ลูกสาละ ที่บ้านท่านอาจารย์ดวงเดือน บารมีธรรม ที่แก่งกระจานคันทรีคลับ เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๕
จากที่ได้มีการนำเสนอข่าวที่น่ายินดี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา เรื่องของการผลิดอกบานสะพรั่งของสาละ ต้นไม้สำคัญในพระพุทธศาสนา ที่นำมาจากกุสินารา ประเทศอินเดีย และนำมาปลูกไว้ที่บ้านพักตากอากาศของท่านอาจารย์ดวงเดือน บารมีธรรม รองประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ที่ แก่งกระจานคันทรีคลับ อ.แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี (อีกต้นหนึ่งปลูกไว้ ณ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ซอยเจริญนคร ๗๘ ในวันเปิดอาคารที่ทำการฯ) ตามรายละเอียดของข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น (ติดตามอ่านข่าวดังกล่าว คลิกที่ลิงก์นี้ : กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เมื่อดอกสาละบาน ที่บ้านอาจารย์ดวงเดือน บารมีธรรม แก่งกระจานคันทรีคลับ เพชรบุรี) บัดนี้ คุณ อริญา เอี่ยมสำอาง สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ ๓๔๕๕ ได้กรุณาส่งภาพของ "ลูกสาละ" ณ วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๕ มาให้ทุกๆ ท่านได้ชม ตามภาพด้านล่าง
[เล่มที่ 73] พระสุตตันตปฎกขุททกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาที่ 697
วงศพระโคดมพุทธเจา ที่ ๒๕
"...แมพระนางมหามายาเทวี ทรงบริหารพระโพธิสัตวดวยพระครรภ ๑๐ เดือนแลว มีพระครรภบริบูรณ มีพระประสงคจะเสด็จไปเรือนพระญาติ จึงกราบทูลแดพระเจาสุทโธทนะมหาราชวา ขาแตพระทูลกระหมอม เกลาหมอมฉันใครจะไปเทวทหนครเพคะ. พระราชาทรงอนุญาตแลว โปรดใหทําทางตั้งแตกรุงกบิลพัสดุจนถึงเทวทหนครใหเรียบ ใหประดับดวยตนกลวย หมอเต็มน้ํา หมาก ธงผา เปนตน ใหประทับนั่งในวอทองใหม ทรงสงไปดวย สิริสงาและดวยบริพารกลุมใหญ. ระหวางพระนครทั้งสอง มีมงคลสาลวันชื่อ ลุมพินี ที่ควรใชสอยของชาวนครทั้งสอง. มงคลสาลวันนั้น สมัยนั้นออก ดอกบานสะพรั่งไปหมด ตั้งแตโคนจนถึงยอด เพราะทรงเห็นวนะ งามเสมือนสวนนันทนวัน อันเปนที่สําเริงสําราญแหงเทพ ซึ่งหมูแมลงผึ้งอันผึ้งอื่นๆ เลี้ยงดู ผูเพลินในรสหวานที่ทําความยินดีอยางยิ่ง อันนารื่นรมยยินดี ดวยความเมา มีรวงรังอันเสพแลว ร่ํารองกระหึ่มอยูตามระหวางกิ่ง และ ระหวางดอกทั้งหลาย พระเทวีก็เกิดจิตคิดจะลงเลนสวนสาลวัน.
เหลาอํามาตยกราบทูลพระราชาแลว พาพระราชเทวีเขาไปยังลุมพินีวันนั้น พระนางเสด็จไปยังโคนตนมงคลสาละ มีพระประสงคจะทรงจับกิ่งใดของมงคลสาละนั้น ซึ่งมีลําตนตรงเรียบและกลม ประดับดวยดอกผลและใบออน กิ่งมงคลสาละนั้นไมมีแรงรวนเรเหมือนใจชน ก็นอมลงมาเองถึงฝาพระกรของพระนาง ลําดับนั้น พระนางทรงจับกิ่งสาละนั้น ดวยพระกรที่ทําความยินดีอยางยิ่งขางขวา ซึ่งงามดวยกําไลพระกรทองใหม มีพระองคุลีกลมกลึงดังกลีบบัวอันรุงเรืองดวยพระนขานูนมีสีแดง. พระนางประทับยืนจับกิ่งสาละนั้น เปนพระราชเทวีงดงามเหมือนจันทรเลขาออนๆ ที่ลอดหลืบเมฆสีเขียวคราม เหมือนแสงเปลวไฟ ซึ่งตั้งอยูไดไมนาน และเหมือนเทวีที่เกิดในสวนนันทนวัน ในทันทีนั้นเอง ลมกัมมัชวาตของพระนางก็ไหว ขณะนั้น ชนเปนอันมาก ก็กั้นผามานเปนกําแพงแลวหลีกไป. พระนางเมื่อประทับยืนจับกิ่งสาละอยูนั่นเอง พระโพธิสัตวก็ประสูติจากพระครรภของพระนางนั้น..."
[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ หน้าที่ ๓๐๖-๓๐๗
"...ดูก่อนอานนท์ ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปรายยังพระสรีระของพระตถาคต เพื่อบูชาพระตถาคต แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของทิพย์ แม้ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่า แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ ย่อมเป็นไปในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต
ดูก่อนอานนท์ พระตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชานอบน้อม ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้ หามิได้ ผู้ใดแลจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ด้วยการบูชาอย่างยิ่ง เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ..."
ติดตามกระทู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
- กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เมื่อดอกสาละบาน ที่บ้านอาจารย์ดวงเดือน บารมีธรรม แก่งกระจานคันทรีคลับ เพชรบุรี
- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ใต้ร่มสาละ แก่งกระจานคันทรี่คลับ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓