ผลทายกเถราปทานที่ ๑๐ (๑๔๐) ว่าด้วยผลแห่งการถวายผลมะหาด
[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 475
เถราปทาน
โสภิตวรรคที่ ๑๔
ผลทายกเถราปทานที่ ๑๐ (๑๔๐)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายผลมะหาด
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 475
ผลทายกเถราปทานที่ ๑๐ (๑๔๐)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายผลมะหาด
[๑๔๒] ในกาลนั้น เราเป็นพรานเที่ยวฆ่าสัตว์อื่นเป็นอย่างมาก สำเร็จการนอนอยู่ที่เงื้อมเขา ไม่ไกลพระศาสดาพระนามว่าสิขี.
เราได้เห็นพระพุทธเจ้าอัครนายกของโลก ทั้งเวลาเย็น เวลาเช้า ก็เราไม่มีไทยธรรมสำหรับถวายแด่พระศาสดาผู้ จอมสัตว์ ผู้คงที่.
เราได้ถือเอาผลมะหาดไปสู่สำนักพระพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าเชษฐบุรุษของโลกผู้ประเสริฐกว่านระทรงรับ.
ต่อแต่นั้น เราได้ถือเอาผลมะหาดไป ทูลถวายพระองค์ ผู้นำวิเศษ ด้วยจิตอันเลื่อมใสนั้น เราได้ทำกาลกิริยา ณ ที่นั้น เอง.
ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ เราได้ถวายผลมะหาดใด ด้วยกรรม นั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้.
ในกัปที่ ๑๕ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓ ครั้ง ทรงพระนามว่ามาลภิ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มี พละมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระผลทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ ฉะนี้แล.
จบผลทายกเถราปทาน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 476
๑๔๐. อรรถกถาปิยาลผลทายกเถราปทาน (๑)
อปทานของท่านพระปิยาลผลทายกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปโรธโก ตทา อาสึ ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ทุกๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน เป็นประจำเสมอ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า สิขี ท่านได้บังเกิดในตระกูลนายพราน ฆ่าเนื้อทั้งหลายที่เงื้อมเขาแห่งหนึ่งใน ป่าหิมวันต์ เลี้ยงชีวิตอยู่ ในกาลนั้น เขาได้พบเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า สิขี เสด็จไปยังที่นั้นแล้ว มีใจเลื่อมใส นมัสการอยู่ทั้งเวลา เย็นและเวลาเช้า มองไม่เห็นไทยธรรมอะไรๆ จึงได้เลือกเก็บผลไม้ หวานๆ ไปถวาย พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสวยผลไม้เหล่านั้นแล้ว. นาย พรานนั้น มีสรีระอันปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์กระทบถูกต้องแล้ว หาระหว่างมิได้ มีจิตอันงดเว้นแล้วจากบาปกรรม มีเหง้าไม้และผลไม้ เป็นอาหาร ไม่นานนักก็ได้ทำกาละไปบังเกิดในเทวโลก.
เขาได้เสวยทิพยสมบัติในเทวโลกนั้นแล้ว ได้มาบังเกิดในมนุษยโลก เสวยสมบัติอีกหลายอย่างในมนุษย์ ในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาได้บังเกิดใน ตระกูลคฤหบดี บรรลุนิติภาวะแล้ว ดำรงอยู่ในเพศฆราวาส แต่ไม่มี ความยินดีในเพศฆราวาสนั้น จึงละเรือนออกบวชในสำนักของพระศาสดา เจริญวิปัสสนา ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต ระลึกถึงกรรม คือการถวายผลไม้ที่ตนบำเพ็ญไว้ได้ เกิดความโสมนัส เมื่อจะประกาศถึง เรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า
๑. บาลี เป็น ผลทายกเถราปทาน.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 477
ปรโธโก ตทา อาสึ ดังนี้. ในคำนั้น เชื่อมความว่า ในคราวที่เราเป็น พรานเที่ยวฆ่าสัตว์อื่น ได้ถวายผลมะหาดแล้ว ทำจิตให้เลื่อมใส. บทว่า ปโรธโก ได้แก่ เป็นผู้ฆ่าสัตว์อื่น คือเป็นผู้เบียดเบียน (สัตว์อื่น). ใน เมื่อควรจะกล่าวว่า ปรโรธโก แต่ท่านกล่าวว่า ปโรธโก เพราะทำการ ลบ ร อักษรตัวต้นเสีย. บทว่า ปริจารึ วินายกํ ความว่า เราได้ปวารณา นิมนต์ อาราธนาพระศาสดาผู้บรรลุพระนิพพานนั้นด้วยคำว่า ข้าแต่ พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์จงบริโภคผลไม้นี้เถิด. คำที่เหลือมีเนื้อความ พอจะรู้ได้โดยง่ายทีเดียว.
จบอรรถกถาปิยาลผลทายกเถราปทาน
จบอรรถกถาโสภิตวรรคที่ ๑๔
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. โสภิตเถราปทาน ๒. สุทัสสนเถราปทาน ๓. จันทนปูชกเถราปทาน ๔. ปุปผฉทนิยเถราปทาน ๕. รโหสันทัสสกเถราปทาน ๖. จัมปกปุปผิยเถราปทาน ๗. อัตถสันทัสสกเถราปทาน ๘. เอกรังสนิยเถราปทาน ๙. สาลทายกเถราปทาน ๑๐. ผลทายกเถราปทาน.
บัณฑิตทั้งหลายรวมคาถาได้ ๗๒ คาถา ฉะนี้แล.
จบโสภิตวรรคที่ ๑๔