พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

นาคสมาลเถราปทานที่ ๑ (๗๑) ว่าด้วยผลแห่งการบูชาพระสถูปด้วยดอกไม้

 
บ้านธัมมะ
วันที่  27 พ.ย. 2564
หมายเลข  41061
อ่าน  359

[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 273

เถราปทาน

นาคสมาลวรรคที่ ๘

นาคสมาลเถราปทานที่ ๑ (๗๑)

ว่าด้วยผลแห่งการบูชาพระสถูปด้วยดอกไม้


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 273

นาคสมาลวรรคที่ ๘

นาคสมาลเถราปทานที่ ๑ (๗๑)

[๗๓] เราถือเอาดอกแคฝอยไปบูชาที่พระสถูป ซึ่งมหาชนสร้าง ไว้ที่หนทางใหญ่ ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิขี ผู้เผ่า พันธุ์ของโลก.

ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ เราได้ทำกรรใดในกาลนั้น ด้วย กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระสถูป.

ในกัปที่ ๑๕. แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอม กษัตริย์ พระนามว่าปุปผิยะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระนาคสมาลเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ ฉะนี้แล.

จบนาคสมาลเถราปทาน

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 274

นาคสมาลุวรรคที่ ๘

๗๑. อรรถกถานาคสมาลเถราปทาน

อปทานของท่านพระนาคสมาลเถระ มีคำเริ่มต้นว่า อาปาฏลึ อหํ ปุปฺผํ ดังนี้.

พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญสมภารในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า สิขี บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง บรรลุนิติภาวะแล้ว อยู่ครอบครองเรือน กระทำกรรมคือการเห็นการได้ยิน และการบูชา ในกาลที่พระศาสดายังทรงพระชนม์อยู่ เพราะไม่ได้ความ คลุกคลีเกี่ยวข้องด้วยรูปเห็นปานนั้น ในกาลแห่งพระศาสดาปรินิพพาน แล้ว จัดแจงพระสารีริกธาตุของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ยังจิตให้เลื่อมใส แม้ในเจดีย์ที่ตนกระทำแล้ว บูชาดอกแคฝอย ยังโสมนัสให้เกิด ดำรงอยู่ จนตลอดอายุ ด้วยโสมนัสนั้นนั่นเอง. ท่านทำกาละจากอัตภาพนั้นแล้ว จึงเสวยสุขในเทวโลก ๖ ชั้น มีชั้นดุสิตเป็นต้น ครั้นต่อมาเสวยสมบัติใน มนุษย์ทั้งหลาย ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูล มีนามาภิไธยอันมารดาบิดาตั้งให้ว่า นาคสมาละ เพราะมีร่างกายเสมือนกับใบ อ่อนแห่งไม้กากะทิง เลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้า บวชไม่นานนักก็ได้ เป็นพระอรหันต์.

ภายหลังท่านระลึกถึงบุพกรรมของตนแล้วเกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า อาปาฏลึ อหํ ปุปฺผํ ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อาปาฏลึ ความว่า เราได้ถือเอาดอกแคฝอย

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 275

โดยรอบหรือโดยเอื้อเฟื้อ ยกขึ้นบูชาบนพระสถูป. บทว่า อุชฺฌิตํ สุมหาปเถ ความว่า ได้ยกขึ้นในหนทางใหญ่ คือในถนนท่ามกลางพระนครเพื่อเป็นที่ไหว้และบูชาของชาวพระนครทั้งปวง อธิบายว่า ให้สำเร็จ ด้วยกรรมคือการก่อด้วยอิฐ และฉาบด้วยปูนขาวเป็นต้น. คำที่เหลือมี อรรถรู้ได้ง่ายทั้งนั้น เพราะมีนัยดังกล่าวแล้วในหนหลัง และมีอรรถ ตื้นแล.

จบอรรถกถานาคสมาลเถราปทาน