พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

คันธมาลิยเถราปทานที่ ๕ (๙๕) ว่าด้วยผลแห่งการถวายสถูปไม้หอม

 
บ้านธัมมะ
วันที่  27 พ.ย. 2564
หมายเลข  41085
อ่าน  364

[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 338

เถราปทาน

สุธาวรรคที่ ๑๐

คันธมาลิยเถราปทานที่ ๕ (๙๕)

ว่าด้วยผลแห่งการถวายสถูปไม้หอม


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 338

คันธมาลิยเถราปทานที่ ๕ (๙๕)

ว่าด้วยผลแห่งการถวายสถูปไม้หอม

[๙๗] เราได้ทำสถูปไม้หอมคลุม (ปิด) ด้วยดอกมะลิ อันสมควร แก่พระพุทธเจ้า ถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ ได้ถวายบังคมพระพุทธเจ้าอัครนายกของโลก เช่น กับทองคำนี้ค่า ผู้รุ่งเรืองดังนิลอุบล แผดแสงดังพระอาทิตย์ ผู้องอาจดังพญาเสือโคร่ง ผู้ประเสริฐ มีชาติยิ่งเหมือนไกรสร ผู้เลิศกว่าสมณะทั้งหลาย ประทับนั่งแวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ เราถวายบังคมพระบาทของพระศาสดาแล้ว บ่ายหน้าทางทิศ อุดรหลีกไป.

ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้ถวายของหอมและดอกไม้ ด้วยผลแห่งสักการะที่ทำแล้วในพระพุทธเจ้าโดยพิเศษนั้น เรา ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา.

ในกัปที่ ๓๙ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๖ ครั้ง พระเจ้าจักรพรรดิเหล่านั้น มีพระนามเหมือนกันว่าเทวคันธะ.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระคันธมาลิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.

จบคันธมาลิยเถราปทาน

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 339

๙๕. อรรถกถาคันธมาลิยเถราปทาน

อปทานของท่านพระคันธมาลิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า สิทฺธตฺถสฺส ภควโต ดังนี้.

พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสมภารในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง ได้เป็นผู้มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก. ท่านเลื่อมใสในพระศาสดา พอกพูน ของหอมเป็นอันมาก มีจันทน์ กำยาน การบูร และกฤษณาเป็นต้น สร้าง สถูปหอมถวายพระศาสดา. ฉาบดอกมะลิไว้บนคันธสถูป และกระทำการ นอบน้อมพระพุทธเจ้าด้วยองค์ ๘. ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านจึงเสวยสมบัติ ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดขึ้นเรือนมี ตระกูลแห่งหนึ่ง สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสใน พระศาสดา บวชแล้วไม่นานนัก ก็ได้เป็นพระอรหันต์.

ครั้นภายหลัง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน จึงเกิดโสมนัส เมื่อจะ ประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า สิทฺธตฺถสฺส ภควโต ดังนี้. คำนั้น ทั้งหมดมีอรรถตื้นทั้งนั้นแล.

จบอรรถกถาคันธมาลิยเถราปทาน