พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

กัปปรุกขิยเถราปทานที่ ๑๐ (๔๐) ว่าด้วยผลแห่งการตั้งตนกัลปพฤกษ์บูชา

 
บ้านธัมมะ
วันที่  27 พ.ย. 2564
หมายเลข  41029
อ่าน  347

[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 165

เถราปทาน

กุณฑธานวรรคที่ ๔

กัปปรุกขิยเถราปทานที่ ๑๐ (๔๐)

ว่าด้วยผลแห่งการตั้งตนกัลปพฤกษ์บูชา


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 165

กัปปรุกขิยเถราปทานที่ ๑๐ (๔๐)

ว่าด้วยผลแห่งการตั้งตนกัลปพฤกษ์บูชา

[๔๒] เราได้คล้องผ้าอันวิจิตรหลายผืนไว้ตรงหน้าพระสถูปอัน ประเสริฐของพระผู้มีพระภาคเจ้านานว่าสิทธัตถะ แล้วตั้งต้น กัลปพฤกษ์ไว้.

เราเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือ ความเป็นเทวดาหรือมนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ ต้นกัลปพฤกษ์อันงาม ย่อมประดิษฐานอยู่ ใกล้ประตูเรา เวลานั้น เราเอง บริษัท เพื่อนและคนคุ้นเคย ได้ถือเอาผ้าจากต้นกัลปพฤกษ์นั้นมานุ่งห่ม.

ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้ตั้งกัลปพฤกษ์ใดไว้ ด้วย ธรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการตั้งต้นกัลปพฤกษ์.

และในกัปที่ ๗ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓ ครั้ง ทรงพระนามว่าสุเจละ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มี พละมาก

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระกัป ปรุกชิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.

จบกัปปรุกขิยเถราปทาน

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 166

๔๐. อรรถกถากัปปรุกขิยเถราปทาน

อปทานของท่านพระกัปปรุกขิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า สิทฺธตฺถสฺส ภควโต ดังนี้.

พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการทั้งหลายในพระพุทธเจ้าองค์ ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่าสิทธัตถะ บังเกิดในตระกูลหนึ่งอันสมบูรณ์ ด้วยสมบัติ ให้สร้างต้นกัลปพฤกษ์อันสำเร็จด้วยทอง วิจิตรด้วยรัตนะ ๗ วางบูชาไว้ตรงหน้าพระเจดีย์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่าสิทธัตถะ. ท่านบำเพ็ญบุญเห็นปานนี้ ดำรงอยู่ตลอดอายุ จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ท่อง เที่ยวไปในสุคตินั่นแล ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลตาม ลำดับ บรรลุนิติภาวะแล้ว ดำรงการครองเรือน เลื่อมใสในพระรัตนตรัย ฟังธรรมได้ศรัทธา อาราธนาพระศาสดา บวชแล้ว ไม่นานนักก็บรรลุ พระอรหัต โดยนามแห่งกุศลที่ท่านเคยบำเพ็ญมาก่อน ท่านจึงปรากฏ นามว่า กัปปรุกขิยเถระ ดังนี้.

ท่านบรรลุพระอรหัตตผลแล้วอย่างนี้ ระลึกถึงบุพกรรมของตน เมื่อ จะประกาศปุพพจริตาปทาน ด้วยอำนาจโสมนัส จึงกล่าวคำมีอาทิว่า สิทฺธตฺถสฺส ภควโต ดังนี้. บทว่า ถูปเสฏฺสฺส สมฺมขา ความว่า ซึ่ง ผ้าอันวิจิตรในที่เฉพาะหน้าพระสถูปเจดีย์อันประเสริฐสูงสุด ได้แก่ผ้าอัน เขานำมาแต่เมืองจีน และผ้าอันเขานำมาแต่เมืองแขกเป็นต้น อันน่า รื่นรมย์ใจ ด้วยจิตอันไม่เสมอเหมือนด้วยสีเป็นอเนก. อธิบายว่า เราได้ ประดิษฐ์ต้นกัลปพฤกษ์ห้อยย้อยลงอยู่. คำที่เหลือรู้ได้ง่ายทั้งนั้นแล.

จบอรรถกถากัปปรุกขิยเถราปทาน

จบอรรถกถาวรรคที่ ๔

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 167

รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ

    ๑. กุณฑธานเถราปทาน

๒. สาคตเถราปทาน

๓. มหากัจจายนเถราปทาน

๔. กาฬุทายีเถราปทาน

๕. โมฆราชเถราปทาน

๖. อธิมุตตกเถราปทาน

๗. ลสุณทายกเถราปทาน

๘. อายาตทายกเถราปทาน

๙. ธัมมจักกิกเถราปทาน

๑๐. กัปปรุกขิยเถรปทาน

และมีคาถา ๑๑๒ คาถา

จบกุณฑธานวรรคที่ ๔