัญญาสามารถรู้ได้ว่าเป็นเพียงสภาพธรรม สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ใช่เพียงเพื่อที่จะให้ท่องจำตัวหนังสือ แต่ควรอย่างยิ่งที่จะคิดพิจารณาโดยละเอียดรอบคอบ พิจารณาลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริง โลภะและทิฏฐิที่สะสมมาในอดีตอนันตชาติต้องใช้เวลาที่ยาวนานมากเพื่อที่จะค่อยๆ ละคลาย แต่ถ้ารีบเร่งที่จะเข้าใจโดยไปแสวงหาหนทางที่ผิด นั่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าใจ

Sarah: 如果從來沒有聽聞過正法,現在能夠正確的去思惟嗎?

ซาร่า: หากว่าไม่เคยได้ฟังพระธรรมมาก่อนเลย จะสามารถคิดพิจารณาถูกได้ไหม?

問: 不能。

ผู้ถาม: ไม่ได้

Sarah: 所以過去正確的思惟會是現在這一刻正確思惟的條件,現在正確的思惟也會是下一刻正確思惟的條件。有些人從來對佛法沒有興趣,從來沒有去思惟過真相,那麼現在就很難有正確的思惟。一天中不管我們在作什麼,無論是煮飯,洗衣服,都可以是如理作意能生起的因緣條件。

ซาร่า: ดังนั้นอดีตที่เคยคิดถูกก็จะเป็นปัจจัยให้ขณะนี้คิดถูก ขณะนี้ที่คิดถูกก็จะเป็นปัจจัยให้ขณะต่อไปคิดถูกได้ บางคนไม่มีอัธยาศัยที่จะศึกษาพระธรรมเลย ไม่เคยแม้แต่จะคิดถึงสิ่งที่มีจริง เพราะฉะนั้นก็เป็นการยากยิ่งที่จะมีการคิดพิจารณาที่ถูกต้อง ในวันหนึ่งๆ ไม่ว่าเราจะ หุงข้าว ซักเสื้อผ้าหรือทำอะไรก็ตาม ก็เป็นเหตุให้โยนิโสมนสิการเกิดได้



敬感恩阿姜舒淨 (Ajhan Sujin Boriharnwanaket) 的恩惠
น้อมเคารพในคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

謹以此施法之功德與我們在輪迴裡每一世的父母 師長 同修 親友 仙人 各位讀者及其他一切眾生分享
กุศลในการนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศแด่บิดามารดาในทุกภพทุกชาติ ครูบาอาจารย์ ญาติมิตรสหาย เทวดา และผู้อ่าน รวมถึงสัตว์ทั้งหลาย

By line group Just Dhamma

หมายเหตุ
ที่มา : การสนทนาธรรมออนไลน์ระหว่างท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ กับ ชาวจีน

สรุปใจความภาษาจีน โดย 陳品彤 เฉินผิ่นถง (คุณแพท)
แปลภาษาไทย โดย คุณปาล สว่างพัฒนกุล (黃如蓮)


อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... บทความแปลภาษาจีน


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 25 พ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
petsin.90
วันที่ 26 พ.ย. 2564

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
lokiya
วันที่ 28 พ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Sea
วันที่ 3 ม.ค. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
สิริพรรณ
วันที่ 25 ก.พ. 2565

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบขอบพระคุณยินดีในกุศลทุกท่านทุกประการค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ