รู้ตัวว่ามีกิเลสจึงศึกษาพระธรรม
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๖๕๐]
รู้ตัวว่ามีกิเลสจึงศึกษาพระธรรม
ความจริงประการหนึ่ง คือ ผู้ที่รู้ตัวเองว่ามีกิเลสจึงศึกษาพระธรรม นี่ต่างกับผู้ที่ดีส่วนอื่นแต่ไม่ศึกษาพระธรรม เพราะเข้าใจว่าดีแล้ว เพราะฉะนั้น ในชีวิตประจำวันจริงๆ แต่ละบุคคลจะพิจารณาได้ บางท่านมีอุปนิสัยที่สะสมมาดี เป็นทานุปนิสัย มีอุปนิสัยในการสละวัตถุเพื่อประโยชน์สุขของบุคคลอื่น มีสีลุปนิสัยสะสมมาในเรื่องของกายวาจาที่งามพร้อม แต่ว่าไม่ได้สะสมปัญญาที่จะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ส่วนผู้ใดที่สะสมในทางปัญญา ต้องการที่จะศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ก็ยังจะต้องเป็นผู้ตรงที่จะรู้ว่าพระผู้มีพระภาคทรงแสดงเรื่องของการศึกษาพระธรรมไว้ ถ้าบุคคลใดศึกษาในลักษณะของจับงูพิษที่หาง ย่อมเป็นโทษ เพราะเหตุว่าไม่ได้ศึกษาเพื่อที่จะขัดเกลากิเลส นี่เป็นความต่างกันของจุดประสงค์ของผู้ศึกษาว่าศึกษาเพื่ออะไร ถ้าศึกษาเพื่อขัดเกลากิเลส เริ่มจากการที่ค่อยๆ เข้าใจตัวเอง เพราะว่าธรรมเป็นเรื่องของตัวเองทั้งหมด ตั้งแต่ตื่นจนหลับ ตั้งแต่เกิดจนตาย พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลจริงๆ เรื่องของการเห็น แล้วก็ชอบใจ ไม่ชอบใจ เกิดการกระทำทางกาย ทางวาจาที่เป็นด้วยกุศลจิตบ้าง อกุศลจิตบ้าง
นี่ก็เป็นชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น เมื่อได้ศึกษาพระธรรมแล้ว ก็ย่อมเป็นผู้ที่เข้าใจสภาพธรรมที่ตัวเองชัดเจนถูกต้อง ถ้าเป็นการศึกษาเพื่อที่จะขัดเกลากิเลส เพราะฉะนั้น ลืมจุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรมไม่ได้เลย มิฉะนั้นแล้วการศึกษานั้นจะเป็นการศึกษาแบบจับงูพิษที่หาง และงูพิษนั้นก็จะกัด เพราะเหตุว่าเมื่อมีความรู้มากขึ้น ก็มีความสำคัญตน มีความทะนงตน แต่ว่าไม่ได้น้อมที่จะเป็นผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมด้วยการขัดเกลากิเลส
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย