อิสสาและมัจฉริยะ

 
เบน
วันที่  6 ก.ค. 2550
หมายเลข  4193
อ่าน  4,537

พระโสดาบันละอิสสาและมัจฉริยะได้ มีความหมายว่าอย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 6 ก.ค. 2550

อิสสา (ริษยา) มีความริษยาสมบัติผู้อื่นเป็นลักษณะ

มัจฉริย (ตระหนี่) มีการปกปิดสมบัติของตนเป็นลักษณะ ธรรมทั้ง ๒ ประเภทนี้ เป็นอกุศลที่หยาบ ผู้ที่มีปัญญาระดับพระโสดาบัน ละได้แล้วด้วยปัญญาขั้นโสตาปัตติมรรค

เชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

อิสสาและมัจฉริยะเป็นไฉน? [ธรรมสังคณี]

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 6 ก.ค. 2550

พระโสดาบันท่านละอิสสาและมัจฉริยได้ด้วยปัญญา และกิเลสที่ท่านละแล้ว จะไม่กลับมาเกิดอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ค่ะ ปิดประตูอบายสนิทค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 6 ก.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

[เล่มที่ 14] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 175

ข้อความบางตอนจากอรรถกถา สักกปัญหสูตร

ก็แล ความริษยาและความตระหนี่ที่เป็นเครื่องประกอบ (สัตว์ไว้ในภพ) นี้ จะละได้ก็ด้วยโสดาปัตติมรรค. ตลอดเวลาที่ยังละมันไม่ได้ เทวดาและมนุษย์ แม้ปรารถนาความเป็นผู้ไม่มีเวรเป็นต้น อยู่ก็ตาม ก็หาได้รอดพ้นไปจากเวรเป็นต้น ไม่เลย.

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 6 ก.ค. 2550

เรื่อง เหตุให้เกิดความริษยาและความตระหนี่ คือ อารมณ์อันเป็นที่รักและไม่เป็นที่รัก

เชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

เหตุให้เกิดความริษยาและความตระหนี่ [สักกปัญหสูตร]

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 23 พ.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ