การตายพรากจากทุกสิ่งโดยสิ้นเชิง

 
เก็บมาฝาก
วันที่  27 มิ.ย. 2550
หมายเลข  4130
อ่าน  2,553

การตายพรากจากทุกสิ่งโดยสิ้นเชิง ทั้งความคิด ความจำ ความยึดถือใดๆ ทั้งสิ้นที่

เคยเกาะเกี่ยวผูกไว้ ตั้งแต่เกิดจนเดี๋ยวนี้นั้น ก็จะผูกพันยึดถือว่าเป็นตัวเราอีกต่อไป

ไม่ได้ การพบกันครั้งสุดท้ายก่อนตายจากไปนั้น ไม่มีเครื่องหมาย ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะ

แสดงให้รู้ว่า เมื่อเห็นกันแล้วจะไม่ได้เห็นกันอีก เมื่อเห็นตอนเช้าก็อาจจะไม่ได้เห็น

ตอนเย็น เห็นตอนเย็นก็อาจจะไม่ได้เห็นตอนเช้า ทุกคนเห็นความจริงว่า ไม่มีใคร

สามารถหลีกเลี่ยงหรือต่อรองความตายได้ จะขอเวลาต่อแม้เล็กน้อยก็ไม่ได้


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 27 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 27 มิ.ย. 2550

ทุกคนเกิดมาแล้วหนีไม่พ้นความตาย แม้แต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังทรงปรินิพพานเลย

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
opanayigo
วันที่ 2 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนา.....ธรรมจากความตาย

ธัมมะคือ การพรากจาก และสละออกอย่างแท้จริงในทรรศนะเพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์การพลัดพรากของผู้มีพระคุณการตายของท่านทำให้เห็นซึ่ง อนัตตา ในสภาวะจริงๆ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่กระทำมาในชีวิตสูญสิ้นเป็น อนัตตา กราบอนุโมทนาแก่ผู้วายชนม์

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
yupa
วันที่ 2 ก.ค. 2550

อดคิดไม่ได้ว่า ทำไม คนเราเมื่อเกิดแล้ว ต้องตายด้วย อะไรหนอทำให้เราต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบสิ้นเสียที โลกใบนี้เห็นมีอยู่ 2 อย่างเท่านั้น คือ สุข และ

ทุกข์ เท่านั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
study
วันที่ 2 ก.ค. 2550

สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เมื่อเกิดขึ้น ความแตกดับย่อมมีเป็นธรรมดา

เพราะมีอวิชชาสัตว์ทั้งหลายจึงต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบสิ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 29 ส.ค. 2550

ตายไปพร้อมๆ กับความไม่รู้กับรู้นั้นต่างกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Tawin
วันที่ 30 ส.ค. 2550


การตายเป็นเพียงการสิ้นไปของรูปที่เป็นส่วนของร่างกาย แต่จิตนั้นยังคงปฏิสนธิในภพใหม่ คือ รูปใหม่ตามการสั่งสมของกรรมเกิดการสืบต่อชาติภพต่อไปยังคงเวียน

ว่ายในวัฏฏะจนกระทั่งมีการสั่งสมของปัญญาจนอวิชชาจะหาไม่ แต่สำหรับปุถุชนผู้ยัง

ไม่รู้ก็จะเข้าใจว่าการตาย คือ การสิ้นไป จาก ไป ยังความเศร้าโศก เสียใจ รำพัน ตาม

ความไม่รู้ พุทธบริษัททั้งหลายอย่ากระนั้นเลย จงอย่าประมาท จงเร่งสั่งสมปัญญา

เถิด จงเร่งทำความเพียร ทาน ศีลและภาวนาเสียตั้งแต่ยังมีเวลาเถิด

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ