พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

ปัญจทีปิกาเถรีอปทานที่ ๙ (๙) ผลของการถวายประทีป ๕ ดวง

 
บ้านธัมมะ
วันที่  1 ธ.ค. 2564
หมายเลข  41578
อ่าน  540

[เล่มที่ 72] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 518

เถรีอปทาน

สุเมธาวรรคที่ ๑

ปัญจทีปิกาเถรีอปทานที่ ๙ (๙)

ผลของการถวายประทีป ๕ ดวง


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 72]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 518

ปัญจทีปิกาเถรีอปทานที่ ๙ (๙)

ผลของการถวายประทีป ๕ ดวง

[๑๔๙] ครั้งนั้น ดิฉันเป็นหญิงท่องเที่ยวอยู่ในพระนครหังสวดี ดิฉันต้องการกุศล จึงเที่ยวไปสู่อารามหนึ่งจากอารามหนึ่ง ได้พบไม้ โพธิ์อันอุดมในวันกาฬปักษ์ ยังจิตให้เลื่อมใสใน ไม้โพธิ์นั้นแล้ว นั่งลงที่โคนไม้โพธิ์

ดิฉันตั้งจิตเคารพประนมอัญชลีเหนือ เศียรเกล้า สำแดงความโสมนัสแล้วคิดอย่างนี้ใน ขณะนั้นว่า

ถ้าพระพุทธเจ้ามีพระคุณนับไม่ได้ ไม่มี บุคคลเปรียบเสมอไซร้ ก็ขอให้ทรงแสดงปาฎิ-

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 519

หาริย์แก่เราเถิด ขอไม้โพธิ์จงเปล่งรัศมี ทันใด นั้นเอง ไม้โพธิ์ก็ได้โพลงไปทั่วพร้อมกับที่ดิฉัน นึก รัศมีสำเร็จด้วยสีทองล้วนไพโรจน์ไปทั่วทิศ

ดิฉันนั่งลงอยู่ที่โคนโพธิ์นั้น ๗ คืน ๗ วัน เมื่อถึงวันเป็นวันคำรบ ๗ ดิฉันได้ทำการบูชาด้วย ประทีป

ประทีป ๕ ดวงลุกโพลงย่อมล้อมรอบอาสนะ ครั้งนั้น ประทีปของดิฉันลุกโพลงอยู่ จนถึงเวลา พระอาทิตย์อุทัย.

เพราะกรรมทีทำไว้ดีนั้น และเพราะการ ตั้งเจตน์จำนงไว้ ดิฉันละร่างมนุษย์แล้ว ได้ไป สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

วิมานที่บุญกรรมสร้างให้ดิฉันอย่างสวยงามในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น เรียกว่า "ปัญจทีปวิมาน" ปัญจทีปวิมานนั้นสูง ๑๐๐ โยชน์ กว้าง ๖๐ โยชน์

ประทีปนับไม่ถ้วนส่องสว่างล้อมดิฉัน อยู่ ทั่วเทพพิภพโชติช่วงด้วยแสงประทีป

คนที่หันหน้าไปทางทิศบูรพา ถ้าดิฉัน ปรารถนาที่จะดู ดิฉันย่อมเห็นได้ด้วยจักษุทุกคน ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง และเบื้องขวาง

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 520

ดิฉันปรารถนาจะเห็นกรรมดีและกรรมชั่ว ที่คนทำในที่มีประมาณเท่าใด ที่มีประมาณเท่านั้น ย่อมไม่มีต้นไม้หรือภูเขามากั้นกาง

ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าว สักรินทเทวราช ๘๐ พระองค์ ได้เป็นอัครมเหสี ของพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๐๐ พระองค์

ดิฉันเข้าถึงกำเนิดนั้นๆ ประทีปตั้ง แสนๆ ส่องแสงล้อมดิฉัน

ดิฉันจุติจากเทวโลกแล้ว เกิดในครรภ์ มารดา เมื่อดิฉันอยู่ในครรภ์มารดา จักษุของ ดิฉันไม่หลับ

ประทีปทั้งจำนวนแสนดวง ส่องสว่าง อยู่ในเรือนประสูติของดิฉันผู้พร้อมเพรียงด้วยบุญ กรรม นี้เป็นผลแห่งประทีป ๕ ดวง

เมื่อถึงภพสุดท้าย ดิฉันกลับฉันทะที่มี ในใจ เห็นนิพพานอันเป็นสภาวะเยือกเย็น ไม่มี ชราและมรณะ

พอเกิดได้อายุ ๗ ขวบ ดิฉันได้บรรลุ อรหัต พระพุทธเจ้าพระนามว่า โคดม ทรงทราบ ถึงคุณของดิฉัน จึงให้ดิฉันอุปสมบท

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 521

ดิฉันเข้าฌานอยู่ในมณฑป โคนไม้ ปราสาท ถ้ำ หรือเรือนอันว่างเปล่าก็ดี ประทีป ๕ ดวงส่องแสงสว่างให้ดิฉัน

ทิพยจักษุของดิฉันบริสุทธิ์ ดิฉันฉลาด ในสมาธิ ถึงความบริบูรณ์ในอภิญญา นี้เป็นผล แห่งประทีป ๕ ดวง

ดิฉันเป็นผู้อยู่จบพรหมจรรย์ทั้งปวง ทำ กิจเสร็จแล้ว ไม่มีอาสวะ ข้าแต่พระมหาวีระผู้มี พระจักษุ หม่อมฉันชื่อว่าปัญจทีปา ขอถวาย

ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ ดิฉันได้ถวาย ประทีปใด ในครั้งนั้น ด้วยการถวายประทีปนั้น ดิฉันไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งประทีป ๕ ดวง

ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... คำสอน ของพระพุทธเจ้า ดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระปัญจทีปิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วย ประการฉะนี้แล.

จบปัญจทีปิกาเถรีอปทาน.