พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

พิฬาลิทายกเถราปทานที่ ๙ (๑๐๙) ว่าด้วยผลแห่งการถวายมันมือเสือ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  27 พ.ย. 2564
หมายเลข  41102
อ่าน  339

[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 373

เถราปทาน

ภิกขทายิวรรคที่ ๑๑

พิฬาลิทายกเถราปทานที่ ๙ (๑๐๙)

ว่าด้วยผลแห่งการถวายมันมือเสือ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 373

พิฬาลิทายกเถราปทานที่ ๙ (๑๐๙)

ว่าด้วยผลแห่งการถวายมันมือเสือ

[๑๑๑] เราอยู่ในเครื่องลาดใบไม้ ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ ใน กาลนั้น (ถ้า) เราอยากอาหารก็มักนอนเสีย เราขุดจาวมะพร้าว มันอ้อน มันมือเสือ และมันนกมาไว้ เรานำเอาผลพุทรา ไม้รักดำ ผลมะตูม มาจัดแจงไว้.

พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ทรงรู้แจ้งโลก สมควรรับเครื่องบูชา ทรงทราบความดำริของเราแล้ว เสด็จ มาสู่สำนักของเรา เราได้เห็นพระองค์ผู้มหานาค ประเสริฐ กว่าเทวดา เป็นนราสภ เสด็จมาแล้ว จึงหยิบเอามันมือเสือ มาใส่ลงในบาตร.

ในกาลนั้น พระสัพพัญญูมหาวีรเจ้า จะทรงยังเราให้ ยินดีจึงเสวย ครั้นเสวยเสร็จแล้ว ได้ตรัสพระคาถานี้ว่า

ท่านยังจิตให้เลื่อมใสแล้ว ได้ถวายมันมือเสือแก่เรา ท่านจะไม่เข้าถึงทุคติตลอดแสนกัป.

ภพที่สุดย่อมเป็นไปแก่เรา เราถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว เราทรงกายที่สุดไว้ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.

ในกัปที่ ๕๔ แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนาม ว่าสุเมขลิมะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 374

ทราบว่า ท่านพระพิฬาลิทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วย ประการฉะนี้แล.

จบพิฬาลิทายกเถราปทาน

๑๐๙. อรรถกถาพิลาลิทายกเถราปทาน (๑)

อปทานของท่านพระพิลาลิทายกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า หิมวนฺตสฺสาวิทูเร ดังนี้.

พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสมภารในพระชินเจ้าผู้ประเสริฐองค์ ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ ใน กาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ บังเกิดในเรือนมี ตระกูลแห่งหนึ่ง บรรลุนิติภาวะแล้ว อยู่ครองเรือน เห็นโทษในการ อยู่ครองเรือนนั้น ละการครองเรือน บวชเป็นดาบสอยู่ ณ ป่าหิมวันต์ เป็นผู้มักน้อยสันโดษอย่างยิ่ง ยังอัตภาพให้เป็นไปด้วยกรรมอันขุ่นมัว อยู่. ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสด็จไปยังป่าหิมวันต์นั้น เพื่อ อนุเคราะห์ท่าน. ท่านเห็นพระองค์แล้วเลื่อมใส ถวายบังคมแล้วถือเอา เกลือที่เกิดใกล้ฝั่งทะเลเกลี่ยลงในบาตร. พระตถาคตเมื่อยังท่านให้โสมนัส เพื่ออนุเคราะห์แก่ท่าน จึงได้เสวยสิ่งนั้น. ด้วยบุญกรรมนั้น ท่าน จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว เสวยสมบัติทั้งสองในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชในพระศาสนา ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.


๑. บาลีว่า พิฬาลิทายกเถราปทาน.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 375

ครั้นภายหลัง ท่านระลึกถึงกุศลกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อ จะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า หิมวนฺตสฺสาวิทูเร ดังนี้ คำนั้นทั้งหมดมีอรรถง่ายทั้งนั้น เพราะมีนัยดังกล่าวแล้วในหนหลัง. เหง้ามันและมันอ้อนเป็นต้น เป็นชื่อของเหง้าในดินนั้นๆ นั่นเองแล.

จบอรรถกถาพิลาลิทายกเถราปทาน