พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

ปุปผถูปิยเถราปทานที่ ๒ (๑๒๒) ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยสถูปดอกไม้

 
บ้านธัมมะ
วันที่  27 พ.ย. 2564
หมายเลข  41115
อ่าน  309

[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 415

เถราปทาน

เสเรยยวรรคที่ ๑๓

ปุปผถูปิยเถราปทานที่ ๒ (๑๒๒)

ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยสถูปดอกไม้


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 415

ปุปผถูปิยเถราปทานที่ ๒ (๑๒๒)

ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยสถูปดอกไม้

[๑๒๔] มีภูเขาชื่อกุกกุระอยู่ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ มีพราหมณ์ ผู้จบมนต์อยู่ในท่ามกลางภูเขานั้น.

ศิษย์ ๕,๐๐๐คน แวดล้อมเราอยู่ทุกเมื่อ และเขาเหล่านั้น เป็นผู้ลุกขึ้นก่อน (นอนที่หลัง) แกล้วกล้าในมนต์ทั้งหลาย.

พราหมณ์ผู้รู้จบมนต์ ได้ฟังคำของพวกศิษย์ว่า พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก ขอท่านจงรู้เรื่องพระพุทธเจ้า นั้น ว่ามีจริงหรือไม่ พระองค์มีอนุพยัญชนะ ๘๐ มีพระลักษณะอันประเสริฐ ๓๒ ประการ.

พระชินวรมีพระรัศมีแผ่ไปข้างละวา ย่อมรุ่งโรจน์ดัง พระอาทิตย์ ดังนี้ พราหมณ์ออกจากอาศรมแล้ว ถามถึงทิศ ที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ว่า พระมหาวีรเจ้าผู้นำของโลก ประทับอยู่ ณ ประเทศใด.

เราเห็นประเทศนั้นแล้ว จักนมัสการพระชินเจ้า ผู้ไม่มี บุคคลเปรียบ เรามีจิตเบิกบาน มีใจโสมนัส บูชาพระตถาคตนั้น.

มาเถิดศิษย์ทั้งหลาย เราจักไปเฝ้าพระตถาคต จักถวาย บังคมพระยุคลบาทของพระศาสดาแล้ว จักฟังคำสั่งสอนของ พระองค์.

เราออกจากอาศรมไปได้วันหนึ่งก็ได้ป่วยไข้ เป็นผู้ถูก ความป่วยไข้เบียดเบียน จึงไปนอน ณ ที่สุดใกล้ต้นสาละ.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 416

ประชุมศิษย์ทั้งปวงแล้ว ได้ถามเขาเหล่านั้นถึงพระตถาคต ว่า พระคุณของพระโลกนาถผู้มีปัญญาเครื่องตรัสรู้อย่างยิ่ง เป็นเช่นไร.

พวกศิษย์เหล่านั้นอันเราถามแล้ว พยากรณ์เหมือนบุคคล ผู้เห็นแจ้ง แสดงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐนั้นแก่เราดุจมีอยู่ ตรงหน้าโดยเคารพ.

เราฟังคำของศิษย์เหล่านั้นแล้ว ทำจิตของตนให้เลื่อมใส บูชาพระสถูปด้วยดอกไม้แล้ว ทำกาลกิริยา ณ ที่นั้น.

ศิษย์เหล่านั้นเผาสรีระของเราแล้ว ได้ไปในสำนักของ พระพุทธเจ้า ประนมอัญชลีถวายบังคมพระศาสดา.

เราเอาดอกไม้ทำสถูปแห่งพระสุคตผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ หลวงแล้ว ไม่ได้เข้าถึงทุคติเลย ในแสนกัป.

ในกัปที่ ๔๐,๐๐๐ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอม กษัตริย์ ๑๖ ครั้ง มีพระนามชื่อว่าอัคคิสมะ มีพละมาก.

ใน ๒ หมื่นกัปแต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓๘ ครั้ง เป็นใหญ่รนแผ่นดิน พระนามว่าฆฏาสนสมะ.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระปุปผถูปิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ ฉะนี้แล.

จบปุปผถูปิยเถราปทาน

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 417

๑๒๒. อรรถกถาปุปผถูปิยเถราปทาน

อปทานของท่านพระปุปผถูปิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า หิมวนฺตสฺส อวิทูเร ดังนี้.

แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลไว้ในพระพุทธเจ้าพระองค์ ก่อนๆ ทุกๆ ภพนั้น จะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน เป็นประจำเสมอ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงพระนามว่า วิปัสสี ท่านได้บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ บรรลุนิติภาวะแล้ว ศึกษา ศิลปะไว้ประจำตัวจนสำเร็จ แต่ก็มองไม่เห็นสาระในศิลปะนั้น ตนเอง พร้อมกับศิษย์ ๕,๐๐๐ คน จึงพากันละบ้านเรือนร่วมเดินทางไปยังป่า หิมพานต์ ทำอภิญญา ๕ และสมาบัติ ๘ ให้เกิดขึ้นแล้ว สร้างบรรณศาลาอยู่อาศัยใกล้ภูเขาชื่อกุกกุระ. ครั้งนั้นเขาได้ทราบว่า พระพุทธเจ้า ทรงอุบัติขึ้นแล้ว มีความประสงค์จะไปเฝ้าพระพุทธเจ้าพร้อมกับพวกศิษย์ แต่ถูกโรคภัยบางอย่างเบียดเบียน จึงเข้าไปยังบรรณศาลา ได้ทราบ อานุภาพและลักษณะของพระพุทธเจ้าจากสำนักของศิษย์ แล้วมีใจเลื่อมใส ให้พวกศิษย์นำเอาดอกไม้นานาชนิดเช่น ดอกจำปา ดอกอโศก และ ยอดหมากเม่าเป็นต้นมาจากหิมวันตประเทศแล้ว ก่อสถูป บูชาพระสถูป คล้ายบูชาพระพุทธเจ้าแล้ว เขากระทำกาละแล้ว ก็ได้เข้าถึงพรหมโลก. ลำดับนั้น พวกศิษย์เหล่านั้น จึงพากันกระทำฌาปนกิจท่าน เสร็จงาน แล้ว พากันไปเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วกราบทูลเรื่องราวทั้งหมดให้ทรงทราบ. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงตรวจดูด้วยพุทธจักษุ ก็ทรงทราบ ชัดด้วยพระอนาคตังสญาณ. ในชาติต่อมา คือในพุทธุปบาทกาลนี้ เขา

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 418

ได้บังเกิดในเรือนอันมีสกุลในกรุงสาวัตถี พอบรรลุนิติภาวะแล้ว ด้วย พลังแห่งวาสนาที่ตนได้สั่งสมมาในกาลก่อน จึงมีความเลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.

ต่อมาท่านระลึกถึงกุศลกรรมของตนในชาติก่อนได้ มีความโสมนัส เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึง กล่าวคำเริ่มต้นว่า หิมวนฺตสฺสาวิทูเร ดังนี้. ถ้อยคำนั้นทั้งหมดข้าพเจ้า ได้กล่าวไว้แล้วในหนหลังแล. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กุกฺกุโร นาม ปพฺพโต ความว่า ยอดแห่งภูเขาที่เรียกกันว่า กุกกุรบรรพต เพราะ. ตั้งตระหง่านมีลักษณาการคล้ายกับสุนัข. อธิบายว่า สร้างบรรณศาลาอยู่ ร่วมกับดาบส ๕,๐๐๐ คน ใกล้ๆ กับภูเขาลูกนั้น. คำที่เหลือในที่ทุกแห่ง จะว่าโดยเนื้อความแล้ว มีเนื้อความง่ายๆ ทั้งนั้น.

จบอรรถกถาปุปผถูปิยเถราปทาน