พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๒๘. คันถสัมปยุตตทุกะ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  27 ก.พ. 2565
หมายเลข  42277
อ่าน  397

[เล่มที่ 88] พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔

พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๗

ปัฏฐาน ภาคที่ ๔

อนุโลมทุกปัฏฐาน

๒๘. คันถสัมปยุตตทุกะ 578-627


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 88]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 578

๒๘. คันถสัมปยุตตทุกะ

ปฏิจจวาระ

อนุโลมนัย

๑. เหตุปัจจัย

[๕๒๗] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

๒. คันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม.

โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ

ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม.

ปฏิฆะ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส.

๓. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วย โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 579

ขันธ์ ๓ ปฏิฆะ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วย โทมนัส ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

๔. คันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม.

จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยปฏิฆะ.

ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย.

๕. คันถสัมปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม.

สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยปฏิฆะ.

๖. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยโลภะที่เป็น ทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม

สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยปฏิฆะ.

๗. คันถสัมปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 580

คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

๘. คันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม และมหาภูตรูปทั้งหลาย.

จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ.

จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ.

๙. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะ เหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

๒. อารัมมณปัจจัย

[๕๒๘] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 581

คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

๒. คันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย

คือ โลภะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม.

ปฏิฆะ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยโทมนัส.

๓. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรมเกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ และโลภะ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิ- คตวิปปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ และปฏิฆะ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

๔. คันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลาย อาศัยหทยวัตถุ.

๕. คันถสัมปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 582

คือ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม.

สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยปฏิฆะ.

๖. คันถสัมปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรมเกิดขึ้น เพราะอารัมมณปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ฯลฯ

การนับจํานวนวาระในอนุโลม

[๕๒๙] ในเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ ในอารัมมณปัจจัย มี ๖ วาระ ในอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ ในอนันตรปัจจัย มี ๖ วาระ ในสมนันตรปัจจัย มี ๖ วาระ ในสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ ในอัญญมัญญปัจจัย มี ๖ วาระ ใน นิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ ในอุปนิสสยปัจจัย มี ๖ วาระ ในปุเรชาตปัจจัย มี ๖ วาระ ในอาเสวนปัจจัย มี ๖ วาระ ในกัมมปัจจัย มี ๙ วาระ ในวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ ในอาหารปัจจัย มี ๙ วาระ ในอินทริยปัจจัย มี ๙ วาระ ในฌานปัจจัย มี ๙ วาระ ในมัคคปัจจัย มี ๙ วาระ ในสัมปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ ในวิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ ในอัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ ในนัตถิปัจจัย มี ๖ วาระ ในวิคตปัจจัย มี ๖ วาระ ในอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ.

 
  ข้อความที่ 6  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 583

ปัจจนียนัย

๑. นเหตุปัจจัย

[๕๓๐] ๑. คันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

อเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ตลอดจนถึงอสัญญสัตว์

โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ.

การนับจำนวนวาระในปัจจนียะ

[๕๓๑] ในนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ ในนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ ในนอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ ในนอนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ ในนสมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ ในนอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ ในนอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ ในนปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ อรูปภูมิเมื่อจะแจกในนปุเรชาตปัจจัยพึงกระทำก่อน, รูปภูมิย่อมได้ในที่ใด พึงกระทำภายหลัง, และปฏิฆ ไม่มีในอรูปภูมิ. ในนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ ในนอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ ในนกัมมปัจจัย มี ๔ วาระ ในนวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ ในนอาหาร ปัจจัย มี ๑ วาระ ในนอินทริยปัจจัย มี ๑ วาระ ในนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ ในนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ ในนสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ ในนวิปปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ ในโนนัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ ในโนวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ.

 
  ข้อความที่ 7  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 584

อนุโลมปัจจนียนัย

การนับจำนวนวาระในอนุโลมปัจจนียะ

[๕๓๒] เพราะเหตุปัจจัย ในนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ ... ใน อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ ในโนวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ.

พึงนับอย่างนี้.

ปัจจนียานุโลม

การนับจำนวนวาระในปัจจนียานุโลม

[๕๓๓] เพราะนเหตุปัจจัย ในอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ ...ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ.

สหชาตวาระ ก็พึงกระทำอย่างที่กล่าวมาแล้ว.

 
  ข้อความที่ 8  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 585

ปัจจยวาระ

อนุโลมนัย

๑. เหตุปัจจัย

[๕๓๔] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

มี ๓ วาระเหมือนกับ ปฏิจจวาระ.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ฯลฯ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ฯลฯ

ในปฏิสนธิขณะ หทยวัตถุ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย, ขันธ์ทั้งหลาย อาศัย หทยวัตถุ.

ฯลฯ มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม อาศัยหทยวัตถุ.

๕. คันถสัมปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม อาศัยหทยวัตถุ.

สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม.

สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย อาศัยปฏิฆะ.

๖. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

 
  ข้อความที่ 9  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 586

คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม อาศัยหทยวัตถุ.

จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยมหาภูตรูปทั้งหลาย.

สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยโลภะที่เป็นทิฏฐิ- คตวิปปยุตตธรรม.

สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยปฏิฆะ.

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ อาศัยหทยวัตถุ.

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ อาศัยหทยวัตถุ. ๗. คันถสัมปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม และหทยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม, หทยวัตถุ และปฏิฆะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส. หทยวัตถุ และปฏิฆะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

๘. คันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม และมหาภูตรูปทั้งหลาย.

จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ.

 
  ข้อความที่ 10  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 587

จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ.

โลภะ อาศัยขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และหทยวัตถุ.

ปฏิฆะ อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และหทยวัตถุ.

๙. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะ เหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม และหทยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

จิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม และ มหาภูตรูปทั้งหลาย.

ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่ เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ และโลภะ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และหทยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ และปฏิฆะ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส และ หทยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ฯลฯ

 
  ข้อความที่ 11  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 588

การนับจำนวนวาระในอนุโลม

[๕๓๕] ในเหตุปัจจัยมี ๙ วาระ ในอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ ใน อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ ในอนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ ในสมนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ ปัจจัยทั้งปวง มี ๙ วาระ ในวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ ในอาหารปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ.

ปัจจนียนัย

๑. นเหตุปัจจัย

[๕๓๖] ๑. คันถวิปปยุตตธรรม อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะนเหตุปัจจัย

คือ ฯลฯ อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ.

อเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ตลอดถึงอสัญญสัตว์.

จักขุวิญญาณ อาศัยจักขายตนะ ฯลฯ กายวิญญาณ อาศัยกายายตนะ.

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ อาศัย หทยวัตถุ.

โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ อาศัยขันธ์ ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ และหทยวัตถุ.

ฯลฯ

การนับจํานวนวาระในปัจจนียะ

[๕๓๗] ในนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ ในนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ ในนอธิปติปัจจัย มี๙ วาระ ในนอนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ ในนอุปนิสสย-

 
  ข้อความที่ 12  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 589

ปัจจัย มี ๓ วาระ ในนปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ ในนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ ในนอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ ในนกัมมปัจจัย มี ๔ วาระ ในนวิปาก ปัจจัย มี ๙ วาระ ในนอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ ในนอินทริยปัจจัย มี ๑ วาระ ในนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ ในนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ ในนสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ ในนวิปปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ ในโนนัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ ในโนวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ.

อนุโลมปัจจนียนัย

การนับจำนวนวาระในอนุโลมปัจจนียะ

[๕๓๘] เพราะเหตุปัจจัย ในนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ ... ฯลฯ ในนอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ.

พึงนับอย่างที่กล่าวมาแล้ว.

ปัจจนียานุโลมนัย

การนับจำนวนวาระในปัจจนียานุโลม

[๕๓๙] เพราะนเหตุปัจจัย ในอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ ... ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ.

แม้นิสสยวาระ ก็เหมือนกับ ปัจจยวาระ

 
  ข้อความที่ 13  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 590

สังสัฏฐวาระ

อนุโลมนัย

๑. เหตุปัจจัย

[๕๔๐] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เจือกับคันถสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ เจือกับขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

๒. คันถวิปปยุตตธรรม เจือกับคันถสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ โลภะ เจือกับขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม.

ปฏิฆะ เจือกับขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส.

๓. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เจือกับคันถสัมปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ และโลภะ เจือกับขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็น ทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ และปฏิฆะ เจือกับขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

 
  ข้อความที่ 14  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 591

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เจือกับคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ เจือกับขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ

๕. คันถสัมปยุตตธรรม เจือกับคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย เจือกับโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม. สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย เจือกับปฏิฆะ.

๖. คันถสัมปยุตตธรรม เจือกับคันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย

คือ ขันธ์ ๓ เจือกับขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๓ เจือกับขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ฯลฯ

การนับจำนวนวาระในอนุโลม

[๕๔๑] ในเหตุปัจจัย มี ๖ วาระ ในอารัมมณปัจจัย มี ๖ วาระ ใน อธิปติปัจจัย มี ๖ วาระ ในปัจจัยทั้งปวง มี ๖ วาระ ในวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ ในอาหารปัจจัย มี ๖ วาระ ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย มี ๖ วาระ.

 
  ข้อความที่ 15  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 592

ปัจจนียนัย

๑. นเหตุปัจจัย

[๕๔๒] ๑. คันถวิปปยุตตธรรม เจือกับคันถวิปปยุตตธรรม เกิดขึ้น เพราะนเหตุปัจจัย

คือ ฯลฯ อาศัยคันถวิปปยุตตธรรม ซึ่งเป็นอเหตุกะ ฯลฯ

ในอเหตุกปฏิสนธิขณะ ฯลฯ โมหะ ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคต ด้วยอุทธัจจะ เจือกับขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ.

ฯลฯ

ปัจจนียนัย

การนับจำนวนวาระในปัจจนียะ

[๕๔๓] ในนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ ในนอธิปติปัจจัย มี ๖ วาระ ในนปุเรชาตปัจจัย มี ๖ วาระ ในนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๖วาระ ในนอาเสวนปัจจัย มี ๖ วาระ ในนกัมมปัจจัย มี ๔ วาระ ในนวิปากปัจจัย มี ๖ วาระ ในนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ ในนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ ในนวิปปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ.

อนุโลมปัจจนียนัย

การนับจำนวนวาระในอนุโลมปัจจนียะ

[๕๔๔] เพราะเหตุปัจจัย ในนอธิปติปัจจัย มี ๖ วาระ ... ใน นปุเรชาตปัจจัย มี ๖ วาระ ในนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๖ วาระ ในนอาเสวน-

 
  ข้อความที่ 16  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 593

ปัจจัย มี ๖ วาระ ในนกัมมปัจจัย มี ๔ วาระ ในนวิปากปัจจัย มี ๖ วาระ ในนวิปปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ.

ปัจจนียานุโลมนัย

การนับจำนวนวาระในปัจจนียานุโลม

[๕๔๕] เพราะนเหตุปัจจัย ในอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ ... ใน อนันตรปัจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯ ในอวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ.

 
  ข้อความที่ 17  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 594

ปัญหาวาระ

อนุโลมนัย

๑. เหตุปัจจัย

[๕๔๖] ๑. คันถสัมปยุตตธรรมเป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

๒. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

เหตุที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

เหตุที่สหรคตด้วยโทมนัส เป็นปัจจัยแก่ปฏิฆะ และจิตตสมุฏฐานรูป ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

๓. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 18  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 595

เหตุที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์, โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

เหตุที่สหรคตด้วยโทมนัส เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์, ปฏิฆะ และ จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

ปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุ ปัจจัย.

ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ

๕. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

คือ โลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

ปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

๖. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

 
  ข้อความที่ 19  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 596

คือ โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอํานาจของเหตุปัจจัย.

ปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

๗. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

คือ เหตุที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

เหตุที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

๘. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

คือ เหตุที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

เหตุที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

๙. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็น ปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจ ของเหตุปัจจัย

 
  ข้อความที่ 20  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 597

คือ เหตุที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรมและโลภะ เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของ เหตุปัจจัย.

เหตุที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

๒. อารัมมณปัจจัย

[๕๔๗] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ขันธ์ทั้ง หลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

พึงถามถึงมูลในแม้ทั้ง ๓ วาระ (วาระที่ ๑ - ๓)

เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ขันธ์ทั้งหลายที่ เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตธรรม ขันธ์ทั้งหลายที่ สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ย่อมเกิดขึ้น, ขันธ์ ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ย่อมเกิดขึ้น.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

 
  ข้อความที่ 21  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 598

คือ บุคคลให้ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ แล้วพิจารณา กุศลกรรมนั้น.

บุคคลพิจารณากุศลกรรมทั้งหลาย ที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อน.

บุคคลออกจากฌาน แล้วพิจารณาฌาน.

พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรคแล้ว พิจารณามรรค, พิจารณาผล, พิจารณานิพพาน.

นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรค, แก่ผล, แก่ อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.

พระอริยะทั้งหลาย พิจารณากิเลสทั้งหลายที่ละแล้ว ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม, พิจารณากิเลสทั้งหลายที่ข่มไว้, ย่อมรู้กิเลสทั้งหลายที่สั่งสมไว้ใน กาลก่อน.

บุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม โลภะ และปฏิฆะ โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภจักษุเป็นต้นนั้น ราคะ ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น วิจิกิจฉา ฯลฯ อุทธัจจะ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.

บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ.

บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยเจโตปริยญาณ.

อากาสานัญจายตนะ เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ, อากิญจัญญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ.

 
  ข้อความที่ 22  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 599

รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็น ปัจจัยแก่กายวิญญาณ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ แก่เจโตปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมูปคญาณ แก่ อนาคตังสญาณ แก่อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.

๕. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลให้ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งกุศลกรรมนั้น เพราะปรารภกุศลกรรมนั้น ราคะที่ เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.

๖. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือบุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ฯลฯ เพราะปรารภขันธ์ ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม โลภะ และปฏิฆะ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคต ด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วย โทมนัส และปฏิฆะ ย่อมเกิดขึ้น.

๗. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอํานาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ, ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัสและปฏิฆะ ขันธ์ ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

 
  ข้อความที่ 23  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 600

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๘)

เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม, โลภะ และขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัสและปฏิฆะ ขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๙)

เพราะปรารภขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ขันธ์ทั้งหลายที่ สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ย่อมเกิดขึ้น.

๓. อธิปติปัจจัย

[๕๔๘] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ

ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่

เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมให้เป็นอารมณ์ อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่

อธิปติธรรมที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 24  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 601

๒. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ

ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่

เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมให้เป็นอารมณ์ อย่างหนักแน่น โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่

อธิปติธรรมที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.

อธิปติธรรมที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็น ปัจจัยแก่โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.

อธิปติธรรมที่สหรคตด้วยโทมนัส เป็นปัจจัยแก่ปฏิฆะ และจิตตสมุฏ- ฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.

๓. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ

ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่

เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมให้เป็นอารมณ์ อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ย่อมเกิดขึ้น.

 
  ข้อความที่ 25  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 602

ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่

อธิปติธรรมที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็น ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย, โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วย อำนาจของอธิปติปัจจัย.

อธิปติธรรมที่สหรคตด้วยโทมนัส เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย, ปฏิฆะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ

ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่

บุคคลให้ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรมแล้ว ฯลฯ กระทำกุศล กรรมนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา.

บุคคลกระทำกุศลกรรมทั้งหลาย ที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อนให้เป็น อารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา.

บุคคลออกจากฌาน กระทำฌานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว พิจารณา.

พระอริยะทั้งหลาย ออกจากมรรค กระทำมรรคให้เป็นอารมณ์อย่าง หนักแน่นแล้วพิจารณา, กระทำผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น แล้วพิจารณา, กระทำนิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น แล้วพิจารณา.

นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรค, แก่ผล, ด้วย อำนาจของอธิปติปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 26  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 603

บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม และโลภะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ครั้นกระทำจักษุเป็นต้นนั้น ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ราคะที่เป็น คันถวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

ที่เป็น สหชาตาธิปติ ได้แก่

อธิปติธรรมที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

๕. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่

ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ อุโบสถกรรม ฯลฯ

กุศลกรรมทั้งหลายที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อน ฯลฯ

ออกจากฌาน พิจารณาฌาน ฯลฯ

บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะกระทำจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม และโลภะ ให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก แน่น ครั้นกระทำจักษุเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ราคะ ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น ทิฏฐิ ย่อมเกิดขึ้น.

๖. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่

 
  ข้อความที่ 27  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 604

เพราะกระทำจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม และโลภะ ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วย โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ย่อมเกิดขึ้น.

๗. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่

เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๘)

เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๙)

เพราะกระทำขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วย โลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ย่อมเกิดขึ้น.

๔. อนันตรปัจจัย

[๕๔๙] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย

 
  ข้อความที่ 28  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 605

คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็น ปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของ อนันตรปัจจัย.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๒)

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่ เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ปฏิฆะ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ด้วย อำนาจของอนันตรปัจจัย.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๓)

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิด ก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดหลังๆ และโลภะ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดหลังๆ และปฏิฆะ ด้วยอำนาจของ อนันตรปัจจัย.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย

 
  ข้อความที่ 29  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 606

คือ โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ปฏิฆะที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ปฏิฆะ ที่เกิด หลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

อนุโลม เป็นปัจจัยแก่โคตรภู แก่ผลสมาบัติ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

๕. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คัยถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย

คือ โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ปฏิฆะ ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

อาวัชชนะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ด้วย อำนาจของอนันตรปัจจัย.

๖. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย

 
  ข้อความที่ 30  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 607

คือ โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดหลังๆ และ โลภะ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ปฏิฆะ ที่เกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดหลังๆ และปฏิฆะ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

อาวัชชนะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็น ทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และ ปฏิฆะ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

๕. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย

คือ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่ เกิดก่อนๆ และโลภะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็น ทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดก่อนๆ และปฏิฆะ เป็น ปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของ อนันตรปัจจัย.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๗)

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิด ก่อนๆ และโลภะ เป็นปัจจัยแก่โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิด หลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 31  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 608

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดก่อนๆ และปฏิฆะ เป็น ปัจจัยแก่ปฏิฆะ ที่เกิดหลังๆ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ, ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๙)

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิด ก่อนๆ และโลภะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็น ทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดหลังๆ และโลภะ ด้วยอำนาจของอนันตรปัจจัย.

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดก่อนๆ และปฏิฆะ เป็น ปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส ที่เกิดหลังๆ และปฏิฆะ ด้วย อำนาจของอนันตรปัจจัย.

๕. สมนันตรปัจจัย ฯลฯ ๘. นิสสยปัจจัย

๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของสมนันตรปัจจัย

ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสหชาตปัจจัย

ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอัญญมัญญปัจจัย

ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของนิสสยปัจจัย

 
  ข้อความที่ 32  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 609

๙. อุปนิสสยปัจจัย

[๕๕๐] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย

มี ๓ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ ปกตูปนิสสยะ

ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๒)

พึงกระทำอุปนิสสยปัจจัย ทั้ง ๓ นัย

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่ เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๓)

พึงกระทำอุปนิสสยปัจจัย ทั้ง ๓ นัย

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่ สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ ด้วยอำนาจของ อุปนิสสยปัจจัย, เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย

 
  ข้อความที่ 33  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 610

มี ๓ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ ปกตูปนิสสยะ

ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่

บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาแล้ว ให้ทาน ฯลฯ ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น ก่อมานะ.

บุคคลเข้าไปอาศัยศีล ฯลฯ ราคะ โทสะ โมหะ มานะ ความปรารถนา สุขทางกาย ทุกข์ทางกาย อุตุ โภชนะ ฯลฯ เสนาสนะ แล้วให้ทาน ฯลฯ ยังสมาบัติให้เกิดขึ้น ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์.

ศรัทธา ฯลฯ ปัญญา ราคะ ฯลฯ ความปรารถนา เสนาสนะ เป็น ปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ แก่ปัญญา แก่ราคะ แก่โทสะ แก่โมหะ แก่มานะ แก่ความปรารถนา ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

๕. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย

มี ๓ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ ปกตูปนิสสยะ

ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่

บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาแล้ว ก่อมานะ ถือทิฏฐิ.

บุคคลเข้าไปอาศัยศีล ฯลฯ ปัญญา ราคะ ฯลฯ มานะ ความ ปรารถนา ฯลฯ เสนาสนะแล้ว ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์.

ศรัทธา ฯลฯ เสนาสนะ เป็นปัจจัยแก่ ราคะ แก่โทสะ แก่โมหะ แก่มานะ แก่ทิฏฐิ แก่ความปรารถนา ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 34  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 611

๖. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย มีอุปนิสสยะทั้ง ๓ นัย.

บุคคลเข้าไปอาศัยศรัทธาแล้ว ก่อมานะ.

บุคคลเข้าไปอาศัยศีล ฯลฯ ปัญญา ราคะ โทสะ โมหะ มานะ. ความปรารถนา สุขทางกาย ฯลฯ เสนาสนะแล้ว ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์.

ศรัทธา ฯลฯ ปัญญา ราคะ โทสะ โมหะ ความปรารถนา เสนาสนะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ด้วย อำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

๗. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย

มี ๓ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ ปกตูปนิสสยะ

ที่เป็น ปกตูปนิสสยะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ, ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๘)

 
  ข้อความที่ 35  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 612

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ และขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม แก่โลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ ปฏิฆะ ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

พึงถามถึงมูล (วาระที่ ๙)

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ และขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ เป็น ปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ด้วยอำนาจของ อุปนิสสยปัจจัย.

๑๐. ปุเรชาตปัจจัย

[๕๕๑] ๑. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ และ วัตถุปุเรชาตะ

ที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่

บุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภจักษุเป็นต้นนั้น ราคะ ที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น วิจิกิจฉา ฯลฯ อุทธัจจะ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.

 
  ข้อความที่ 36  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 613

บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ, ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ.

รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็น ปัจจัยแก่กายวิญญาณ.

ที่เป็น วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่

จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะ เป็นปัจจัย แก่กายวิญญาณ.

หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม และ โลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และปฏิฆะ ด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย.

๒. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ และ วัตถุปุเรชาตะ

ที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่

บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ เพราะ ปรารภจักษุเป็นต้นนั้น ราคะที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ย่อมเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.

ที่เป็น วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่

หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ด้วย อำนาจของปุเรชาตปัจจัย.

๓. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย

 
  ข้อความที่ 37  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 614

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ และ วัตถุปุเรชาตะ

ที่เป็น อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่

เพราะปรารภจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม, โลภะ, ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และ ปฏิฆะ ย่อมเกิดขึ้น.

ที่เป็น วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่

หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็น ทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม, โลภะ, ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย.

๑๑. ปัจฉาชาตปัจจัย

[๕๕๒] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑ วาระ.

๒. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑ วาระ.

๓. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของปัจฉาชาตปัจจัย

คือ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดภายหลัง และโลภะ, ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของปัจฉาชาตปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 38  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 615

๑๒. อาเสวนปัจจัย

[๕๕๓] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอาเสวนปัจจัย

เหมือนกับอารัมมณปัจจัย.

อาวัชชนะก็ดี วุฏฐานะก็ดี ไม่มี.

๑๓. กัมมปัจจัย

[๕๕๔] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย

คือ เจตนาที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

๒. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ นานาขณิกะ

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

เจตนาที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ จิตตสมุฏฐานรูป ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

เจตนาที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัย แก่โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 39  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 616

เจตนาที่สหรคตด้วยโทมนัส เป็นปัจจัยแก่ปฏิฆะ และจิตตสมุฏฐานรูป ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

ที่เป็น นานาขณิกะ ได้แก่

เจตนาที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่วิบากขันธ์ และ กฏัตตารูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

๓. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย

คือ เจตนาที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

เจตนาที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย, โลภะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของ กัมมปัจจัย.

เจตนาที่สหรคตด้วยโทมนัส เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย, ปฏิฆะ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ นานาขณิกะ

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

เจตนาที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และ จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

ที่เป็น นานาขณิกะ ได้แก่

 
  ข้อความที่ 40  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 617

เจตนาที่เป็นคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่วิบากขันธ์ และ กฏัตตารูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

๑๔. วิปากปัจจัย

[๕๕๕] ๑. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ.

๑๕. อาหารปัจจัย ฯลฯ ๑๙. สัมปยุตตปัจจัย

[๕๕๖] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอาหารปัจจัย มี ๔ วาระ.

ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอินทริยปัจจัย มี ๔ วาระ

ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของฌานปัจจัย มี ๔ วาระ

ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของมัคคปัจจัย มี ๖ วาระ

ฯลฯ เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสัมปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ

๒๐. วิปปยุตตปัจจัย

[๕๕๗] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ ฯลฯ

พึงจำแนก.

 
  ข้อความที่ 41  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 618

๒. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

๓. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่

หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ด้วย อำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มีอย่างเดียว คือที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่

หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็น ทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรมและ โลภะ, แก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และ ปฏิฆะ ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

มี ๓ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ ฯลฯ

๕. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรมเป็น ปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 42  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 619

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ และขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะที่เกิดภายหลัง เป็น ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

๒๑. อัตถิปัจจัย

[๕๕๘] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ เหมือนกับปฏิจจวาระ.

๒. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ ฯลฯ พึงจำแนก.

๓. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม โดยอัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ เหมือน กับปฏิจจวาระ.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี ๕ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และ อินทริยะ ฯลฯ พึงจำแนก.

 
  ข้อความที่ 43  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 620

๕. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปุเรชาตะ

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้ง หลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ปฏิฆะที่สหรคตด้วยโทมนัส เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่

บุคคลย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง ซึ่งจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ เพราะ ปรารภจักษุเป็นต้นนั้น ราคะที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ฯลฯ ทิฏฐิ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.

หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ด้วย อำนาจของอัตถิปัจจัย.

๖. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปุเรชาตะ

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

โลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม ที่เกิดพร้อมกัน เป็นปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 44  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 621

ปฏิฆะเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วย อำนาจของอัตถิปัจจัย.

ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่

เพราะปรารภจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่ เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ และขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ ย่อมเกิดขึ้น

หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิ- คตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ, แก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และ ปฏิฆะ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

๗. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอํานาจของอัตถิปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะ และ สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ

ที่เป็น สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ได้แก่

ขันธ์ ๑ ที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมที่เกิดพร้อมกัน และหทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ.

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และโลภะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒.

 
  ข้อความที่ 45  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 622

๘. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย

มี ๕ อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ, ปัจฉาชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ และ ปัจฉาชาตะ รวมกับ อาหาระ และรวมกับ อินทริยะ

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรม ที่เกิดภายหลัง และมหาภูตรูปทั้งหลาย เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัสที่เกิดพร้อมกัน และปฏิฆะ เป็น ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ที่เป็น สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่โลภะ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และหทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ปฏิฆะ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่

 
  ข้อความที่ 46  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 623

ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโลภะ ที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และ โลภะ และขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะที่เกิดภายหลัง, เป็น ปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมที่เกิดภายหลัง และกวฬีการาหาร เป็นปัจจัยแก่กายนี้ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นคันถสัมปยุตตธรรมที่เกิดภายหลัง และรูปชีวิตินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.

๙. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจ ของอัตถิปัจจัย

มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรมที่เกิดพร้อม กัน และโลภะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วย อำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส และปฏิฆะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

 
  ข้อความที่ 47  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 624

ที่เป็น สหชาตะ รวมกัน ปุเรชาตะ ได้แก่

ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโลภะที่เป็นทิฏฐิคตวิปปยุตตธรรม และหทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และโลภะ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

ที่เป็น สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ได้แก่

ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยโทมนัส และหทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และปฏิฆะ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ ฯลฯ

การนับจํานวนวาระในอนุโลม

[๕๕๙] ในเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ ในอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ ในอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ ในอนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ ในสมนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ ในสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ ในอัญญมัญญปัจจัย มี ๙ วาระ ใน นิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ ในอุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ ในปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ ในปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ ในอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ ใน กัมมปัจจัย มี ๔ วาระ ในวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ ในอาหารปัจจัย มี ๔ วาระ ในอินทริยปัจจัย มี ๔ วาระ ในฌานปัจจัย มี ๔ วาระ ในมัคคปัจจัย มี ๔ วาระ ในสัมปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ ในวิปปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ ใน อัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ ในนัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ ในวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ ในอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ.

 
  ข้อความที่ 48  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 625

ปัจจนียนัย

การยกปัจจัยในปัจจนียะ

[๕๖๐] ๑. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของ สหชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย

๒. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของ สหชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของปัจฉาชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของกัมมปัจจัย.

๓. คันถสัมปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็น ปัจจัย ด้วยอำนาจของสหชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย.

๔. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของ สหชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอํานาจของปุเรชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของปัจฉาชาต ปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอํานาจของกัมมปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจ ของอาหารปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอินทริยปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 49  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 626

๕. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของ สหชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของอุปนิสสยปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย.

๖. คันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสหชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของ อุปนิสสยปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของปุเรชาตปัจจัย.

๗. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสหชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของ อุปนิสสยปัจจัย.

๘. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสหชาตปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของ อุปนิสสยปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของปัจฉาชาตปัจจัย.

๙. คันถสัมปยุตตธรรม และคันถวิปปยุตตธรรม เป็นปัจจัยแก่คันถสัมปยุตตธรรม และวิปปยุตตธรรม ด้วยอำนาจ ของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสหชาตปัจจัย, เป็น ปัจจัย ด้วยอํานาจของอุปนิสสยปัจจัย.

 
  ข้อความที่ 50  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 7 มี.ค. 2565

พระอภิธรรมปิฎก ปัฏฐาน เล่ม ๗ ภาค ๔ - หน้า 627

การนับจำนวนวาระในปัจจนียะ

[๕๖๑] ในนเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ ในนอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ ในปัจจัยทั้งปวง มี ๙ วาระ ในโนอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ.

อนุโลมปัจจนียนัย

การนับจำนวนวาระในอนุโลมปัจจนียะ

[๕๖๒] เพราะเหตุปัจจัย ในนอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ ... ใน นอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ ในนสมนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ ในนอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ ในนนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ ในนอุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ ในนมัคคปัจจัย มี ๙ วาระ ในนสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ ในนวิปปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ ในโนนัตถิปัจจัย มี๙ วาระ ในโนวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ.

ปัจจนียานุโลม

การนับจำนวนวาระในปัจจนียานุโลม

[๕๖๓] เพราะนเหตุปัจจัย ในอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ ... ใน อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ พึงกระทำอนุโลมมาติกาให้พิสดาร ในอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ.

คันถสัมปยุตตทุกะ จบ

 
หัวข้อถัดไป
หัวข้อก่อนหน้า

หน้าบัญชีเรื่อง