ความฝันเป็นสัญญา หรือไม่

 
Nareopak
วันที่  3 ก.ค. 2550
หมายเลข  4169
อ่าน  2,142

ทำไมเวลาฝันว่ากำลังวิ่งหนี เมื่อตื่นขึ้นมา จะเหนื่อยและไม่เป็นสุข แต่ถ้าฝันว่าได้ไปวัดหรือฝันในสิ่งที่ดีๆ ตื่นขึ้นมาจะรู้สึกแช่มชื่นเบิกบานใจ ความฝันเป็นสัญญาหรือไม่ และทำไมตื่นขึ้นมาทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือเพลียเป็นเพราะเหตุใดเกี่ยวข้องกับจิตหรือไม่ ขอได้โปรดอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 3 ก.ค. 2550

ขอเชิญอ่านที่นี่ครับ

ความฝัน

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ajarnkruo
วันที่ 3 ก.ค. 2550

มีทั้งสัญญาเจตสิก เจตนาเจตสิก และเจตสิกอื่นๆ เกิดขึ้นร่วมด้วยกับจิตโดยปัจจัย ต่างๆ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 3 ก.ค. 2550

สัญญาเจตสิกเกิดกับจิตทุกดวงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 3 ก.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ฝันเป็นการนึกคิดทางใจ ขณะฝันไม่ได้หลับ ขณะที่ฝัน เมื่อเป็นการนึกคิดทางใจ ก็เป็นได้ทั้งที่เป็นกุศลจิต หรืออกุศลจิต แต่เบื้องต้นของพระอภิธรรม ขณะที่จิตเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกุศลจิตหรือ อกุศลจิตก็ตาม จิตไม่ได้เกิดมาเพียงอย่างเดียว มีสิ่งที่เกิดร่วมด้วยเสมอคือ เจตสิก เจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกับจิต ก็ไม่ได้มีดวงเดียว อย่างน้อยที่สุดต้องมีเจตสิกเกิดขึ้น ๗ ดวง คือ ผัสสเจตสิก สัญญาเจตสิก เวทนาเจตสิก เอกัคคตาเจตสิก เจตนาเจตสิก มนสิการเจตสิก ชีวิตตรินตริยเจตสิก ๗ ดวงนี้เกิดกับจิตทุกดวง ไม่ว่าจะเป็นจิตประเภทไหน กุศลหรืออกุศลก็ตาม ต้องมีเจตสิก ๗ ดวงนี้เกิดขึ้นเสมอ นั่นแสดงว่า เมื่อจิตเกิดขึ้น สัญญาเจตสิก ก็เกิดขึ้นกับจิตด้วย ไม่ว่าจะเป็นจิตประเภทใดก็ตาม

ดังนั้น ความฝันจึงเป็นจิตประเภทใดประเภทหนึ่ง ที่เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิตก็ได้ แต่ขณะนั้นก็มีสัญญาเกิดร่วมด้วยครับ ส่วนประเด็นทำไมฝันบางอย่างเหนื่อย บางอย่างไม่เหนื่อย ขณะที่จิตเป็นกุศลนั้น ก็ต้องมีรูปที่เกิดขึ้นเพราะจิตด้วย ครับ ยก ต.ย เช่น ขณะที่โกรธ โทสมูลจิตเกิดขึ้น รูปที่เกิดจากจิตที่โกรธก็เกิดขึ้นด้วย ทำให้รูปนั้น กระสับกระส่าย เป็นต้น เหนื่อยก็ได้ ต่างจากขณะที่เป็นกุศลจิต ก็ต้องมีรูปที่เกิดกับจิตด้วย เช่น ขณะที่เมตตาเกิดขึ้น รูปที่เกิดจากจิต ที่เมตตาก็มีด้วย รูปนั้นก็ไม่กระสับกระส่ายเหมือนที่เกิดจากจิตที่โกรธครับ ขณะที่ฝันก็เช่นกัน ขณะที่ฝันก็ต้องมีจิต ถ้าฝันเป็นไปในทางอกุศล รูปที่เกิดกับจิตที่เป็นอกุศลก็เกิดด้วย เช่น ฝันว่าโกรธหรือกลัว วิ่งหนี ความกลัวก็เป็น โทสมูลจิต เช่นกัน ก็ทำให้รูปกระสับกระส่าย ทำให้เหนื่อยได้ครับ ต่างกับขณะที่ฝัน เป็นกุศล รูปที่เกิดกับกุศลจิตย่อมไม่กระสับกระส่ายหรือเหนื่อยครับ

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 5 ก.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
แวะเข้ามา
วันที่ 5 ก.ค. 2550

ขณะนี้ท่านก็กำลังฝัน ถ้าสติปัฏฐานไม่เกิด เราก็เหมือนมีชีวิตอยู่ในความฝัน เพราะความจริงไม่ปรากฎ ความฝันเป็นแต่เพียงสภาพความคิดนึกตรึกถึงเรื่องราว ต่างๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นไปในกุศลบ้าง อกุศลบ้าง พระอริยเจ้าขั้นพระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่ฝัน เพราะท่านเป็นผู้ที่ถึงพร้อมสติสัมปชัญญะ และดับอนุสัยกิเลสทั้งหลายได้ โดยไม่มีเหลือ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Nareopak
วันที่ 5 ก.ค. 2550

ขอขอบพระคุณ ท่านสมาชิกแล้วเจอกัน (ความเห็นที่4) สำหรับตนเองแล้วทำให้รู้และเข้าใจมากขึ้น แต่ยังมีคำถามเพิ่มเติม คือ เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าในชีวิตของเขาฝันไม่กี่ครั้ง ส่วนมากไม่ฝัน เท่าที่เคยทราบจะมีเพียงแต่พระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่ฝัน คนที่ยังไม่ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ แต่ไม่ฝันมีหรือไม่ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 5 ก.ค. 2550

คนที่ไม่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ยังฝันอยู่ แต่ขณะที่หลับสนิทนั้น (แม้ปุถุชน) ขณะนั้นไม่ได้ฝันครับ และบางครั้งก็ไม่รู้ว่าตัวเองฝันเพราะจำไม่ได้ก็มีครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 7 ก.ค. 2550

ขณะที่หลับสนิทเป็นภวังคจิตไม่ฝัน ขณะที่ฝันหลับไม่สนิทเป็นวิถีจิตสลับกับภวังคจิตจึงฝัน บางคนฝันแล้วก็จำได้ บางคนฝันแล้วก็จำไม่ได้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
อิสระ
วันที่ 14 ก.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
chatchai.k
วันที่ 29 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 25 ก.พ. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ