พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

อัตถสันทัสสกเถราปทานที่ ๗ (๑๓๗) ว่าด้วยผลแห่งการชมเชยพระพุทธเจ้า ๓ คาถา

 
บ้านธัมมะ
วันที่  27 พ.ย. 2564
หมายเลข  41130
อ่าน  317

[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 466

เถราปทาน

โสภิตวรรคที่ ๑๔

อัตถสันทัสสกเถราปทานที่ ๗ (๑๓๗)

ว่าด้วยผลแห่งการชมเชยพระพุทธเจ้า ๓ คาถา


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 466

อรรถกถาอัตถสันทัสสกเถราปทานที่ ๗ (๑๓๗)

ว่าด้วยผลแห่งการชมเชยพระพุทธเจ้า ๓ คาถา

[๑๓๙] เรานั่งอยู่ในโรงอันกว้างใหญ่ ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่าปทุมุตตระ ผู้เป็นนายกของโลก ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว ผู้บรรลุพลธรรม แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์.

ภิกษุสงฆ์ประมาณ ๑ แสน ผู้บรรลุวิชชา ๓ ได้อภิญญา ๖ มีฤทธิ์มาก แวดล้อมพระสัมพุทธเจ้า ใครเห็นแล้วจะไม่ เลื่อมใสเล่า.

ในมนุษยโลกพร้อมทั้งเทวโลกไม่มีอะไรเปรียบ ในพระญาณของพระสัมพุทธเจ้าองค์ใด ใครได้เห็นพระสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้นผู้มีพระญาณไม่สิ้นสุดแล้ว จะไม่เลื่อมใสเล่า.

ชนทั้งหลายไม่อาจให้พระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งทรงแสดง พระธรรมกาย และความเป็นหน่อเนื้อแห่งรัตนะทั้งสิ้นให้ กำเริบได้ ใครได้เห็นแล้วจะไม่เลื่อมใสเล่า.

พราหมณ์นารทะนั้นชมเชยพระสัมพุทธเจ้า พระนามว่า ปทุมุตตระผู้ไม่แพ้ด้วย ๓ คาถานี้แล้ว เดินไปข้างหน้า.

ด้วยจิตอันเลื่อมใส และด้วยการชมเชยพระพุทธเจ้านั้น เราไม่ได้เข้าถึงทุคติเลยตลอดแสนกัป.

ในกัปที่ ๓,๐๐๐ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอม กษัตริย์พระนามว่าสุมิตตะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 467

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระอัตถสันทัสสกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.

จบอัตถสันทัสสกเถราปทาน

๑๓๗. อรรถกถาอัตถสันทัสสกเถราปทาน

อปทานของท่านพระอัตถสันทัสสกเถระ อันมีคำเริ่มต้นว่า วิสาลมาเฬ อาสีโน ดังนี้.

แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ หลายอัตภาพที่ผ่านมาจะสั่งสมแต่บุญไว้ ในกาลแห่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ ท่านได้เกิดในตระกูล พราหมณ์ เจริญวัยแล้ว สำเร็จการศึกษาในศิลปะประจำตัวแล้ว แต่มอง ไม่เห็นสาระในศิลปะนั้น จึงละเรือนไปยังหิมวันตประเทศ สร้างบรรณศาลาอยู่อาศัยในที่อันน่ารื่นรมย์ใจ. ในคราวนั้น เขาได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระผู้เสด็จมายังหิมวันต์ประเทศ เพื่อทรง อนุเคราะห์หมู่สัตว์ (เขา) มีใจเลื่อมใส ไหว้ประกอบพร้อมด้วยองค์ ๕ และทำการชมเชยด้วยถ้อยคำอันชมเชยมากมาย. ด้วยบุญอันนั้นเขาดำรง ชีวิตอยู่ได้จนตลอดอายุ กระทำกาละแล้ว (ตายแล้ว) ได้ไปเกิดยังพรหม-

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 468

โลก. ในชาติต่อมา คือ ในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาได้บังเกิดในเรือนอัน มีตระกูล บรรลุนิติภาวะแล้ว ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา ได้มีจิตศรัทธา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต.

ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตนได้ เกิดความโสมนัส เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้น ว่า วิสาลมาเฬ อาสีโน ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า วิสาลมาเฬ เชื่อมความว่า โรงอันไพศาล กว้าง แผ่กว้างใหญ่ เรียกว่า โรงอันกว้าง ใหญ่ คือ เรานั่งอยู่ในโรงอันกว้างใหญ่ ได้พบเห็นพระพุทธเจ้าผู้เป็น นายกของชาวโลกแล้ว. คำที่เหลือมีเนื้อความพอจะรู้ได้ง่ายแล้วทีเดียว.

จบอรรถกถาอัตถสันทัสสกเถราปทาน