ไฉนหนอ ขอให้สิ่งที่ไม่น่าปรารถนา พึงเสื่อมไป [จูฬเวทัลลสูตร]

 
webdh
วันที่  4 ก.ค. 2550
หมายเลข  4176
อ่าน  1,153

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๓ -หน้า 368 จูฬยมกวรรค มหาธรรมสมาทานสูตรที่ ๖

๖. จูฬเวทัลลสูตร

[๕๒๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า:-

"ภิกษุทั้งหลาย สัตว์ส่วนมาก มีความใคร่อย่างนี้ มีความพอใจอย่างนี้ มีความประสงค์อย่างนี้ว่า " ไฉนหนอ ขอให้สิ่งที่ไม่น่าปรารถนา ไม่น่า

ใคร่ ไม่น่าพอใจ พึงเสื่อมไป, ขอให้สิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ

พึงเจริญแทนที่เถิด" แต่ทั้งๆ ที่สัตว์เหล่านั้น มีความใคร่อย่างนั้น มีความพอ

ใจอย่างนั้น มีความประสงค์อย่างนั้น, สิ่งที่ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่

น่าพอใจ ก็ยังเจริญขึ้นมาจนได้, สิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ กลับ

เสื่อมไป. ในข้อนั้นพวกเธอเข้าใจว่าเพราะเหตุไร"


  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 4 ก.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ต่อจากกระทู้ ไฉนหนอ

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 369
ข้อความบางตอนจาก มหาธรรมสมาทานสูตร

[๕๒๒] พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ตรัสอย่างนี้ว่า :-

"ภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้ไม่ได้รับการศึกษา ไม่เห็นพวกพระอริย

เจ้า ไม่ฉลาดต่อคุณธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ได้รับการแนะนำในคุณธรรม

ของพระอริยเจ้า. ไม่เห็นพวกคนดี ไม่ฉลาดต่อคุณธรรมของคนดี ไม่ได้รับ

การแนะนำในคุณธรรมของคนดี, ไม่รู้จักสิ่งที่ควรเสพ, ไม่รู้จักสิ่งที่ไม่ควร

เสพ, ไม่รู้จักสิ่งที่ควรคบ, ไม่รู้จักสิ่งที่ไม่ควรคบ. เมื่อเขาไม่รู้จักสิ่งที่ควร

เสพ,...ไม่ควรเสพ,..ควรคบ,...ไม่ควรคบ, ก็เสพสิ่งที่ไม่ควรเสพ ไม่เสพสิ่ง

ที่ควรเสพ; คบสิ่งที่ไม่ควรคบ. ไม่คบสิ่งที่ควรคบ, เมื่อเขาเสพสิ่งที่ไม่ควร

เสพ ไม่เสพสิ่งที่ควรเสพ, คบสิ่งที่ไม่ควรคบ ไม่คบสิ่งที่ควรคบเข้า, สิ่งที่ไม่

น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ ก็เจริญยิ่งขึ้น, สิ่งที่น่าปรารถนา

น่าใคร่ น่าพอใจ ก็เสื่อมหายไป. ภิกษุทั้งหลาย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะ

เหตุ เขาไม่รู้ตามที่เป็นจริงเช่นนั้น. ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wannee.s
วันที่ 5 ก.ค. 2550

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 198

๑. ปัตตกัมมสูตร ว่าด้วยธรรม ๔ ประการ

[๖๑] ครั้งนั้นอนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้า ฯลฯ พระผู้มีพระ-

ภาคเจ้าตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า ดูก่อนคฤหบดี ธรรม ๔ ประการนี้เป็นที่

ปรารถนารักใคร่ชอบใจ หาได้โดยยากในโลก ธรรม ๔ ประการคืออะไร คือ

ขอโภคสมบัติจงเกิดขึ้นแก่เราโดยทางที่ชอบ นี่เป็นธรรมประการที่ ๑

อัน เป็นที่ปรารถนารักใคร่ชอบใจ หาได้โดยยากในโลก

ครั้นได้โภคสมบัติโดยทางที่ชอบแล้ว ขอยศจงมีแก่เราพร้อมกับญาติ

พร้อมกับพวกพ้อง นี้เป็นธรรมประการที่ ๒ อัน เป็นที่ปรารถนารักใคร่ชอบใจ

หาได้โดยยากในโลก

ครั้นได้โภคสมบัติโดยทางที่ชอบแล้ว ได้ยศพร้อมกับญาติพร้อมกับ

พวกพ้องแล้ว ขอเราจงเป็นอยู่นาน รักษาอายุอยู่ได้ยั่งยืน นี้เป็นธรรม

ประการที่ ๓ อันเป็นที่ปรารถนารักใคร่ชอบใจ หาได้โดยยากในโลก

ครั้นได้โภคสมบัติโดยทางที่ชอบแล้ว ได้ยศพร้อมกับญาติพร้อมกับ

พวกพ้องแล้ว เป็นอยู่นาน รักษาอายุอยู่ได้ยั่งยืนแล้ว เมื่อกายแตกตายไป

ขอเราจงไปสุคติโลกสวรรค์ นี้เป็นธรรมประการที่ ๔ อันเป็นที่ปรารถนา

รักใคร่ชอบใจ หาได้โดยยากในโลก

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
อิสระ
วันที่ 28 ก.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
phao
วันที่ 30 ก.ค. 2550

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ