ความกลัว ความกังวล เหมือนหรือต่างกัน
ความกลัว กับ ความกังวล เหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร กล่าวโดยสภาพธรรม คือ อย่างไร มีเหตุมาจากอะไร เท่าที่สังเกตุคล้ายๆ ว่า หวั่นไหวไปตามคิดนึกเรื่องราวที่เกิด อาจใช้คำว่า แพนิค หรือ ซึมเศร้า หรือ หวั่นระแวง ในบางทีครับ ส่วนจะมากน้อยก็แล้วแต่ กลัวอะไร เช่น ตอนเด็กกลัวผี ก็นึกว่าทุกที่มีผีไปหมด คิดเอาเอง ตอนโตกลัวคนที่รักจากไป ก็คิดเอาเองว่าวันนี้หรือเปล่านะ ย้ำๆ สะสมความคิดในเรื่องไร้สาระไปเรื่อยๆ เป็นต้น
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรม เป็นสิ่งที่มีจริงๆ ทรงไว้ซึ่งความจริงเช่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ธรรมหลากหลายมาก เมื่อเป็นธรรมแล้ว ก็ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน สำหรับในประเด็นคำถามนั้น กล่าวถึง ความกลัว กับ ความกังวล ก็สามารถที่จะพิจารณาได้ว่า ขณะนั้นเป็นอย่างไร ขณะที่เกิดความกลัว นั่นคือ ความเป็นไปโทสะ ความไม่พอใจ เป็นอาการที่เป็นจริงของโทสะ ไม่ว่าจะกลัวอะไรก็ตาม ส่วน ความกังวล ขณะนั้น ไม่สบายใจ อยู่ไม่สุข ก็ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริง จิตในขณะที่กังวลนั้น เป็นอกุศลจิต ที่ประกอบด้วยโทมนัสเวทนา มีความรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งโทมนัสเวทนา เป็นเวทนาที่เกิดร่วมกับอกุศลจิตประเภทที่มีโทสะเป็นมูลแท่านั้น เพราะฉะนั้น ขณะที่กังวล จึงเป็นอกุศลจิตที่ประกอบด้วยโทสะ นั่นเอง
ประโยชน์ คือ เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เพราะธรรม มีจริงๆ ในชีวิตประวัน ไม่ต้องไปแสวงหาธรรมที่ไหน สิ่งที่สำคัญ คือ อาศัยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย
เมื่อได้ฟังพระธรรมบ่อยๆ ก็ย่อมจะมีเหตุมีปัจจัยทำให้มีคิดพิจารณาไตร่ตรองถึงพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง แทนที่จะไปคิดเรื่องอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์ ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...