ชาติปูชกเถราปทานที่ ๑๐ (๑๒๐) ว่าด้วยผลแห่งการบูชาพระชาติ
[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 409
เถราปทาน
มหาปริวารวรรคที่ ๑๒
ชาติปูชกเถราปทานที่ ๑๐ (๑๒๐)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาพระชาติ
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 409
ชาติปูชกเถราปทานที่ ๑๐ (๑๒๐)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาพระชาติ
[๑๒๒] เมื่อพระวิปัสสีโพธิสัตว์ประสูติจากพระครรภ์ แสงสว่าง ได้มีอย่างไพบูลย์ และพื้นแผ่นดิน พร้อมทั้งสมุทรสาครและ ภูเขาก็หวั่นไหว.
อนึ่ง พวกหมอดูพยากรณ์ว่า พระพุทธเจ้าจักมีในโลก เป็นผู้เลิศกว่าสรรพสัตว์ จักรื้อถอนหมู่ชน (จากสังสารทุกข์).
เราได้ฟังคำของพวกหมอดูแล้ว ได้ทำการบูชาพระชาติ ด้วยความดำริว่า การบูชาพระชาติเช่นนั้นไม่มี (อีก).
เรารวบรวมกุศลแล้ว ได้ยังจิตของตนให้เลื่อมใส ครั้น เราทำการบูชาพระชาติแล้วพำกาลกิริยา ณ ที่นั้น. เราเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือ ความเป็นเทวดาหรือมนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ เราย่อมล่วงสรรพสัตว์ นี้เป็นผลแห่งการบูชา พระชาติ.
แม่นมทั้งหลายผู้เป็นไปตามอำนาจจิตของเราย่อมบำรุงเรา เขาไม่อาจยังเราให้โกรธเคือง นี้เป็นผลการบูชาพระชาติ.
ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ เราได้ทำการบูชาใดในกาลนั้น ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลการบูชา พระชาติ.
ในกัปที่ ๓ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓๔ ครั้ง เป็นจอมแห่งชน มีพระนามว่าสุปาริจริยะ มีพละมาก.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 410
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระชาติปูชกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบชาติปูชกเถราปทาน
๑๒๐. อรรถกถาชาติปูชกเถราปทาน
อปทานของท่านพระชาติปูชกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ชายํ ตสฺส วิปสฺสิสฺส ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ทุกๆ ภพนั้นจะสร้างแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน เป็นประจำเสมอ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า วิปัสสี ท่านได้เกิดในเรือนที่มีสกุล บรรลุนิติภาวะแล้ว ได้ยินพวกหมอดูทํานาย ลักษณะของพระวิปัสสีโพธิสัตว์ว่า ได้ยินว่า กุมารนี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้า เป็นผู้เลิศประเสริฐกว่าชาวโลกทั้งหมด จักขนสรรพสัตว์ออกจากสงสาร แน่นอน ครั้นได้ยินแล้ว จึงได้ทำการบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ นั้น เริ่มแต่ในเวลาที่ยังเป็นเด็กๆ คล้ายกับทำการบูชาแด่พระพุทธเจ้า ฉะนั้น. ภายหลัง ครั้นทำการบูชาอย่างใหญ่ แม้ในพระพุทธเจ้าผู้ประสูติ แล้ว ตลอดทั้ง ๓ คราว คือคราวเป็นเด็ก คราวเป็นพระราชกุมาร และคราวที่ได้ครองราชสมบัติตามลำดับ พอจุติจากอัตภาพนั้น ได้บังเกิด
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 411
ในสวรรค์ชั้นดุสิตเป็นต้น เสวยทิพยสุขแล้ว ภายหลังได้เกิดขึ้นมนุษย์ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเป็นต้น ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้บังเกิดในเรือน อันมีสกุล ในเวลาที่มีอายุได้ ๘๗ ปีนั่นแล ได้เลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้า บวชแล้วเจริญวิปัสสนาไม่นานนัก ก็ได้เป็นพระอรหันต์.
ในกาลอื่น ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตนได้ เกิดความโสมนัส เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึง กล่าวคำเริ่มต้นว่า ชายํ ตสฺส วิปสฺสิสฺส ดังนี้. ถ้อยคำนั้นทั้งหมด ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แล้วในหนหลังแล.
ในบทว่า เนมิตฺตานํ สุณิตฺวาน นี้ มีวิเคราะห์ว่า ชื่อว่า เนมิตฺตา เพราะย่อมรู้นิมิตเหตุการณ์ ได้แก่เหตุที่จะได้รับความสุขและความทุกข์. อธิบายว่า ได้ยินคำทำนายของพวกหมอดูเหล่านั้นแล้ว. คำที่เหลือในที่ ทุกแห่งมีเนื้อความง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาชาติปูชกเถราปทาน
จบอรรถกถามหาปริวารวรรคที่ ๑๒
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. มหาปริวารเถราปทาน ๒. สุมังคลเถราปทาน ๓. สรณคมนิยเถราปทาน ๔. เอกาสนิยเถราปทาน ๕. สุวรรณปุปผิยเถราปทาน ๖. จิตกปูชกเถราปทาน ๗. พุทธสัญญกเถราปทาน ๘. มัคคสัญญกเถราปทาน ๙. ปัจจุปัฏฐานเถราปทาน ๑๐. ชาติปูชกเถราปทาน.
บัณฑิตทั้งหลายกล่าวรวมคาถาไว้ ๙๐ คาถา ฉะนี้แล.
จบมหาปริวารวรรคที่ ๑๒