เพราะรู้ธรรม จึงพร่ำเพียร เพิ่มกุศล

 
khampan.a
วันที่  3 ม.ค. 2565
หมายเลข  41870
อ่าน  469

หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๖๑๒]

เพราะรู้ธรรม จึงพร่ำเพียร เพิ่มกุศล


คุณอรวรรณ เชิญรุ่งโรจน์ : เพราะรู้ธรรม จึงพร่ำเพียร เพิ่มกุศล

ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ : อันนี้พิสูจน์ล่ะ ฟังธรรมเผินไม่ได้เลย เหมือนมีความเข้าใจมากถามตอบได้ อภิธัมมัตถสังคหะ จิตมีเท่าไหร่ เจตสิกมีเท่าไหร่ แต่ชีวิตประจำวันเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความเข้าใจธรรมมีแค่ไหน เพราะเหตุว่าถ้ายังร้ายเหมือนเดิมแล้วประโยชน์ที่ได้ฟังพระธรรม มีบ้างไหม? แต่ว่าถ้าเคยร้าย แต่พอระลึกถึงธรรมเท่านั้น ขณะนั้นละแม้แต่คำร้ายๆ ที่จะพูด ก็สามารถที่จะรู้ได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะมีหรือไม่ควรจะสะสมอีกต่อไป นิสัยเดิมก็เป็นเรื่องของกิเลสมากมาย อัธยาศัยมากมาย แล้วอะไรจะเปลี่ยนจากการที่สะสมกิเลสมาเรื่อยๆ ทุกวัน? เวลาที่ไม่รู้ ก็กำลังสะสมความไม่รู้ เพราะไม่รู้จึงติดข้อง ขณะนั้นก็สะสมทั้งความไม่รู้และติดข้อง

เพราะฉะนั้นด้วยความรักตนจะเห็นได้เลยว่า ใครก็ตามที่จะกล่าวว่าทำความดีเพื่ออย่างนั้นอย่างนี้ก็ตามแต่ แต่ตราบใดที่ยังมีตนหรือมีเรา ทั้งหมดให้รู้ว่าเพื่อตน เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่เข้าใจว่าธรรมเป็นเรื่องรู้แล้วละ บางคนก็ทำความดีเพื่อตนจะได้รับผลของความดีนั้น เช่น มีโลภะ มีความติดข้องแน่นอน เพราะฉะนั้นชีวิตวันหนึ่งๆ แสวงหาเพื่อใคร ตั้งแต่เช้ามาแสวงหาเพื่อใคร (เพื่อตน) ได้มาแล้วใครใช้ใครบริโภค หรือเอาไปให้คนอื่น อุตส่าห์แสวงหามาตั้งมากมายด้วยความติดข้อง ด้วยความต้องการแล้วใครใช้สอยบริโภค ก็ตนนั่นแหละ เพื่อตัวเองใช่ไหม ทุกอย่างที่ซื้อมาใช้เองใช่ไหม? ทั้งหมดก็เพื่อตัวเอง

เพราะฉะนั้นมีความติดข้องจนต้องแสวงหา หรือไม่ว่าการติดข้องจะมากน้อยสักเท่าไหร่ ชีวิตทุกขณะแสวงหาอยู่แล้ว โดยที่ไม่รู้ความจริงว่า กำลังแสวงหา แล้วแต่ว่าสิ่งที่แสวงหาจะเป็นคุณเป็นโทษ หรือเป็นประโยชน์สักแค่ไหน แต่ก็เพื่อตน เมื่อใช้สอยบริโภคแล้ว เก็บไว้ไหม? (เก็บไว้) ไม่ได้ให้ใครไปหมดเลย ไม่ได้ใช้หมดเลย แม้มีแล้วหามาได้แล้วใช้แล้วก็ยังเก็บไว้ เพื่อใคร (เพื่อตน)

ทุกคนมีสมบัติแน่ๆ ทั้งหมดเก็บไว้อีกก็เพื่อตน แล้วประการสุดท้ายคือสละสิ่งที่มีแต่ก็เพื่อตน เพราะฉะนั้นจะพ้นไปจากความไม่รู้ได้อย่างไร ในเมื่อตราบใดที่ยังมีความเป็นเราอยู่ เพราะฉะนั้นกว่าจะเข้าใจพระธรรมจริงๆ ประโยชน์อย่างยิ่ง คือให้มีความเห็นถูกต้องว่าไม่มีเรา เพราะฉะนั้น ทุกอย่างทั้งหมดเพื่อใคร เพื่อความไม่มี เพราะว่าเราไม่มี เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ ได้มาก็ไม่มีเราที่จะต้องไปรับหรือว่าเป็นเจ้าของสิ่งนั้น เพราะชัดเจนที่สุด คือ จากโลกนี้ไป สิ่งที่มีทั้งหมดไม่ใช่เป็นสมบัติหรือสิ่งที่เก็บไว้เพื่อตนอีกต่อไป เพราะจากโลกนี้ไปแล้วสมบัติที่เก็บไว้แล้วนั้นเพื่อใคร ในเมื่อไม่มีเรา

อยู่มานานแสนนานในความมืด เพราะไม่รู้ความจริง แต่พอเริ่มฟังพระธรรมเริ่มเข้าใจว่าสิ่งที่มีจริงนี้แหละไม่ใช่เรา มีปัจจัยเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ฟังอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าการที่เราได้เห็นคุณของธรรมที่เราได้เริ่มเข้าใจ ก็รู้ว่าเข้าใจแค่นี้ไม่พอ เมื่อเข้าใจแค่นี้ไม่พอ แล้วอย่างไรก็ฟังต่อไป ไม่ขาดการที่จะอบรมเจริญปัญญาให้เข้าใจขึ้น เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในสังสารวัฏฏ์


กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 4 ม.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
jaturong
วันที่ 4 ม.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ