ความทุกข์
รู้สึกท้อแท้ เหนื่อยล้า ทั้งกายและใจ เหมือนว่าช่วงนี้ได้รับ วิบากกรรม ทั้ง ๔ ทวาร เข้าใจครับว่าเป็นกรรมของเราเอง ไม่มีใครมาทำให้ เพราะว่ายังมีเรา จึงต้องทุกข์ครับ
ความรู้สึกสุข ความรู้สึกทุกข์ ความรู้สึกโสมนัส ความรู้สึกโทมนัส ความรู้สึกไม่สุขไม่ทุกข์ (อุเบกขา) และธรรมะอื่นๆ ก็เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นเพราะปัจจัย ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
ทุกข์ใจเพราะกิเลส ทุกข์กายเพราะผลของกรรม คือ วิบากทั้งทุกข์กายและทุกข์ใจไม่มีใครทำให้ เราทำเองควรมีเมตตาต่อกัน
ทุกข์ทางกายเป็นผลของกรรมใครๆ ก็หนีไม่พ้น แต่ทุกข์ทางใจเป็นกิเลสของเราเอง คนที่มีปัญญาทุกข์กาย แต่ท่านไม่ทุกข์ใจ เพราะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสภาพธรรมะที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ไม่เที่ยง เพราะฉะนั้น ปัญญาจึงเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตค่ะ
ทุกข์กายก็เป็นทุกข์ สุขกายก็เป็นทุกข์ ทุกข์ใจก็เป็นทุกข์ สุขใจก็เป็นทุกข์
ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา
"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ตราบใดที่ยังมีกิเลสมากก็ยังทุกข์เป็นธรรมดา ไม่ได้หมายความว่าเมื่ออบรมปัญญาฟังธรรม ผลของการฟังธรรมคือให้ทุกข์น้อยลง ไม่ใช่อย่างนั้นครับ เพราะเป็นปัญญาขั้นการฟัง แต่การฟังธรรมด้วยความเข้าใจคือ รู้ตามความเป็นจริง ขั้นการฟังว่าเป็นธรรม แม้ไม่ใช่จะประจักษ์หรือรู้ทันที แต่ค่อยๆ อบรม ค่อยๆ มั่นคงในขั้นการฟัง ว่าเป็นธรรม พระโสดาบันก็ยังทุกข์ใจแต่ท่านก็ไม่ได้ยึดถือความทุกข์ใจว่าเป็นเรา แต่เป็นธรรม ศึกษาธรรมเพื่อเข้าใจความจริง เข้าใจว่ามีกิเลสมาก เข้าใจว่าเป็นธรรมและเมื่อรู้ตามความเป็นจริงว่ามีกิเลสมาก และทุกข์เพราะมีการเกิดมาจึงทุกข์ ผู้มีปัญญาจึงแสวงหาทางที่จะดับการเกิด ซึ่งก็มีบุคคลที่ชี้ทางนั้นแล้ว ขึ้นอยู่กับเราเองแล้วหละว่า เมื่อเป็นทุกข์อย่างนี้ จึงไม่ละเลยที่จะเห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรมที่ถูกต้อง เพื่อที่จะได้เข้าใจหนทางจนถึงการดับกิเลส ที่จะไม่ต้องทุกข์อีกครับกำลังใจที่ดี คงไม่มีอะไรที่ประเสริฐไปกว่าการเข้าใจธัมมะ เพราะเมื่อเข้าใจ เมื่อนั้นไม่ทุกข์ ตั้งใจฟังธรรมนะครับ ลองอ่านข้อความในพระไตรปิฎกนะ
เรื่อง เมื่อประสบทุกข์อย่างนี้ควรหาหนทางที่ดับทุกข์ด้วยการฟังธรรมที่ถูกต้อง ถ้าไม่ฟังธรรมก็ไม่ใช่ความผิดคนอื่น แต่เป็น ความผิดเราผู้เดียว
ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่
เรื่อง เมื่อทุกข์อย่างนี้แล้วควรแสวงหา สิ่งที่ประเสริฐ (พระธรรม) เพื่อดับทุกข์
[เล่มที่ 18] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 413
ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอบูชาคุณพระรัตนตรัย
ความทุกข์ ... เกิดจากความคิดและกิเลสของตัวเราใช่ไหมค่ะ
ทุกข์เพราะไม่รู้ความจริง ความจริงคือสภาพธัมมะที่มีในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
ขออนุโมทนา
ถ้าคุณไม่รู้จักทุกข์ ก็จะไม่มีทางพ้นทุกข์ได้ ความทุกข์เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่พึงปรารถนา แต่ก็หนีไม่พ้น เพราะมันมีอยู่ในรูป นาม ขันธ์ ๕ ตามธรรมชาติของทุกคน นี่คือความจริงของชีวิต
คนที่มีกิเลสมากก็ทุกข์มาก คนที่มีกิเลสน้อยก็ทุกข์น้อย ส่วนคนที่มีปัญญาจะไม่ทุกข์เลย
การที่มีปัญญานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ แต่จะพยายามสะสมเพื่อให้เกิดทุกข์ให้น้อยเท่าที่จะทำได้ โชคดีที่มีกัลยาณมิตรที่ดีคอยแนะนำ
ขออนุโมทนาค่ะ
non love pim แค่นี้ก็ไม่มีทุกข์แล้ว!
ไม่ง่ายอย่างที่หนูคิดนะลูก ถ้าง่ายอย่างที่หนูคิด ก็คงไม่มีเว็บไซต์นี้ และพวกเราก็คงไม่ต้องศึกษาอีกต่อไป (ขั้นพระอรหันต์เชียวนะลูก อย่าทำเป็นเล่นไป) ความทุกข์ทั้งหมดทางใจ เกิดขึ้นเพราะเราไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการ คาถาสำคัญท่องเอาไว้นะคะท่าน