กรณีนี้ ผิดศีลข้อกาเม หรือไม่

 
Nareopak
วันที่  27 มิ.ย. 2550
หมายเลข  4136
อ่าน  8,954

กรณีที่ ๑ หญิงที่จดทะเบียนสมรสแล้วสามีเสียชีวิต ต่อมาหญิงนั้นมีสามีใหม่ (ทางพฤตินัย)

กรณีที่ ๒ หญิงที่ยังไม่เคยมีสามี ต่อมาภายหลังเป็นภรรยาน้อย โดยที่มารดาของหญิงนั้นก็ รับทราบ ทั้ง ๒ กรณีนี้ ถือว่าเป็นการผิดศีลข้อ ๓ หรือไม่ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 28 มิ.ย. 2550

ทั้ง ๒ กรณีที่ยกมา หญิงไม่ผิดศีลข้อที่ ๓ กาเม ฯ

ขอเชิญอ่านต่อที่นี่ครับ

เกณฑ์หรือมาตราฐานในการวัดการผิดศีลข้อ ๓

อย่างไร จึงจะเป็นการผิดศีล ข้อ 3 กาเม

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 28 มิ.ย. 2550

ข้อที่ ๑. ไม่ผิดศีลข้อ ๓ ค่ะ

ข้อที่ ๒. ไม่ผิดศีลข้อ ๓ ค่ะ

แต่ถ้ารู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว เราไม่ควรจะไปเป็นภรรยาน้อยของเขา ในพระไตรปิฏกแสดงไว้ว่า ความทุกข์ของผู้หญิงคือความหึงหวงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
udomjit
วันที่ 1 ก.ค. 2550

ตามไปอ่านข้อความที่ link แล้วก็ยังงงๆ อยู่ค่ะ

แล้วเป็นภรรยาน้อยจะถือว่าทำอกุศลกรรมไหมค่ะ มีแสดงโทษของการเป็นภรรยาน้อยไว้ในพระไตรปิฎกบ้างไหมค่ะ

แล้วผู้ชายที่มีภรรยาน้อยถือว่าทำอกุศลกรรมไหมค่ะ

อยากขอความกรุณาให้แสดงพระไตรปิฎกเรื่องความทุกข์ของผู้หญิง คือความหึงหวงและทางแก้ความหึงหวงค่ะ พอดีเพื่อนคนหนึ่งกำลังทุกข์หนักมากๆ เรื่องที่สามีไปมีภรรยาน้อยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
study
วันที่ 2 ก.ค. 2550

การที่ผู้หญิงเป็นภรรยาน้อยไม่เป็นอกุศลกรรมบถ ไม่มีแสดงไว้ว่ามีโทษ ส่วนผู้ชายที่มีภรรยาน้อย โดยกระทำถูกต้องตามประเพณี ไม่เป็นอกุศลกรรมบถ แต่ถ้า กระทำไม่ถูกต้องตามประเพณี คือ ผู้ปกครองของหญิงนั้นไม่ยินยอม ชื่อว่า เป็น อกุศลกรรมบถ ขณะที่มีจิตคิดหึงหวง ขณะนั้นเป็นอกุศลประเภทโทสะ ทำให้เป็นทุกข์ อกุศลทั้งหลายแก้หรือละได้ด้วยการอบรมเจริญปัญญา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 2 ก.ค. 2550

เชิญคลิกอ่านได้ที่...

โทษของกาม [คาถาธรรมบท]

หนทางเดียวที่จะละคลายความติดข้องทั้งหลาย คือ การฟังธรรมบ่อยๆ การพิจารณาธรรมฟังเรื่องสุเมธาเถรี ท่านแสดงโทษของกามค่ะ มูลนิธิ ฯ ก็มีแผ่นซีดี

สุเมธาเถรี ให้บริการค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
udomjit
วันที่ 2 ก.ค. 2550

ขอบคุณคุณ wannee.s มากค่ะ แต่อย่างไรก็ตามดิฉันก็รู้สึกไม่ดีขึ้นเลย กับการที่เพิ่งรู้ว่าการเป็นภรรยาน้อยนั้นไม่ผิดศีลไม่ล่วงอกุศลกรรมบถ ทั้งที่เป็นเหตุก่อให้เกิดความทุกข์แก่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ขนาดคุณยังบอกว่าไม่ควรแต่ทางธรรมกลับไม่มีผลกรรมที่เป็นอกุศล

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
udomjit
วันที่ 2 ก.ค. 2550
แล้วชายที่แต่งงานแล้วไม่ใช่บุคคลต้องห้ามหรือค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
study
วันที่ 3 ก.ค. 2550

ผู้ชายทั้งหมดเว้นสามีของตน เป็นบุคคลต้องห้ามสำหรับหญิงที่มีสามีแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
udomjit
วันที่ 3 ก.ค. 2550

ถามให้แน่ใจอีกทีค่ะ

สำหรับหญิงที่ยังไม่มีสามี ผู้ชายที่มีภรรยาแล้วไม่ใช่บุคคลต้องห้าม ถูกต้องไหมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
study
วันที่ 3 ก.ค. 2550
ถูกแล้ว ครับ เพราะผู้เสียหายเป็นฝ่ายหญิง
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
udomjit
วันที่ 3 ก.ค. 2550

ขอบคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
คนรักหนัง
วันที่ 5 ก.ค. 2550

คำว่า " สามี " แปลว่า " เจ้าของ " การแต่งงานกัน ผู้ชายเป็นเจ้าของผู้หญิง แต่ผู้หญิงไม่ได้เป็นเจ้าของผู้ชาย บนสวรรค์นั้น ในวิมานหนึ่งๆ จะมีเทพบุตร 1 องค์ที่เป็นเจ้าของเทพธิดาจำนวนมากๆ <ท้าวสักกะเป็นเจ้าของเทพธิดา 2 โกฏิ์ครึ่ง (25 ล้าน) > แต่ไม่ปรากฏว่า มีวิมานไหน ที่มีเทพธิดา ซึ่งเป็นเจ้าของเทพบุตรจำนวนมากๆ โดยธรรมชาติแล้วผู้ชายเป็นเพศซึ่งมีความกล้า แกร่ง เป็นผู้นำ เป็นหัวหน้า เป็นผู้ปกป้องเพศหญิง ครับ เกิดสงครามขึ้นมา ผู้ชายนั่นแหละครับ ตายก่อน การทำชั่วที่รุนแรงมากๆ ก็ผู้ชายแหละครับที่ทำ ดูอย่างท่านพระเทวทัตเป็นต้น

สตรีไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้า - พระเจ้าจักรพรรดิ - ท้าวสักกะ - ท้าวมหาพรหม พญาราชสีห์ - ช้างอาชาไนย - ม้าอาชาไนย ฯลฯ แต่ด้วยความยาวนานของสังสารวัฏฏ์ ทุกคนจึงเคยเป็นมาแล้วทั้งเพศชาย - เพศหญิง -กระเทย หรือแม้กระทั่งไม่มีเพศ - มีสองเพศในร่างเดียว ประสบกับความสุข และความทุกข์มาแล้วทั้ง 31 ภพภูมิ และ ส่วนใหญ่เราจะเกิดในทุคติภูมิ (โดยเฉพาะในนรก) มากกว่าสุคติภูมิ ครับ ความทุกข์กายในภูมิมนุษย์ เทียบไม่ได้เลยกับความทุกข์กายในนรก

ไม่ว่าจะเป็น ชาย หรือ หญิง ทุกคนต้องประสบกับความทุกข์อย่างแสนสาหัสแน่นอนตราบใดที่ยังดับกิเลสไม่ได้ ถ้าเข้าใจหนทางอบรมเจริญวิปัสสนา ทุกคนก็สามารถถึงซึ่งความเป็นพระอรหันต์ดับทุกข์ได้หมดสิ้น ไม่ว่าชาย หรือ หญิง ครับ

ขอให้คุณ udomjit ค่อยๆ ศึกษาพระธรรม ไปเรื่อยๆ นะครับ พระธรรมจะนำมาซึ่งความสุขทั้งโลกนี้ และโลกหน้า ไม่ว่าจะเป็นความสุขทางโลก หรือทางธรรม กุศลที่เราทำจะเป็นเหมือนเพื่อนสนิท หรือญาติ ที่คอยอุปการะเกื้อกูลเรา อยากเป็นชาย ก็จะได้เป็นชาย อยากเป็นหญิง ก็จะได้เป็นหญิง

ขออนุโมทนากับ มศพ.- บ้านธัมมะ - และ ทีมงาน ทุกๆ ท่าน ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
bongbaew
วันที่ 5 ก.ค. 2550

เรื่องสุเมธาเถรี ประทับใจมากครับ

ได้เตือนตัวเองด้วยว่ายังฝึกฝนไม่พอ

ขอบคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
แวะเข้ามา
วันที่ 5 ก.ค. 2550

การที่เทพบุตรอุบัติขึ้นพร้อมกับวิมาน และเทพธิดาเป็นจำนวนมากนั้น เป็นผลของกุศลกรรมที่มีกำลัง ท่านไม่ได้เสาะแสวงหาเทพธิดามาจากไหน แต่เป็นการอุบัติขึ้นพร้อมกันเป็นเทวสมบัติ เทพบางท่านที่ไม่ได้สะสมมา เป็นผู้ไม่มักมากในกามคุณ ท่านก็ไม่ได้ใยดีในสิ่งเหล่านั้น สำหรับในมนุษยภูมิ พระราชาหรือเจ้าเมืองที่เรืองอำนาจ ย่อมได้รับการถวายธิดาจากบิดามารดาที่ปรารถนาให้บุตรของตนเป็นสุขและได้รับความคุมครองอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการได้มาโดยชอบธรรมเช่นกัน แต่การมีภรรยาน้อยของคนในยุคนี้ เป็นการเสาะแสวงหาด้วยตัวเอง ด้วยกำลังของกิเลส ด้วยความป็นผู้มักมาก ด้วยความเป็นผู้ไม่รู้จักพอ แม้ในบางกรณีจะไม่ผิดศีล (บิดามารดารับรู้แล้วยกให้) แต่ย่อมเป็นเหตุให้เกิดความไม่สงบภายในครอบครัว และอาจก่อให้เกิดการกระทำทุจริตกรรมอื่นๆ ขึ้นได้

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
สำราญบานตะไท
วันที่ 6 ก.ค. 2550

ครับ การเสาะแสวงหาภรรยา หลายๆ คน เป็นความไม่สันโดษ ความทุกข์เกิดตั้งแต่เริ่มมีความคิดที่จะทำแบบนั้น และเมื่อได้มาแล้วก็ทำให้ครอบครัวแตกแยก (แม้จะไม่ผิดศีล) เป็นอกุศลมากมายกับทุกฝ่าย เพราะตอนแต่งงานกัน ภรรยาคนแรก ก็ไม่รู้ว่าสามีของตนจะเป็นแบบนี้ แล้วยังเป็นปัญหากับสังคมอีกด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
devout
วันที่ 6 ก.ค. 2550

ท่านคนรักหนังค่ะ...

ท่านซื้อ ๑๒๐ แต่เผลอไปนั่ง ๑๔๐ อีกแล้วนะคะ พรหมโลกชั้นสุธาวาส ๕ ภูมิ พวกเรายังไม่เคยไปกันเลยนะคะ เพราะเป็นภูมิ ของพระอนาคามีที่ได้ปัญจมฌานเท่านั้น และท่านก็จะไม่มีวันกลับมาเป็นเช่นนี้อีก เห็นด้วยค่ะ กับคำกล่าวที่ว่า "กุศลที่เราทำจะเป็นเหมือนเพื่อนสนิท หรือ ญาติที่คอยอุปการะเกื้อกูลเรา" จะดูหนังฟังเพลงก็ยังเจริญสติได้เป็นปกติใช่มั้ยค่ะ (เว้นเสียแต่ว่าจะไม่นั่งผิดที่)

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
คนรักหนัง
วันที่ 6 ก.ค. 2550

ผมเห็นด้วยกับ คุณแวะเข้ามา และ คุณสำราญบานตะไท ครับ การแสวงหาภรรยาหลายๆ คน ทางโลกเขาก็ติเตียนด้วย เพราะสังคมยุคนี้ เป็นระบบสามีเดียว ภรรยาเดียว

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
คนรักหนัง
วันที่ 6 ก.ค. 2550

แหะๆ ขอบคุณ คุณ devout ครับ เผลอ ไปนั่ง 140 อีกแล้ว ตกลงเราก็เกิดวนเวียนไป 26 ภูมิ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
wannee.s
วันที่ 6 ก.ค. 2550

ตอบคุณ udomjit ธรรมเท่านั้นค่ะ ที่จะช่วยคุณได้ เมื่อเราฟังธรรมทุกๆ วัน ปัญญาก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น และจะค่อยๆ ละคลายความติดข้องซึ่งเป็นสาเหตุของทุกข์ทั้งหลาย ให้นึกถึงกรรมและเหตุปัจจัยเพราะการที่เราจะมาเจอใคร ได้คบและรู้จักกับใคร ก็มาจากผลของกรรมและเหตุปัจจัยในอดีตที่เคยทำร่วมกันมาจึงได้มาพบกันค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
udomjit
วันที่ 8 ก.ค. 2550

ขอบคุณในความกรุณาของทุกท่านอีกครั้งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
udomjit
วันที่ 8 ก.ค. 2550

เข้าไปอ่านสุเมธาเถรีเมื่อครู่นี้ค่ะขอบคุณอย่างยิ่งค่ะเกิดความรู้สึกต่างๆ หลายเรื่องและเป็นไปในทางที่ดีแก่ชีวิตค่ะ ขอความอนุเคราะห์อีกเรื่องนะค่ะ ดิฉันอยากได้มี โอกาสอ่านเรื่องในพระไตรปิฎกที่ให้ข้อคิดที่ทำให้เราเข้าใจได้ถึงการที่ (เขียนไม่ถูก ค่ะ) อย่างเช่น คนในสังคมที่อยู่ตัดสินการยอมตามความคิดหรือการเงียบฟังไม่แสดง ความคิดขัดแย้งว่าเป็นคนมี EQ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
อิสระ
วันที่ 9 ก.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
ปลายฟ้า
วันที่ 10 ก.ค. 2550
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำให้เขาทั้งหลายได้มาพบเป็นมิตรกัน แล้วอะไรคือปัจจัยส่งผลคะ ให้เป็นเช่นนั้นคะ
 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 11 ก.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

จากความเห็นที่ 23

มีหลายประการดังนี้ ความยาวนานของสังสารวัฏฏ์จึงได้มาเป็นมิตรกัน เราเกิดมานับชาติไม่ถ้วน เคยผูกพันมาทุกฐานะครับ แม้ความเป็นมิตรกัน มีอุปนิสัยหรือธาตุเหมือนกัน คนที่นิสัยไม่ดีก็คบกับคนที่นิสัยไม่ดี คนที่ดีก็คบเป็นเพื่อนกับคนที่ดี เป็นต้น เคยทำบุญร่วมกันไว้ในกาลก่อน ตั้งความปรารถนา ว่าจะเป็นเพื่อนหรือได้อยู่ร่วมกัน แต่ต้องทำกุศลครับแล้วตั้งความปรารถนา

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 25  
 
wannee.s
วันที่ 12 ก.ค. 2550

ความรักเกิดด้วยเหตุ 2 ประการค่ะ

1. เคยอยู่ร่วมกันในกาลก่อน

2. เกื้อกูลกันในปัจจุบัน

เปรียบเหมือนดอกอุบลที่เกิดในน้ำอาศัยเปือกตม

 
  ความคิดเห็นที่ 26  
 
ปลายฟ้า
วันที่ 14 ก.ค. 2550

ขอบพระคุณคะ ณ.ขณะนี้ ที่ได้สนทนากับผู้ให้ความกระจ่างทางปัญญา ไม่ว่าจะเป็น คุณ แล้วเจอกัน หรือ คุณ wannee.s แบบนี้นับได้ว่า เคยร่วมบุญกันมาก่อนด้วยหรือไม่

คะ ขอบคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 27  
 
Gigi
วันที่ 18 ก.ค. 2550

ยังไม่แน่ใจว่า ภรรยาน้อย หรือหญิงผู้บำเรอชายที่มีภรรยาอยู่แล้วจะผิดหรือไม่ ตามธรรมดาเมื่อรู้ว่าชายเป็นคนที่มีเจ้าของความสัมพันธ์ย่อมกระทำไปด้วยอาการ ลักลอบ ซึ่งน่าจะผิดศีลข้อ 2 ไปโดยปริยาย หรือชายอาจจะโกหกว่า ภรรยาอนุญาต ก็ผิดศีลข้อ 4 แน่ๆ

ดังนั้นหญิงเมื่อรู้ว่าชายมีภรรยาจึงไม่ควรข้องแวะ เพราะถ้าสัมพันธ์ก็อาจจะทำ ให้ผิดศีลข้ออื่น ไป ฟรีๆ บางทีภรรยาตรอมใจตาย หญิงผู้บำเรอบอกอยู่ว่าไม่ได้แย่งๆ ก็จะมีส่วนในการทำชีวิตผู้อื่นให้ตกไป นับว่าเป็นบาป เช่นกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 28  
 
study
วันที่ 18 ก.ค. 2550

ว่าตามหลักคำสอน หญิงที่ยังไม่มีสามี เมื่อไปอยู่ร่วมกับชายอื่น หญิงไม่ผิดศีลเพราะตนเองเป็นฝ่ายเสีย

 
  ความคิดเห็นที่ 29  
 
pornpaon
วันที่ 18 ก.ค. 2550

ปัญหาโลกแตก เรื่องความพึงพอใจในความรัก ชอบ หึงหวง เกลียดชัง ของชายหญิงนั้น ที่สุดแล้ว ผลของเรื่องทั้งหมดย่อมเป็นไปตามเจตนาของผู้กระทำนั้นเอง ทั้งที่เคยเกิดขึ้นและกระทำแล้วในอดีต ที่กำลังกระทำอยู่ในปัจจุบัน อันอาจจะ เป็นผลให้เกิดเป็นเรื่องราวต่างๆ ทั้งที่ชอบใจและไม่ชอบใจขึ้นได้อีกในอนาคต เรื่อง ของผู้อื่นก็คือเรื่องของผู้อื่น เรื่องที่น่าสนใจกว่าตอนนี้คือการพิจารณาตนเอง ตั้งใจ ฟังธรรม ศึกษาพระธรรม เรื่องราวต่างๆ ในชีวิตของเพื่อนร่วมโลกทั้งหลาย ก็เรียนรู้ไว้ เพื่อนำกลับมาส่องดูตนเอง เพราะการเกิดก็ชี้ชัดแล้วว่า เราต่างยังเป็นผู้ที่ต้องเรียนรู้ และศึกษาอีกมากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 30  
 
คนรักหนัง
วันที่ 19 ก.ค. 2550

ขอแก้คำผิด จาก ความเห็นที่ 12 ครับ (เพราะได้สอบถามท่านผู้จบเปรียญ 9 แล้ว)

คำว่า สามี แปลว่า เป็นใหญ่ หรือ เป็นนาย ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 31  
 
สำราญบานตะไท
วันที่ 19 ก.ค. 2550

แต่ผมมีความเห็นว่า ความเป็นใหญ่ หรือ ความเป็นนาย นั้น มิใช่ว่าภรรยาจะต้องทำตามหมดทุกเรื่อง ในฐานะ ภรรยาที่ดี และเป็นกัลยาณมิตร ถ้าสามี ทำผิดศีล 5 (ข้อใด ข้อหนึ่ง หรือทั้ง 5 ข้อ) ภรรยาก็สามารถทักท้วง และไม่ปฏิบัติตามก็ได้ ถึงสามี จะทิ้ง หรือเลิกกัน ก็ต้องยอม ล่ะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 32  
 
devout
วันที่ 19 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนาทุกท่าน ....ผู้มีศีลเป็นที่รัก

 
  ความคิดเห็นที่ 33  
 
ไรท์แจกแล้วไง
วันที่ 21 ก.ค. 2550
ไม่ต้องมีก็หมดเรื่อง ไม่ต้องกังวลว่าจะผิดไหม
 
  ความคิดเห็นที่ 34  
 
pornpaon
วันที่ 21 ก.ค. 2550

สงสัยจะห้ามยาก หลายคนกว่าจะคิดได้ว่าการมีความรัก (แบบชู้สาว) เป็นทุกข์มากกว่าสุขก็ต่อเมื่อได้เจอปัญหาไม่ได้อย่างใจ คนรักไม่เป็นอย่างที่เคยเป็นมา หรือตัวเองนั่นแหละ เป็นฝ่ายเปลี่ยนใจซะเอง ความรักเป็นยาพิษร้ายแรงที่รส ชาติหวานหอม ขนาดที่ต้องฆ่าตัวตาย หรือฆ่าคนอื่นตายเพราะมัน ก็ยอมกัน มานักต่อนักแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 35  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 22 ก.ค. 2550
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า ๓๘ ความโศก ย่อมเกิดแต่ของที่รัก ภัย ย่อมเกิดแต่ของที่รัก ความโศก ย่อมไม่มีแก่ผู้ปลดเปลื้องได้
 
  ความคิดเห็นที่ 36  
 
คนรักหนัง
วันที่ 27 ก.ค. 2550

เรื่องการมีคู่ครอง เป็นอย่างโบราณว่าไว้จริงๆ คือ คนในอยากออก คนนอก อยากเข้า ผู้ใดไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอกครับ ช่วงที่เริ่มรักกัน ทุกอย่างก็สวยหรู พอแต่งกันไปก็มีปัญหา แต่พระพุทธองค์ ก็มิได้ห้ามฆราวาสแต่งงาน จึงสำคัญ ที่ปัญญา เพราะพระอริยะอย่างท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี หรือท่านวิสาขามหาอุบาสิกา ก็เป็นฆราวาสที่ครองเรือน แต่งงานมีลูกหลานมากมาย ขึ้นอยู่กับอัธยาศัยครับ จะมีคู่ หรือ อยู่คนเดียว

"มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญา " คือ หนังสือเล่มใหม่ ของมูลนิธิฯ จะแจกในวันอาสาฬหบูชา วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม นี้ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 38  
 
จิต89หรือ121
วันที่ 28 ก.ค. 2550

ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน

ผู้มีปัญญาแม้จะขัดสนทรัพย์ก็เป็นอยู่ได้

ผู้ปราศจากปัญญาแม้จะมั่งคั่งด้วยทรัพย์ก็เป็นอยู่ไม่ได้่

ปัญญาจึงเป็นสิ่งที่ประเสริฐกว่าทรัพย์

 
  ความคิดเห็นที่ 39  
 
Gigi
วันที่ 21 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ และขอเรียนถาม คุณ Wannee.S ว่าจะอ่านหรือฟังเรื่องสุเมธาเถรีได้อย่างไร จะต้องเข้าไปส่วนไหนของ website คะ

ขอขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 40  
 
Gigi
วันที่ 21 ก.ย. 2550

เรียน คุณ Wannee.s

ดิฉันอ่านเรื่องสุเมธาเถรี ได้แล้วค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ ได้ข้อคิดมากค่ะ ผู้ที่ยังข้องแวะอยู่ในกามย่อมได้รับทุกข์อยู่กับหนังหุ้มเนื้อเน่าต่อๆ ไป ไม่รู้จะนานแค่ไหน คิดว่าคงเวียนว่ายอีกนานมาก

 
  ความคิดเห็นที่ 41  
 
pamali
วันที่ 5 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 42  
 
chatchai.k
วันที่ 5 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ