อายาตทายกเถราปทานที่ ๘ (๓๘) ว่าด้วยผลแห่งการสร้างศาลาโรงฉัน
[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 159
เถราปทาน
กุณฑธานวรรคที่ ๔
อายาตทายกเถราปทานที่ ๘ (๓๘)
ว่าด้วยผลแห่งการสร้างศาลาโรงฉัน
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 159
อายาตทายกเถราปทานที่ ๘ (๓๘)
ว่าด้วยผลแห่งการสร้างศาลาโรงฉัน
[๔๐] เมื่อพระโลกนาถพระนามว่าสิขี ผู้ประเสริฐของพวกคน ผู้กล่าว (ยกย่องตน) นิพพานแล้ว เราร่าเริง มีจิตโสมนัส ได้ให้พระสถูปอันอุดม.
ในกาลนั้น เราร่าเริงมีจิตโสมนัส ให้คนไปบอกกับนาย ช่างไม้ ให้ทรัพย์แล้ว จ้างให้ทำศาลาโรงฉัน.
เราอยู่ในเทวโลกตลอด ๘ กัปโดยไม่สับสนกันเลย ใน กัปที่เหลือ เราท่องเที่ยว ไปสับสนกัน.
ยาพิษย่อมไม่กล้ำกรายในกายเรา และศาสตราไม่กระทบ กายเรา เราไม่พึงตายในน้ำ นี้เป็นผลแห่งการสร้างศาลา โรงฉัน.
เราปรารถนาฝนเมื่อใด มหาเมฆย่อมยังฝนให้ตกเมื่อนั้น แม้เทวดาทั้งหลายก็ตกอยู่ในอำนาจของเรา นี้เป็นผลแห่งบุญ กรรม.
เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ ๓๐ ครั้ง ใครๆ ย่อมไม่ดูหมิ่นเรา นี้เป็นผลแห่งการบุญกรรม.
ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ เราได้สร้างศาลาโรงฉันใด ด้วย กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งกรรมสร้างศาลา โรงฉัน.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 160
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอายาตทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบอายาตทายกเถราปทาน
๓๘. อรรถกดถาอายาคทายกเถราปทาน (๑)
อปทานของท่านพระอายาคทายกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลที่ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิขีปรินิพพานแล้ว บังเกิดในเรือนมีตระกูล แห่งหนึ่ง เลื่อมใสในพระศาสนา ได้จ้างนายช่างให้สร้างโรงฉันยาวอัน เป็นที่รื่นรมย์ยิ่งนัก นิมนต์ภิกษุสงฆ์ให้บริโภคอาหารอันประณีต ถวาย มหาทานยังจิตให้เลื่อมใส. ท่านบำเพ็ญบุญจนตลอดอายุ ท่องเที่ยวไปใน เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายนั่นแล เสวยสมบัติทั้งสอง ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูล ได้ศรัทธาบวชแล้วเพียรพยายามเจริญวิปัสสนา ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต. ด้วยอำนาจบุญที่ท่านบำเพ็ญไว้ในกาล ก่อน จึงปรากฏนามว่า อายาคทายกเถระ ดังนี้.
๑. บาลีเป็น อายาตทายกเถราปทาน.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 161
ท่านบรรลุพระอรหัต ด้วยอำนาจบุญสมภาร ที่ท่านบำเพ็ญมาด้วย อาการอย่างนี้ ระลึกถึงกุศลกรรมที่คนบำเพ็ญในกาลก่อน เกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นิพฺเพเต ความว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิขี ผู้ประเสริฐสูงสุดในระหว่างแห่งศาสดาอื่น ผู้กล่าวว่า เราทั้งหลายเป็นพระพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว. บทว่า หฏฺโ หฏฺเน จิตฺเตน ความว่า เราหรรษาร่าเริง มีจิตร่าเริงเพราะความ ที่ตนมีจิตสัมปยุตด้วยโสมนัส ได้ไหว้คือนอบน้อมพระสถูปอันสูงสุด คือ พระเจดีย์อันประเสริฐ.
บทว่า วฑฺฒกีหิ กถาเปตฺวา ความว่า ให้กล่าวประมาณการว่า โรงฉันนี้มีประมาณเท่าไร. บทว่า มูลํ ทตฺวานหํ ตทา ความว่า ใน ครั้งนั้น คือในกาลนั้น เราได้ให้ค่าจ้างแก่นายช่างไม้เหล่านั้น เพื่อ ประโยชน์แก่การทำกรรม ยินดีคือมีจิตสัมปยุตด้วยโสมนัส ได้ก่อสร้าง โรงฉันยาวรี. คำที่เหลือมีอรรถรู้ได้ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาอายาคทายกเถราปทาน