สัญญาและใจ
ภิกษุ ท.! เราได้กล่าวกะโรหิตัสสเทวบุตรนั้นว่า “แน่ะเธอ! ที่สุดโลกแห่งใด อันสัตว์ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ, เราไม่กล่าวการรู้ การเห็น การถึงที่สุดโลกนั้น เพราะการไป.
แน่ะเธอ! เมื่อยังไม่ถึงที่สุดแห่งโลกแล้ว เราย่อมไม่กล่าวซึ่งการกระทำที่สุดแห่งทุกข์.
แน่ะเธอ! ในกายที่ยาววาหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยสัญญาและใจ นี่เอง เราได้บัญญัติโลก เหตุเกิดของโลก ความดับไม่เหลือของโลก และทางให้ถึงความดับไม่เหลือของโลกไว้” ดังนี้.
- จตุกฺก. อํ. ๒๑/๖๔/๔๖.
ขอความเมตตาอธิบายในพระสูตรนี้ สัญญาและใจ อย่างไร
กราบขอบพระคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความที่ผู้ถามยกมา มาจาก โรหิตัสสสูตร ซึ่งข้อความที่ว่า แน่ะเธอ! ในกายที่ยาววาหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยสัญญาและใจ นี่เอง
ข้อความในอรรถกถา อธิบายไว้ว่า กาย คือ การประชุม ไม่ใช่แค่รูป หมายถึง การประชุมกัน ของนามกาย คือ จิต เจตสิก นั่นคือ สัญญาด้วยและใจ หรือจิตด้วยนั่นเอง ส่วนสัญญา ก็แทนนามธรรม เจตสิกที่เหลือทั้งหมด และ รูปกาย คือ รูปต่างๆ มีธาตุดิน เป็นต้น ที่ประชุมรวมกัน ครับ
ดังนั้น ทั้งหมดที่เคยคิดว่าเป็นเรา ตัวเรา ยาววาหนึ่ง เป็นต้น ก็คือ สัญญาและใจ คือ จิต เจตสิก รูป นั่นเองครับ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 384
อรรถกถาโรหิตัสสสูตร
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า ดูก่อนผู้มีอายุ เราไม่บัญญัติสัจจะ ๔ นี้ลงในหญ้าและไม้เป็นต้น แต่เราบัญญัติลงใน กายที่ประกอบด้วยมหาภูตรูป ๔ นี้เท่านั้น.
ขออนุโมทนา
ขอนอบนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ชีวิตของแต่ละคน ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่กล่าวว่า เป็นคนนั้น คนนี้ ก็คือ ความเกิดขึ้นเป็นไปของสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรม กับ นามธรรม เท่านั้น ชีวิตไม่ได้พ้นจากนี้เลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรศึกษาให้เข้าใจตรงตามความเป็นจริง เมื่อได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็จะพบข้อความมากมายที่เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งแต่ละคำ ก็แสดงเปิดเผยให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ตรงตามความเป็นจริง สภาพธรรมที่เป็นรูปธรรม มีจริง สภาพธรรมที่เป็นนามธรรม เช่น สัญญา และ สภาพธรรมที่เป็นจิต เป็นต้น มีจริง ล้วนเกื้อกูลให้เข้าใจว่า มีแต่ธรรมเท่านั้น ไม่มีเรา และตราบใดที่ยังมีการเกิดอยู่ ก็ยังมีสภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอย่างไม่สิ้นสุด ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...