สงสัยเกี่ยวกับหลักธรรม ชาคริยานุโยค ที่แปลว่า ธรรมที่เป็นเครื่องตื่น ตื่นที่ว่าหมายถึงอะไร?
กระผมไม่แน่ใจว่า... "ชาคริยานุโยค" ที่แปลว่า "ธรรมที่เป็นเครื่องตื่น" นี้...
เครื่องตื่นที่ว่านี้หมายถึงอะไร?
1. หมายถึง การปฏิบัติด้วยการเดินจงกรม, นั่งสมาธิกรรมฐาน เท่านั้นรึเปล่า?
หรือ...
2. หมายถึง การเพียรมีสติตื่นรู้ตลอดเวลา
ถ้าเป็นแบบ1 ก็จะออกแนวปฏิบัติตามรูปแบบ แต่ถ้าเป็นแบบ2 อันนี้ทำได้ตลอด ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบเดินจงกรม หรือนั่งกรรมฐาน
จึงอยากเรียนสอบถามผู้รู้ให้ชัดเจนอีกทีครับ ขอบพระคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ถ้าไม่เข้าใจในความเป็นจริงของสภาพธรรมที่ไม่ใช่เรา ก็จะทำผิด ประพฤติผิด มีตัวตนที่จะไปพยายามทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยความไม่รู้ แม้แต่ ชาคริยานุโยค ซึ่งเป็นความเพียรของบุคคลผู้ตื่นอยู่ นั้น ไม่ใช่ว่าจะไปทำอะไร ที่จะไม่หลับไม่นอน โดยที่ไม่มีความเข้าใจอะไรเลย เพราะ ชาคริยานุโยค เป็นความเพียร ที่เป็นไปพร้อมกับปัญญา ที่รู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏตรงตามความเป็นจริง ขาดปัญญา ไม่ได้เลย เป็นการตื่นจากกิเลส ตื่นจากความไม่รู้
ประเด็นนี้ ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้จากกระทู้ด้านล่างนี้ครับ
ชาคริยานุโยค
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบคุณอ.khampan ครับ... อันที่จริงก่อนที่ผมจะตั้งกระทู้สอบถามก็ได้เข้าไปอ่าน link ที่ อ.ส่งมา ชาคริยานุโยค (dhammahome.com) ให้แล้วครับ...
แต่ก็ยังไม่ได้ความชัดเจนถึงสิ่งที่ผมสงสัยอยู่ดี
ว่าตกลง ชาคริยานุโยค นี้...
หมายถึง การเดินจงกรม การนั่งกรรมฐาน เท่านั้นรึเปล่า หรือว่าหมายถึงการเพียรมีสติสัมปชัญญะ
อย่างไรกันแน่...??
ตราบจนตอนนี้ก็ยังเป็นวิจิกิจฉาอยู่ ขอบพระคุณครับ
เรียนความคิดเห็นที่ ๓ ครับ
จงกรม มาจากภาษาบาลีว่า จงฺกม ซึ่งก็คือ การก้าวเดินปกติ ไม่ใช่สร้างท่าทางขึ้นมาให้ผิดปกติ เพราะเหตุว่าการก้าวเดินตามปกตินี้เอง คือ จงกรม อิริยาบถใหญ่ ก็คือ ยืน เดิน นั่ง นอน ซึ่งจะเห็นได้ว่าสำหรับผู้ที่เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ สภาพธรรมใดปรากฏก็สามารถรู้ตามความเป็นจริงได้ในขณะนั้นได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าเข้าใจ จงกรม ผิดไป สำคัญว่า เป็นรูปแบบของการปฏิบัติ นั่นก็ผิดแล้ว ไม่ตรงตามความเป็นจริง
ส่วน นั่งกรรมฐาน คือ อะไร? รู้อะไร? เป็นตัวตนที่จะนั่ง นั่นก็ผิดแล้ว มีความเป็นตัวตนที่คิดว่านั่งแล้วจะรู้สภาพธรรม ซึ่งไม่เข้าใจความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ที่ไหน เมื่อสะสมความเข้าใจในความเป็นจริงของสภาพธรรม สภาพธรรมใดปรากฏก็สามารถรู้ตามความเป็นจริงได้ในขณะนั้นได้
ดังนั้น ถ้าทำผิด ปฏิบัติผิด จะเรียกว่า เดินจงกรม หรือ นั่งกรรมฐาน นั่งสมาธิ หรือ อะไรก็ตาม ที่ผิด ก็คือ ไม่ใช่ ชาคริยานุโยค แต่ถ้ามีการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา มีความเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ สติสัมปชัญญะเกิดขึ้น ระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง จึงจะเป็นผู้ตื่นจริงๆ ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...