มธุทายกเถราปทานที่ ๔ (๓๙๔) ว่าด้วยอานิสงส์การถวายน้ําผึ้งและลาดหญ้า
[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 922
เถราปทาน
ปิลินทวรรคที่ ๔๐
มธุทายกเถราปทานที่ ๔ (๓๙๔)
ว่าด้วยอานิสงส์การถวายน้ำผึ้งและลาดหญ้า
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 922
มธุทายกเถราปทานที่ ๔ (๓๙๔)
ว่าด้วยอานิสงส์การถวายน้ำผึ้งและลาดหญ้า
[๓๙๖] เราได้สร้างอาศรมอย่างสวยงามไว้ใกล้ฝั่งแม่น้ำสินธุ เรา บอกคัมภีร์อิติหาสะพร้อมทั้งตำราทายลักษณะ กะพวกศิษย์ที่ อาศรมนั้น.
ศิษย์เหล่านั้นเป็นผู้ใคร่ธรรม เราแนะนำดี เป็นผู้ใคร่ฟัง คำสั่งสอนดี ถึงบารมีอันประกอบด้วยองค์ ๖ ประการ อยู่ ใกล้ฝั่งแม่น้ำสินธุ เป็นผู้ฉลาดในการทำนายการเกิดการตาย และในลักษณะทั้งหลาย แสวงหาประโยชน์อันสูงสุดอยู่ใน ป่าใหญ่ในกาลนั้น.
ครั้งนั้น พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธ เสด็จอุบัติขึ้น ในโลก พระองค์ทรงนำดีจะทรงอนุเคราะห์พวกเรา จึง เสด็จเข้ามา.
เราได้เห็นพระมหาวีระพระนามว่าสุเมธ ผู้เป็นนายกของ โลก เสด็จเข้ามา จึงได้เอาหญ้าลาดถวายแด่พระองค์ผู้เป็น เชษฐบุรุษของโลก.
เราถือเอาน้ำผึ้งจากป่าใหญ่ มาถวายแด่พระพุทธเจ้าผู้ ประเสริฐสุด พระสัมพุทธเจ้าเสวยแล้ว ได้ตรัสพระดำรัส นี้ว่า
ผู้ใดมีความเลื่อมใส ได้ถวายน้ำผึ้งแก่เราด้วยมือทั้งสอง ของตน เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 923
ด้วยการถวายน้ำผึ้ง และด้วยการลาดหญ้าถวายนี้ ผู้นั้น จักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอดสามหมื่นกัป ในสามหมื่นกัป พระศาสดามีพระนามชื่อว่าโคดม ทรงสมภพในวงศ์พระเจ้า โอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก.
ผู้นั้นจักเป็นทายาทในธรรมของพระศาสดาพระองค์นั้น จัก เป็นโอรสอันธรรมนิรมิต จักกำหนดรู้อาสวะทั้งปวง เป็น ผู้ไม่มีอาสวะแล้ว นิพพาน.
เมื่อเราจากเทวโลกมาในมนุษยโลกนี้ ถือปฏิสนธิใน ครรภ์มารดา เมล็ดฝนน้ำผึ้งได้ตกปกปิดแผ่นดินด้วยน้ำผึ้ง.
แม้ในขณะเมื่อเราคลอดจากครรภ์นั้น ฝนน้ำผึ้งก็ตกให้ แก่เรา เต็มเปี่ยมหม้อตลอดกาลเป็นนิตย์ เมื่อเราออกจาก เรือนบวชเป็นบรรพชิตแล้ว ย่อมได้ข้าวและน้ำ นี้เป็นผล แห่งการถวายน้ำผึ้ง.
เราเกิดในเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยกามทั้งปวง ได้บรรลุความสิ้นอาสวะเพราะการถวายน้ำผึ้งนั้นแล.
เมื่อฝนตกแล้ว หญ้างอกยาว ๔ นิ้ว เมื่อต้นไม้ในแถว ฝั่งน้ำมีดอกบานสะพรั่ง เราผู้ไม่มีอาสวะเป็นสุขอยู่เป็นนิตย์ ในเรือนว่างเปล่า ที่มณฑปและโคนไม้.
เราก้าวล่วงภพเหล่าใด คือภพในท่ามกลาง ภพเบื้องบน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 924
และภพเบื้องต่ำเหล่านั้น อาสวะทั้งหลายของเราสิ้นไปแล้วใน วันนี้ บัดนี้ภพใหม่มิได้มีอีก.
ในสามหมื่นกัป (แต่กัปนี้) เราได้ถวายทานใด ในกาล นั้น ด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวาย น้ำผึ้ง.
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว อาสวะทั้งปวงสิ้นรอบแล้ว บัดนี้ภพใหม่มิได้มี.
การที่เราได้มาในสำนักพระพุทธเจ้าของเรานี้ เป็นการมา ดีแล้วหนอ วิชชา ๓ เราบรรลุแล้วโดยลำดับ คำสอนของ พระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระมธุทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบมธุทายกเถราปทาน