พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

อาสนุปัฏฐายกเถราปทานที่ ๘ (๑๐๘) ว่าด้วยผลแห่งการถวายอาสนะทอง

 
บ้านธัมมะ
วันที่  27 พ.ย. 2564
หมายเลข  41101
อ่าน  333

[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 371

เถราปทาน

ภิกขทายิวรรคที่ ๑๑

อาสนุปัฏฐายกเถราปทานที่ ๘ (๑๐๘)

ว่าด้วยผลแห่งการถวายอาสนะทอง


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 371

อาสนุปัฏฐายกเถราปทานที่ ๘ (๑๐๘)

ว่าด้วยผลแห่งการถวายอาสนะทอง

[๑๑๐] ข้าพระองค์เข้าป่าชัฏสงัดเสียง ไม่อากูล ได้ถวายอาสนะ ทองแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าอัตถทัสสี ผู้คงที่.

ข้าพระองค์ถือดอกไม้กำมือหนึ่ง แล้วทำประทักษิณพระองค์ เข้าไปเฝ้าพระศาสดาแล้ว กลับมุ่งหน้าไปทางทิศอุดร.

ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมสัตว์ เชษฐบุรุษของโลก ประเสริฐกว่านระ ด้วยกรรมนั้น ข้าพระองค์ย่อมยังตนให้ดับ ถอนภพได้ทั้งหมดแล้ว.

ในกัปที่ ๑,๘๐๐ ข้าพระองค์ได้ถวายทานใดในกาลนั้น ด้วย กรรมนั้น ข้าพระองค์ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวาย อาสนะทอง.

ในกัปที่ ๗๐๐ กัปแต่กัปนี้ ข้าพระองค์ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอมกษัตริย์ พระนามว่าสันนิพาปกะ ทรงสมบูรณ์ด้วย แก้ว ๗ ประการ มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระอาสนุปัฏฐายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.

จบอาสนุปัฏฐายกเถราปทาน

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 372

๑๐๘. อรรถกถาอาสนุปัฏฐาหกเถราททาน (๑)

อปทานของท่านพระอาสนุปัฏฐาหกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า กานนํ วนโมคฺคยฺห ดังนี้.

พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสมภารในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าอัตถทัสสี บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง อยู่ครองเรือน เห็นโทษในการอยู่ครองเรือน ละการครองเรือนออกบวช เป็นดาบส อยู่ ณ ป่าหิมวันต์ เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จถึงที่นั้น เลื่อมใส ได้ถวายสีหาสนะ. ถือเอากำดอกไม้ บูชาพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ประทับนั่ง ณ ที่นั้น กระทำประทักษิณพระองค์แล้วหลีกไป. ด้วย บุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้มี ตระกูลสูงได้เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ ในภพที่ตนเกิดแล้วๆ ในกาล อื่นคือในพุทธุปปาทกาลนี้ ท่านบังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญ วัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.

ท่านได้เป็นพระอรหันต์ ระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า กานนํ วนโมคฺคยฺห ดังนี้. คำทั้งหมดนั้นมีอรรถง่ายทั้งนั้นแล.

จบอรรถกถาอาสนุปัฏฐาหกเถราปทาน


๑. บาลีว่า อาสนุปัฏฐายกเถราปทาน.