พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

คยากัสสปเถราปทานที่ ๓ (๕๕๓) ว่าด้วยบุพจริยาของพระคยากัสสปเถระ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  1 ธ.ค. 2564
หมายเลข  41561
อ่าน  413

[เล่มที่ 72] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 451

เถราปทาน

ยสวรรคที่ ๕๖

คยากัสสปเถราปทานที่ ๓ (๕๕๓)

ว่าด้วยบุพจริยาของพระคยากัสสปเถระ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 72]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 451

คยากัสสปเถราปทานที่ ๓ (๕๕๓)

ว่าด้วยบุพจริยาของพระคยากัสสปเถระ

[๑๔๓] ครั้งเมื่อข้าพเจ้าเป็นดาบส ครอง หนังเสือเหลือง ประกอบด้วยเครื่องหาบ หาบ เครื่องหาบไปเที่ยวหาผลไม้ ได้นำเอาผลพุทรา มายังอาศรม.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 452

ในสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพระชินเจ้า เพียงพระองค์เดียว ทรงแผ่พระรัศมีตลอด กาลทั้งสิ้น เสด็จมายังอาศรมของข้าพเจ้า.

ข้าพเจ้ายังจิตตนเองให้เลื่อมใสแล้ว ถวาย บังคมพระองค์ ผู้มีวัตรอันงาม ประคองอัญชลี ประนมด้วยหัตถ์ทั้งสองแล้ว ถวายผลพุทราแด่ พระพุทธเจ้า.

ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ ข้าพเจ้าได้ถวาย ผลไม่ได้ไว้ ในคราวนั้น แต่นั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จัก ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลพุทรา.

ข้าพเจ้า ได้เผากิเลสทั้งหลายสิ้นแล้ว ฯลฯ เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่.

ข้าพเจ้าเป็นผู้มาดีแล้วแล ฯลฯ คำสอน ของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้กระทำเสร็จแล้ว.

ปฏิสัมภิทา ๔ ฯลฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้กระทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระคยากัสสปเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ ฉะนี้แล.

จบคยากัสสปเถราปทาน

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 453

๕๕๓. อรรถกถาคยากัสสปเถราปทาน

พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๓ ดังต่อไปนี้:-

อปทานของท่านพระคยากัสสปเถระ อันมีคำเริ่มต้นว่า อชินมฺมวตฺโถหํ ดังนี้.

แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพ นั้นๆ ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ไป ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สิขี ท่านได้บังเกิดในเรือนอันมีสกุล บรรลุนิติภาวะแล้วเพราะความที่ตนเองมี อัธยาศัยที่จะออกจากทุกข์ จึงละเพศฆราวาสออกบวชเป็นพระดาบส สร้างอาศรมอยู่ในป่า มีมูลผลาผลในป่าเป็นอาหาร. ก็โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์เดียวไม่มีผู้ติดตามเป็นที่สอง ได้เสด็จไปใกล้อาศรมของพระดาบส นั้นแล้ว. ดาบสนั้น พอได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็มีใจเลื่อมใส เข้าไป ใกล้แล้ว ถวายบังคมยืนอยู่ ณ ที่อันสมควรด้านหนึ่ง คอยดูเวลาอยู่จึงน้อม เอาผลพุทธราอันเป็นที่น่าจับใจเข้าไปถวายแด่พระศาสดา. ด้วยบุญกรรมอัน นั้น เขาจึงได้ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลก ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้เกิดในตระกูลพราหมณ์ เจริญวัยแล้ว เพราะความที่คนมีอัธยาศัยที่จะออก จากทุกข์ จึงละเพศฆราวาส บวชเป็นพระดาบสอยู่ร่วมกับพระดาบส ๒๐๐ องค์ ณ ใกล้แม่น้ำคยา. เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำคยา และเพราะมีโคตรว่ากัสสป จึงได้มีสมัญญาว่าคยากัสสป. ท่านได้ฟังโอวาทคืออาทิตตปริยายเทศนา โดย

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 454

นัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้พร้อมกับบริษัท ดัง ที่ได้กล่าวไว้แล้วในอปทานของพระนทีกัสสป จึงได้ดำรงอยู่ในพระอรหัตตผล

ครั้นท่านได้บรรลุพระอรหัตแล้ว เกิดมีความโสมนัสใจเมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า อชินจมฺมวตฺโถหํ ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อชินจมฺมวตฺโถ ความว่า เพราะบวชเป็นดาบส จึงนุ่งห่มด้วยหนังเสือ. บทว่า ขาริภารธโร ความว่า ในเวลาเป็นดาบส ต้องบรรจุหาบบริขารสำหรับดาบสหาบไป. คือ เอาบริขารของดาบสบรรจุลงจนเต็มหาบ. บทว่า โกลํ อหาสิ อสฺสมํ ความว่า เอาผลพุทราวางจนเต็มเกลื่อนอาศรมแล้วก็นั่งในอาศรม. บทว่า อโคปยึ ความว่า เราได้แสวงหาผลพุทราแล้วเก็บรักษาไว้ในอาศรม. คำที่ เหลือทั้งหมด มีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.

จบอรรถกถาคยากัสสปเถราปทาน