พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

กุมุทมาลิยเถราปทานที่ ๑ (๑๗๑) ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกโกมุท

 
บ้านธัมมะ
วันที่  28 พ.ย. 2564
หมายเลข  41166
อ่าน  339

[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 564

เถราปทาน

กุมุทวรรคที่ ๑๘

กุมุทมาลิยเถราปทานที่ ๑ (๑๗๑)

ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกโกมุท


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 564

กุมุทวรรคที่ ๑๘

กุมุทมาลิยเถราปทานที่ ๑ (๑๗๑)

ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกโกมุท

[๑๗๓] ณ ที่ใกล้ภูเขาหิมวันต์ มีสระใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง (ตาม ธรรมชาติ) เราเป็นผีเสื้อน้ำที่ดุร้ายมีกำลังมาก อยู่ในสระ ใหญ่นั้น.

ดอกโกมุทอันบานโตประมาณเท่าจักร เกิดอยู่ในสระใหญ่ นั้น และในกาลนั้น เราเก็บดอกโกมุท (ที่มีเมล็ดไว้) อัน เป็นที่ประชุมแห่งเมล็ดไว้.

ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าอัตถทัสสี ผู้จอมสัตว์ ประเสริฐกว่านระ ทรงเห็นดอกโกมุทอันหดหู่ (งอ) จึงเสด็จ มาในสำนักของเรา.

เราได้เห็นพระสัมพุทธเจ้าผู้ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ เสด็จเข้ามา จึงหยิบดอกโกมุททั้งหมดบูชา (ถวาย) แด่ พระพุทธเจ้า.

ในกาลนั้น ดอกไม้มีอยู่เท่าใด พระตถาคตประกอบด้วย ดอกไม้เท่านั้นเป็นหลังคาบังร่มเสด็จไปที่ภูเขาหิมวันต์.

ในกัปที่ ๑,๘๐๐ แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วย ดอกไม้ใด ด้วยการบุชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผล แห่งพุทธบูชา.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 565

ในกัปที่ ๑๕ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้เป็นจอม ชน ทรงพระนามว่า สหัสสรถะ มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระกุมุทมาลิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ ฉะนี้แล.

จบกุมุทมาลิยเถราปทาน

กุมุทวรรคที่ ๑๘

๑๗๑. อรรถกถากุมุทมาลิยเถราปทาน

อปทานของท่านพระกุมุทมาลิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปพฺพเต หิมวนตมฺหิ ดังนี้.

พระเถระแม้นี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ ก่อนๆ ทุกๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน เป็นประจำเสมอ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า อัตถทัสสี ท่านได้เกิดเป็นผีเสื้อน้ำอยู่ที่สระใหญ่ใกล้กับภูเขาหิมวันต์ พบเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าอัตถทัสสี ซึ่งเสด็จไปในที่นั้นแล้ว มีใจ เลื่อมใส เก็บดอกโกมุทไปบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำอนุโมทนาแล้วเสด็จหลีกไป.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 17 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 566

ด้วยบุญอันนั้น เขาจุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ได้ไปเกิดยังเทวโลก เสวยสมบัติในกามาวจรสวรรค์ ๖ ชั้นแล้ว เกิดในมนุษย์ ได้เสวยสมบัติ มีจักรพรรดิสมบัติเป็นต้นแล้ว ในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาได้เกิดในเรือน อันมีสกุล เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสในพระรัตนตรัย บวชแล้วพยายามอยู่ ก็ได้บรรลุพระอรหัตอันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ระลึกถึงบุพกรรมของ ตนได้ เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติ มาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า ปพฺพเต หิมวนฺตมฺหิ ดังนี้ บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตตฺถโช รกฺขโส อาสึ ความว่า เราได้เป็น ผีเสื้อน้ำเกิดใกล้สระใหญ่นั้น คือได้เป็นยักษ์เคี้ยวกินเลือดและเนื้อคนอื่น ไร้ความกรุณา มีรูปร่างน่าเกลียด มีสภาพน่ากลัว มีกำลังมาก มีเรี่ยว แรงมาก กักขฬะ. บทว่า กุมุทํ ปุปฺผิเต ตตฺถ ความว่า เมื่อไม่มีแสง พระอาทิตย์ส่องลงไปในสระใหญ่นั้น พอถึงเวลาเย็นดอกก็จะหุบ ไม่มี รัศมี ไม่มีสี มีแต่อาการเหี่ยวงอ คือดอกไม้อันได้นามว่า กุมุท ที่กำลัง แย้มบานอยู่. บทว่า จกฺกมตฺตานิ ชายเร ความว่า ดอกไม้เหล่านั้น เกิดมีประมาณเท่ากงจักรรถ. คำที่เหลือมีเนื้อความพอจะรู้ได้โดยง่าย ทีเดียวแล.

จบอรรถกถากุมุทมาลิยเถราปทาน