พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

อภิรูปนันทาเถรีอปทานที่ ๖ (๓๖) ว่าด้วยบุพจริยาของพระอภิรูปนันทาเถรี

 
บ้านธัมมะ
วันที่  1 ธ.ค. 2564
หมายเลข  41607
อ่าน  476

[เล่มที่ 72] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 686

เถรีอปทาน

ขัตติยกัญญาวรรคที่ ๔

อภิรูปนันทาเถรีอปทานที่ ๖ (๓๖)

ว่าด้วยบุพจริยาของพระอภิรูปนันทาเถรี


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 72]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 686

อภิรูปนันทาเถรีอปทานที่ ๖ (๓๖)

ว่าด้วยบุพจริยาของพระอภิรูปนันทาเถรี

[๑๗๖] ในกัปที่ ๙๑ แตกภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก พระนานว่าวิปัสสี มีพระเนตรงาม มีพระจักษุในธรรมทั้งปวงเสด็จ อุบัติขึ้นแล้ว

ครั้งนั้น ดิฉันเกิดในสกุลใหญ่ที่นั่งดัง เจริญ ในพระนครพันธุมดี เป็นหญิงมีรูปงาม น่าพึงใจและเป็นที่บูชาของประชุมชน

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 687

ได้เข้าเฝ้าพระพุทธวิปัสสีผู้มีความเพียร มาก เป็นนายกของโลก ได้ฟังธรรมแล้วถึงพระ องค์เป็นสรณะ

สำรวมอยู่ในศีล เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ผู้มีพระคุณสูงสุดกว่านรชน ปรินิพพานแล้ว ดิฉันได้เอาฉัตรทองบูชาไว้ ณ เบื้องบน แห่งพระสถูปที่บรรจุพระธาตุ

ดิฉันเป็นผู้มีจาคะอันสละแล้ว มีศีลจน ตลอดชีวิต เคลื่อนจากอัตภาพนั้น ละร่างกาย มนุษย์แล้ว ได้ไปสู่ภพดาวดึงส์

ครั้งนั้น ดิฉันครอบงำเทพธิดาทั้งหมด ด้วยฐานะ ๑๐ ประการ คือ ด้วยรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อายุ วรรณะ สุข ยศ และ ความเป็นอธิบดี รุ่งโรจน์ปรากฏอยู่ ในภพหลัง ครั้งนี้ ดิฉันเกิดในพระนครกบิลพัสดุ์ เป็นธิดา ของศากยราช พระนามว่าเขมกะ มีนามปรากฏว่า นันทา

ประชุมชนกล่าวว่า ดิฉันเป็นผู้หนึ่งซึ่งมี ความถึงพร้อมด้วยรูปงาม น่าชม เมื่อดิฉันเติบโต เป็นสาว (รู้จัก) ตกแต่งรูปและผิวพรรณ พวกศากยราชมีความวิวาทกันมากเพราะ ตัวดิฉัน ครั้งนั้น พระธิดาของดิฉัน กล่าวว่า พวกศากยราชอย่าฉิบหายเสียเลย ถึงให้ดิฉันบวช เสีย

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 688

ครั้นดิฉันบวชแล้วได้ฟังว่า พระตถาคตเจ้าผู้มีพระคุณสูงสุดกว่านรชน ทรงติรูป จึงไม่ เข้าไปเฝ้าเพราะดิฉันชอบรูป กลัวจะพบพระพุทธเจ้า จึงไม่ไปรับโอวาท

ครั้งนั้น พระพิชิตมารทรงให้ดิฉันเข้าไป สู่สำนักของพระองค์ด้วยอุบาย พระองค์ทรงฉลาด ในทางอุบาย ทรงแสดงหญิง ๓ ชนิด ด้วยฤทธิ์ คือ หญิงสาวสวยเหมือนรูปเทพอัปสร หญิงแก่ หญิงตายแล้ว

ดิฉันเห็นหญิงทั้ง ๓ แล้ว มีความสลดใจ ไม่ยินดีในซากศพหญิงที่ตายแล้ว มีความเบื่อหน่ายในภพเฉยอยู่.

ขณะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้นายกของ โลก ตรัสกะดิฉันว่า

ดูก่อนนันทา ท่านจงดูร่างกายที่ทุรนทุราย ไม่สะอาด สิ่งโสโครก ไหลเข้า ถ่ายออก อยู่ ที่พวกพาลชนปรารถนากัน

ท่านจงอบรมจิตให้เป็นสมาธิ มีอารมณ์ เดียวด้วยอสุภะเถิด รูปนี้เป็นฉันใด รูปท่าน นั้น ก็เป็นฉันนั้น รูปท่านนั้น เป็นฉันใด รูปนี้ เป็นฉันนั้น

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 23 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 689

เมื่อท่านพิจารณาเห็นรูปนั้น อย่างนี้ มิได้เกียจคร้านทั้งกลางคืนกลางวัน แต่นั้นก็จะ เบื่อหน่ายอยู่ด้วยปัญญาของตน

ดิฉันผู้ไม่ประมาท พิจารณาในร่างกายนี้ อยู่โดยแยบคาย ก็เห็นภายนี้ทั้งภายในภายนอก ตามความเป็นจริง

เมื่อเป็นเช่นนั้น ดิฉันจึงเบื่อหน่ายใน กาย และไม่ยินดีเป็นภายใน ไม่ประมาท ไม่ เกาะเกี่ยว เป็นผู้สงบเย็นแล้ว.

ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันเป็นผู้มี ความชำนาญในฤทธิ์ ในทิพโสตธาตุ และใน เจโตปริยญาณ รู้ปุพเพนิวาสญาณและทิพยจักษุ อันหมดจดวิเศษ หม่อมฉันสิ้นอาสวะทั้งปวงแล้ว บัดนี้ภพใหม่ไม่มี

ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันมีญาณ ในอรรถะ ธรรมะ นิรุตติ และปฏิภาณ เกิดขึ้น แล้วในสำนักของพระองค์

ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... คำสอน ของพระพุทธเจ้า ดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระอภิรูปนันทาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.

จบอภิรูปนันทาเถรีอปทาน