พูดเพ้อเจ้อ

 
Sea
วันที่  7 มี.ค. 2565
หมายเลข  42718
อ่าน  1,639

คือรู้สึกว่าเป็นคนพูดจาเพ้อเจ้อ ขำง่ายเกินไป ติดตลก ตลอด นี่เป็นการสร้างเหตุอยู่ ขอผลที่จะตามมาว่าเป็นอย่างไร เพื่อความเข้าใจถูกค่ะ

กราบขอบพระคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 7 มี.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การพูดเพ้อเจ้อ หมายถึง อกุศลเจตนาพูดในเรื่องที่ไม่มีประโยชน์แก่ผู้อื่น แต่การพูดกับผู้อื่นด้วยเมตตาจิตถามสุขทุกข์ และพูดแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตด้วยกุศลจิต ไม่เป็นสัมผัปปลาป ฉะนั้น การจะเป็นการผิดอกุศลกรรมบถข้อการพูดเพ้อเจ้อหมายถึง การพูดด้วยอกุศลเจตนาให้ผู้อื่นรับรู้ในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์

มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๒ - หน้าที่ 112
[สัมผัปปลาป]

[๒๑๗] อกุศลเจตนาที่ยังกายประโยคและวจีประโยค ซึ่งเป็นเครื่องยังผู้อื่นให้รู้สิ่งที่มิใช่ประโยชน์ให้ตั้งขึ้น ชื่อว่าสัมผัปปลาปเพราะวิเคราะห์ว่า "สัมผัปปลาปีบุคคล ย่อมเจรจาคำเพ้อเจ้อ หาประโยชน์มิได้ ด้วยเจตนาธรรมนั่น."

[โทษของสัมผัปปลาป]

สัมผัปปลาปนั้น ชื่อว่ามีโทษน้อย เพราะอาเสวนะน้อย ชื่อว่ามีโทษมาก เพราะอาเสวนะมาก การอบรม การทำให้มาก ชื่อว่าอาเสวนะ อีกอย่างหนึ่งสัมผัปปลาปนั้น อันสัมผัปปลาปีบุคคลให้เป็นไปแล้ว เพื่อให้ผู้ใดถือเอา เมื่อผู้นั้นไม่ถือเอา ชื่อว่ามีโทษน้อยเมื่อผู้นั้นถือเอา ชื่อว่ามีโทษมาก อนึ่ง สัมผัปปลาปนั้น ชื่อว่ามีโทษน้อยและมีโทษมาก ในเพราะความแตกต่างกันแห่งความที่กิเลสอ่อนและแรงกล้า.
[องค์ของสัมผัปปลาป]
สัมผัปปลาปนั้น มีองค์ ๒ คือ ความเป็นผู้มุ่งพูดเรื่องอันหาประโยชน์มิได้ มีเรื่องภารตยุทธ์และเรื่องนำนางสีดามาเป็นต้น เป็นเบื้องหน้า ๑ การพูดเรื่องเห็นปานนั้น ๑ เมื่อผู้อื่นยังไม่ถือเอาเรื่องนั้นอยู่ กรรมบถยังไม่ขาด เมื่อเขาถือเอาเท่านั้น จึงขาด

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 7 มี.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 7 มี.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อกุศล แม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ก็ยังเป็นอกุศล เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี ไม่มีประโยชน์
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเตือนพุทธบริษัทในเรื่องการพูดไว้มากมาย ว่าสิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด กล่าวคือ หากเป็นเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ เป็นเรื่องที่เพิ่มอกุศลให้มีมากขึ้น มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ทั้งคนพูดและคนฟัง ไม่ได้ทำให้กุศลเจริญขึ้นเลย คำพูดในลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นคำเพ้อเจ้อ เป็นคำพูดที่ไม่เป็นประโยชน์ เป็นคำพูดที่ไม่ควรพูด ผลของการพูดเพ้อเจ้อไร้สาระ ย่อมควรแก่เหตุ พูดในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ย่อมไม่มีใครเชื่อถือ ย่อมถูกคัดค้านว่าทำไมถึงต้องพูด ใครจะเชิ่อถือได้

เป็นความจริงที่ว่าตราบใดที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ วาจาก็ย่อมไปกับกุศลบ้าง อกุศลบ้าง เป็นธรรมดา แต่สำหรับบุคคลผู้เห็นโทษของอกุศลธรรม เห็นประโยชน์ของการเจริญกุศลทุกประการ ย่อมหลีกเลี่ยงวาจาหรือคำพูดใดๆ ที่เป็นไปในทางเบียดเบียนผู้อื่น ไม่เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนและแก่ผู้อื่น เพราะการพูดคำพูดดังกล่าว ทำให้อกุศลธรรมเพิ่มมากขึ้น ทำให้กุศลธรรมเสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั้นคือ เป็นผู้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาต่อไป ครับ.

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Sea
วันที่ 7 มี.ค. 2565

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนา อ.ผเดิมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Sea
วันที่ 7 มี.ค. 2565

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนา อ.คำปั่นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
bigcat001
วันที่ 2 ม.ค. 2566

สาธุๆ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ