พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

มณิปูชกเถราปทานที่ ๒ (๔๗๒) ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยแก้วมณี

 
บ้านธัมมะ
วันที่  30 พ.ย. 2564
หมายเลข  41476
อ่าน  351

[เล่มที่ 72] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 100

เถราปทาน

นฬมาลิยวรรคที่ ๔๘

มณิปูชกเถราปทานที่ ๒ (๔๗๒)

ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยแก้วมณี


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 72]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 22 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 100

มณิปูชกเถราปทานที่ ๒ (๔๗๒)

ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยแก้วมณี

[๖๒] พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ทรงรู้จบธรรมทั้งปวง ใคร่ต่อความสงบ ตรัสรู้ ด้วยพระองค์เอง เสด็จไปในอากาศ

สระใหญ่มีอยู่ในที่ไม่ไกลป่าหิมวันต์ ภพ ของเราอันบุญกรรมประกอบดีแล้ว มีอยู่ในสระ นั้น

เราออกจากภพได้เห็นพระผู้นำโลก ผู้ทรง รุ่งเรืองเหมือนต้นราชพฤกษ์ โชติช่วงเหมือนดัง กับไฟลุกโพลง

เราได้เห็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่มีในป่า เปลี่ยว คิดว่าจักบูชาพระผู้นำโลก ทำจิตของตน ให้เลื่อมใสแล้ว ได้ถวายบังคมพระศาสดา

เราหยิบแก้วมณีที่ศีรษะของเรา บูชาพระ ผู้นำด้วยความปรารถนาว่า ด้วยการเอาแก้วมณี บูชานี้ ขอจงมีวิบากอันดี

พระศาสดาพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้ทรง รู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา ประทับอยู่ใน อากาศ ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า

ขอความดำริของท่านจงสำเร็จเถิด ท่าน จงได้สุขอันไพบูลย์ ด้วยการบูชาแก้วมณีนี้ ขอ ท่านจงได้เสวยยศอันใหญ่หลวงเถิด

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 22 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 101

พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด พระนามว่า ปทุมุตตระ ทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ครั้นตรัส แก่เราผู้ตั้งปรารถนาไว้ดังนี้แล้ว ได้เสด็จไป

เราได้เป็นจอมเทพเสวยราชสมบัติในเทว โลก ๖๐กัป และได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหลาย ร้อยครั้ง

เมื่อเราเกิดเป็นเทวดา ระลึกถึงบุญกรรม ขึ้นมา แก้วมณีอันส่องแสงสว่างให้เรา ย่อม เกิดแก่เรา

เรามีนางเทพอัปสร ๘๖,๐๐๐ ซึ่งมีผ้าและ เครื่องอาภรณ์อันวิจิตรสวมต่างหูแก้วมณีเป็น บริวาร

นางเทพอัปสรเหล่านั้น มีหน้าแฉล้ม มักยิ้มก่อนเจรจา ตะโพกผาย เอวบางอ้อนแอ้น แวดล้อมเราอยู่เป็นนิตย์ นี้เป็นผลแห่งการบูชา ด้วยแก้วมณี

ภัณฑะ คือ เครื่องประดับอันสำเร็จด้วย ทอง สำเร็จด้วยแก้วมณี และสำเร็จด้วยแก้วทับทิม ย่อมเป็นของบุคคลทำดีแล้วเพื่อเรา ตาม ที่เราต้องการ

เรือนยอดและถ้ำที่น่ารื่นรมย์และที่นอน อันสูงค่า ดังจะรู้ความประสงค์ของเรา ย่อมเกิด ตามความปรารถนา

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 22 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 102

ก็การที่ชนเหล่าใดได้เข้าไปฟัง ชนเหล่า นั้นได้ลาภดีแล้ว การได้เข้าไปฟังเป็นบุญเขต ของมนุษย์ เป็นโอสถของสรรพสัตว์ ถึงกรรมที่ เราผู้ได้เห็นพระผู้นำ ก็ชื่อว่าเป็นอันทำไว้ดีแล้ว เราเป็นผู้รอดพ้นจากวินิบาต เป็นผู้บรรลุบทอัน ไม่หวั่นไหว

เราเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือ เป็นเทวดาหรือ มนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ แสงสว่างย่อมมีแก่เรา ทุกเมื่อ ทั้งกลางวันและกลางคืน

เพราะการบูชาด้วยแก้วมณีนั้น เราจึงได้ เสวยสมบัติ พบแสงสว่าง คือ ญาณ เป็นผู้บรรลุ บทอันไม่หวั่นไหว

ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราเอาแก้วมณีบูชา ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผล แห่งการบูชาด้วยแก้วมณี

เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... คำสอนของ พระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้แล.

ทราบว่า ท่านพระมณิปูชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ ฉะนี้แล.

จบมณิปูชกเถราปทาน

อรรถกถานฬมาลิยวรรคที่ ๔๘

อทานที่ ๑ และ ๒

ในวรรคที่ ๔๘ มีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.